xs
xsm
sm
md
lg

อึ้ง! ผู้ป่วยถูกตัดขาเพิ่มปีละ 3,500 ราย ยังเข้าไม่ถึงสิทธิ์เกือบ 2 หมื่นคน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไทยมีคนพิการขาขาด 46,000 ราย เกือบ 20,000 คน ยังเข้าไม่ถึงสิทธิ์ อึ้ง! แต่ละปีมีผู้ถูกตัดขาเพิ่มถึง 3,500 ราย ตั้งเป้าสำรวจค้นหาและขึ้นทะเบียนรับขาเทียมฟรี ครบ 100% ภายในปี 2559 และเร่งศึกษาวิจัยใช้ยางพารา ทำขาเทียมแทนโพลียูรีเทน ชี้อายุใช้งานนานขึ้น

วันนี้ (16 ก.ย.) ที่ศูนย์สิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ จ.นนทบุรี นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวระหว่างเป็นประธานพิธีเปิดโครงการเข้าถึงสิทธิ สร้างโอกาสคนพิการสู่สังคม พร้อมมอบอุปกรณ์เครื่องช่วยความพิการแก่คนพิการ จำนวน 50 คน ว่า รัฐบาลมีนโยบายลดความเหลื่อมล้ำของคนไทยในด้านต่างๆ โดยเฉพาะผู้ที่มีข้อจำกัด เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ ให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้เหมือนคนทั่วไป โดยกลุ่มคนพิการนั้นทั่วประเทศ มีประมาณ 2 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 2.9 ของประชากรทั้งหมด รัฐบาลได้กำหนดแนวทางเสริมสร้างพัฒนาศักยภาพของคนพิการด้านต่างๆ เพราะเชื่อว่ายังมีคนพิการจำนวนมากที่มีความสามารถ หากได้รับการฝึกอาชีพที่เหมาะสม จะสร้างรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ ทั้งนี้รัฐบาลได้มอบหมายให้ 6 หน่วยงาน ได้แก่ สธ.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงการคลัง และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) บูรณาการพัฒนาระบบการให้บริการแก่คนพิการ ให้มีคุณภาพชีวิตดียิ่งขึ้น

ด้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัด สธ. กล่าวว่า ผลสำรวจคนพิการของสำนักงานสถิติแห่งชาติล่าสุดในปี 2550 ทั่วประเทศมีคนพิการขาขาดประมาณ 46,000 ราย สาเหตุส่วนใหญ่มาจากโรคเรื้อรังที่มีปัญหาหลอดเลือดตีบที่ขา เช่น โรคเบาหวาน รองลงมาคือ อุบัติเหตุจราจร ส่วนใหญ่ผู้ที่ถูกตัดขาอยู่ในกลุ่มผู้สูงอายุร้อยละ 47.9 และพบว่ามีผู้ที่ต้องถูกตัดขา กลายเป็นคนพิการรายใหม่เพิ่มปีละประมาณ 3,500 ราย คาดว่ามียังคนพิการขาขาดจำนวน 19,310 ราย ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการขาเทียม ด้วยข้อจำกัดหลายปัจจัย ทำให้การประกอบกิจวัตรประจำวันและการดำรงชีวิตมีข้อจำกัด

