สอศ.เตรียมทุ่มงบ 35 ล.ส่งเด็กอาชีวะไทยเรียนและฝึกงานใน ตปท.ประเดิมรุ่นแรก 835 คนปี 56 โดยส่งไปอิสราเอล มากสุดส่วนสาขาที่ส่งไปฝึกงานอันดับต้นๆ คือ เกษตร รองลงมาคือธุรกิจเกษตร อุตสาหกรรม “ชัยพฤกษ์” ฝันไกลยกระดับคุณภาพเด็กอาชีวะได้มาตรฐานระดับโลกไม่ใช่แค่อาเซียน
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) กล่าวถึงโครงการความร่วมมือกับอาชีวศึกษาต่างประเทศเพื่อจัดส่งนักเรียน นักศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ไปฝึกงาน ว่า สอศ.เห็นว่าการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนนั้นไม่ควรจำกัดแค่มาตรฐานระดับอาเซียน แต่ต้องมองภาพใหญ่ถึงระดับโลกด้วย เพราะฉะนั้นจึงต้องเร่งพัฒนาหลักสูตรและส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษาของเราได้รับการพัฒนาที่สูงขึ้นมีคุณภาพตรงความต้องการของตลาดแรงงาน จึงได้ทำโครงการดังกล่าวขึ้นประสานความร่วมมือกับอาชีวศึกษาในต่างประเทศแลกเปลี่ยนนักเรียน นักศึกษาไปเรียนและฝึกงานในประเทศนั้น ซึ่งเด็กจะได้ทั้งความรู้ ทักษะการปฏิบัติงานจริงจากสถานประกอบการของต่างประเทศ ตลอดจนได้เรียนรู้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เรียนรู้ภาษา วัฒนธรรม ตลอดจนคำศัพท์ทางวิชาการในสาขาวิชาชีพ โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีการศึกษา 2556 มีนักเรียน นักศึกษาไปฝึกงาน จำนวน 835 คน ซึ่งมากกว่าเป้าที่วางไว้ 500 คน มีระยะการเรียนและฝึกงานตั้งแต่ 2 สัปดาห์ถึง 3 เดือดน ซึ่งโครงการนี้ สอศ.ได้เตรียมงบประมาณสนับสนุนไว้ 35 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศที่นักเรียน นักศึกษาไปเรียนและฝึกงานมากที่สุด คือ อิสราเอล 165 คน ส่วนที่เหลือเลือกไปฝึกงาน คือเดนมาร์ก กัมพูชา จีน เยอรมนี ออสเตรเลีย มาเลเซีย เนการาบูรไน ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ เวียดนาม และพม่า ส่วนสาขาที่จัดส่งไปฝึกงานมากที่สุดคือ สาขาเกษตร นอกนั้นเป็นธุรกิจเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร การโรงแรม ยานยนต์ การเพาะเลี้ยง แปรรูปสัตว์น้ำ หุ่นยนต์ อุตสาหกรรมการผลิตและบริการ เทคโนโลยีวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม ธุรกิจบริการ อุตสาหกรรมต่อเรือ อุตสาหกรรม และวิชาชีพช่าง นอกจากนี้ ในบางสาขายังจัดส่งครูไปเข้าร่วมกิจกรรมด้วย ทั้งนี้ ระหว่างที่ฝึกงานอยู่นั้น เด็กจะได้รับเบี้ยเลี้ยงตามอัตราที่ประเทศนั้นๆ กำหนดไว้ โครงการนี้จึงเป็นแรงจูงใจให้เด็กเลือกเรียนสายอาชีวะเพิ่มมากขึ้นได้เป็นอย่างดี
