“จาตุรนต์” มอบ สพฐ.เป็นแม่งานดันคุณภาพการศึกษาไทยขึ้นอันดับประเมิน PISA สูงขึ้นกว่าเดิมตามนโยบายเร่งด่วนที่ให้ไว้ พร้อมตั้งคณะทำงานขึ้นมาขับเคลื่อนงานในภาพรวม ระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง-นักวิชาการมามีส่วนร่วม
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า เพื่อสนองนโยบายขับเคลื่อนประเทศไทย โดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วนที่ต้องการผลักดันให้การประเมินคุณภาพการศึกษาของไทยโดยองค์กรต่างประเทศ โดยเฉพาะการประเมิน PISA ให้ขยับไปสู่อันดับที่สูงขึ้น เนื่องจากการประเมินครั้งล่าสุดของ PISA พบว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 50 จากประเทศที่เข้าร่วมประเมินประมาณ 60 ประเทศนั้น ทั้งนี้ ส่วนตัวเห็นว่าการจะขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้สำเร็จจะต้องมีการประกาศเป้าหมายที่ชัดเจน ทำให้เป็นเรื่องใหญ่และต้องขับเคลื่อนพร้อมกันทั่วประเทศในทิศทางเดียวกัน ที่ผ่านมา หลายหน่วยงานก็มีการดำเนินการต่างๆ เพื่อให้ประเทศไทยเลื่อนไปอยู่ในอันดับที่ดีขึ้น แต่เป็นในลักษณะต่างคนต่างทำ จึงไม่เห็นผลเท่าที่ควร
เพราะฉะนั้น จำเป็นต้องมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาขับเคลื่อนเรื่องนี้ในภาพรวมโดยเฉพาะ ซึ่งองค์ประกอบของคณะทำงานชุดนี้ควรมีความหลากหลาย ซึ่งนอกจากจะต้องมีหน่วยงานหลักต้นสังกัดของสถานศึกษา ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) แล้วนั้น ยังควรต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีบทบาทสำคัญ คือ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ภาษา ด้านการสอน นักการศึกษามาร่วมเป็นคณะทำงานด้วย อย่างไรก็ตาม ระหว่างการประชุมมอบนโยบายให้ สพฐ.เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้มอบหมายให้ สพฐ.เป็นแม่งานในการขับเคลื่อนไทยเลื่อนอับดับ PISA ยกร่างแผนการทำงานรวมถึงไปเตรียมการเรื่องการตั้งคณะทำงานด้วย พร้อมกันนี้ได้ฝากให้สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เข้าไปช่วย สพฐ.จัดทำแผนขับเคลื่อนด้วย
“จะต้องมีการรณรงค์ในวงกว้างไปยังโรงเรียน ครู นักเรียน และผู้ปกครองด้วย เพราะการสอบ PISA นั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย อาจไม่ได้รับความร่วมมือ เพราะฉะนั้นจำเป็นต้องทำความเข้าใจเพื่อให้ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม จะต้องรอการประกาศผล PISA ล่าสุดช่วงปลายปีก่อน เพื่อดูว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับใด จากนั้นจึงจะสามารถตั้งเป้าหมายได้ว่าต้องการขับเคลื่อนให้ไทยเลื่อนขึ้นมาอยู่ในอันดับที่เท่าไร” นายจาตุรนต์ กล่าวและว่า ทั้งนี้ การขับเคลื่อนจะต้องทำทั้งระบบ คือ ต้องมีการดำเนินการในส่วนอื่นๆ ตามมาด้วย อาทิเช่น ต้องการมีการพัฒนาภาษาอังกฤษตามมา กำหนดเป้าหมายว่าการทำข้อสอบภาษาอังกฤษระดับนานาชาติ ต้องมีคะแนนดีขึ้นเท่าใด รวมถึงต้องเชื่อมโยงกับการพัฒนาครูด้วย