นพ.ณรงค์ กล่าวอีกว่า ในการขับเคลื่อนนโยบาย สธ.ได้กำหนดยุทธศาสตร์บูรณาการทำงานร่วมกัน 2 ระยะคือ ระยะเร่งรัด มี 4 มาตรการคือ 1.ให้ผู้พิการที่ยังไม่มีขาเทียม ลงทะเบียนผ่านระบบสารสนเทศ เพื่อใช้สิทธิได้ง่ายด้วยตนเอง 2.ค้นหาคนพิการในทุกหมู่บ้านทุกชุมชน โดยให้ อสม.ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อลงทะเบียนและจัดทำขาเทียมครบ 100 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2559 3.เพิ่มศักยภาพการผลิตขาเทียมให้ได้มากกว่า 16,000 ชิ้นต่อปี โดยให้ สธ.กระทรวงการคลัง และ สปสช.จัดงบประมาณเป็นเงินทุนประเดิมกระตุ้นและสนับสนุนให้โรงงานผลิตกายอุปกรณ์ทั่วประเทศ 124 แห่ง ซึ่งอยู่ในสังกัด สธ.103 แห่ง และหน่วยงานอื่นๆ 21 แห่ง ในการจัดหาเครื่องจักรและวัสดุอุปกรณ์ในการผลิตเพื่อรองรับความต้องการได้ในระยะเวลาอันสั้น และ 4.ให้กรมบัญชีกลาง สำนักงานประกันสังคม และ สปสช.เร่งรัดปรับบัญชีกายอุปกรณ์ เพื่อให้ผู้พิการทั้ง 3 กองทุน มีสิทธิเบิกจ่ายค่ากายอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างเท่าเทียมกัน และจัดทำงบประมาณประจำในการจัดซื้อขาเทียม งบบำรุงซ่อมแซม หรือทดแทนใหม่ เนื่องจากขาเทียมมีอายุใช้งานโดยเฉลี่ย 3 ปี

นพ.ณรงค์ กล่าวด้วยว่า สำหรับแผนระยะยาว กำหนดไว้ 3 มาตรการ ดังนี้ 1.ให้ศูนย์สิรินธรฯ ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและเพิ่มปริมาณการผลิต ลดการนำเข้าและลดต้นทุนการผลิตขาเทียม ให้มีคุณสมบัติดี คือเบา ทนทาน สวยงาม โดยเฉลี่ยต้นทุนการผลิตขาเทียมในประเทศข้างละประมาณ 30,000 บาท หากนำเข้าจะมีมูลค่าประมาณ 70,000 บาท ขาเทียมที่คนพิการไทยใช้มากที่สุดคือขาเทียมชนิดใต้เข่า ใช้ร้อยละ 61 รองลงมาคือเหนือเข่า ร้อยละ 32 ระดับเข่าร้อยละ 3 ระดับสะโพกและระดับข้อเท้า อย่างละประมาณร้อยละ 2 อุปกรณ์ขาเทียมที่ไทยผลิตเองซึ่งยังอยู่ในช่วงวิจัย กำลังทดสอบ คือข้อเข่าขาเทียม นอกจากนี้ยังได้เร่งให้พัฒนาหาวัสดุที่ผลิตขาเทียมในประเทศ เพิ่มอายุการใช้งานให้นานขึ้น เช่น ใช้ยางพาราเป็นวัสดุที่สามารถใช้ผลิตฝ่าเท้าเทียม แทนการใช้พลาสติกโพลียูนีเทน ซึ่งมีอายุใช้งาน 1-2 ปี ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาลง และส่งเสริมการแปรรูปยางพาราให้มากขึ้น 2.ให้ศูนย์สิรินธรฯ ร่วมมือกับกระทรวงการพัฒนาสังคมฯฝึกอบรมคนพิการขาขาดให้เป็นช่างทำขาเทียม และทำงานในโรงงานกายอุปกรณ์ โดย สธ.จะจัดสรรตำแหน่งและสร้างแรงจูงใจอื่นๆ เพื่อให้มีผู้เข้ามาทำงานในสาขาการผลิตวัสดุกายอุปกรณ์การแพทย์มากขึ้น ซึ่งจะแก้ไขปัญหาขาดแคลนบุคลากรด้านนี้ และเชื่อว่างานผลิตขาเทียมจะมีคุณภาพและรู้ถึงความต้องการของผู้ใช้งานได้ดีที่สุด และ 3.การป้องกันและลดจำนวนคนพิการ สธ.มีนโยบายชัดเจน โดยกำหนดเป็นตัวชี้วัดในการทำงานเพื่อลดจำนวนผู้ป่วยเบาหวาน และป้องกันไม่ให้เกิดโรคแทรกซ้อนอันเป็นสาเหตุให้สูญเสียขา และรณรงค์ป้องกันและควบคุมอุบัติเหตุจราจรร่วมกับกระทรวงคมนาคม












กำลังโหลดความคิดเห็น