xs
xsm
sm
md
lg

กะเทาะชีวิต “คาโรลีน ลิงค์” ทายาทรุ่น 4 บี.กรีม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คาโรลีน ลิงค์
 
ยาวนานกว่า 130 ปีแล้ว ที่นักธุรกิจชาวเยอรมัน ตระกูลลิงค์ เลือกมาลงหลักปักฐานสร้างบริษัทขายยาเล็กๆ ในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ บริษัท บี.กริมและด้วยความผูกพันอันดีที่มีกับคนไทยมาช้านาน จากกิจการเล็กๆ ก็เติบโตมีธุรกิจหลากหลายกลายเป็นอาณาจักรใหญ่ ยาวนานสืบทอดต่อกันมาถึงรุ่นที่ 4 คาโรลีน ลิงค์ สาวน้อยวัย 31 ปี ถูกวางตัวเป็นเบอร์หนึ่ง ให้สานต่อกิจการแห่งนี้ ทำไมเธอจึงถูกเลือกและอะไรคือแรงบันดาลใจ ที่ทำให้เธอลุยต่อธุรกิจนี้อย่างแข็งขัน

 
บี.กริม กรุ๊ป เป็นบริษัทข้ามชาติที่เติบโตและขยายธุรกิจออกไปอย่างกว้างขวาง ปัจจุบันแม้จะอยู่ภายใต้การดูแลของ ฮาราลด์ ลิงค์ แต่ด้วยวัยที่ใกล้ 60 ปีเข้ามาทุกที ฮาราลด์วางแผนที่จะลดบทบาทการทำงานลง แต่จะยังนั่งเป็นกรรมการและที่ปรึกษา และเริ่มสอนงานให้กับ คาโรลีน ลิงค์ ลูกสาววัย 31 ปี มาสืบทอดกิจการกลุ่ม บี.กริม เพื่อวาดตำนานใหม่ในอนาคต

 
“คอรีนไม่มายด์ว่าต้องทำอะไร เพราะตั้งแต่เด็กอยากเป็นหลายอย่างมาก (หัวเราะ) สมัยเรียนชอบทำกิจกรรม จริงจังทุกอย่าง แต่ถ้าเข้าไปทำแล้วเรารู้สึกว่าทำได้ไม่ดี ก็จะเก็บมาศึกษา ถามคนที่เขาเก่งกว่า จนถึงที่สุดแล้วยังทำได้ไม่ดี ไม่มีประโยชน์กับตรงนั้นจริงๆ ก็จะหยุด ให้คนที่เขาเหมาะสมเข้ามาทำ แล้วเราก็หาสิ่งที่เหมาะกับตัวเอง ทำแล้วมีประโยชน์กับสังคมคนรอบข้างดีกว่า อย่างตอนไปฝึกงาน มีหลายจุดที่ทำแล้วไม่ได้เรื่อง ตรงนั้นถือเป็นประสบการณ์ อย่างน้อยสิ่งที่ได้คือ เรารู้ว่ากระบวนการเป็นอย่างไร บางอันทำแล้วสนุกอยากทำต่อ แต่มันก็มีอะไรอีกหลายอย่างรอคอรีนอยู่ ซึ่งเราก็สนใจด้วย”  คาโรลีนกล่าวถึงความเป็นตัวตนของเธอ

 
ในวัย 31 ปี กับภาระที่อยู่ตรงหน้า เธอยอมรับว่ากังวลใจบ้างเล็กน้อย แต่มีพ่อและแม่เป็นแบ็คอัพและกำลังใจให้ตลอด อีกทั้งผู้ร่วมงานก็ดีทุกคน การทำงานตรงนี้จึงไม่ใช่ปัญหา การรับงานต่อจากพ่อ ไม่ได้รู้สึกว่ามีความกดดันใดๆ ต่างจากพ่อของเธอ ที่ปู่มอบงานให้ทำช่วงที่เป็นเด็กหนุ่มไม่มีประสบการณ์ ดังนั้น ทุกครั้งที่งานผิดพลาด ฮาราลด์จะรู้สึกเครียดและกดดันตัวเองว่า ทำได้ไม่ดีเท่าที่พ่อของเขาเคยทำไว้

คอรีนบอกว่า พ่อจะบอกกับเธอเสมอว่า ไม่อยากให้เครียด จึงไม่กำหนดว่าต้องทำให้ได้ และจะค่อยๆ ให้เธอซึมซับการเป็นนักบริหารอย่างช้าๆ “วันแรกที่พ่อบอกให้เข้าประชุมกับบอร์ดบริษัท ก็ตื่นเต้นนะคะ แรกๆ ก็เข้าไปนั่งข้างคุณพ่อ นั่งฟังแล้วก็จดอย่างเดียว พอนานๆ เข้าก็เริ่มคุ้นชิน เรามีไอเดียอะไรก็เริ่มเสนอบ้าง โชคดีที่ผู้บริหารทุกท่านคุ้นเคยกันดี เขาเห็นคอรีนมาตั้งแต่เป็นเด็ก ก็จะรักเหมือนเราเป็นลูกหลานเขาคนหนึ่ง เวลาคอรีนไม่รู้อะไรก็จะสอนจะแนะนำ เพราะผู้บริหารส่วนใหญ่อยู่กับบริษัทเรามานาน 40-50 ปีขึ้นไป และเราจะอยู่เหมือนพี่น้อง ตอนนี้เข้าดูแลในกลุ่มธุรกิจสังหาริมทรัพย์”

 

สาวน้อยผมทองรูปร่างเล็กๆ แต่ทว่าการพูดจาฉะฉานคนนี้ ยังบอกอีกว่า การเรียนรู้ของเธอไม่มีวันสิ้นสุด เพราะโลกมีวิวัฒนาการไปเรื่อยๆ ทุกธุรกิจมีการแข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เธอและทีมงานก็ต้องก้าวตามให้ทัน แต่ไม่ว่าวันเวลาจะเปลี่ยนไปอย่างไร การทำงานยังต้องยึดหลักที่บรรพบุรุษสั่งสอน “สิ่งที่พ่อเน้นมากคือ เรื่องการเรียนรู้วัฒนธรรม การทำงานต้องซื่อสัตย์ ถ้าเราซื่อตรง คนดี สินค้าดี ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น บริษัทเราอยู่ได้ด้วยตัวของเราเอง และทุกคนที่ทำงานกับเรา ก็เป็นมืออาชีพทั้งหมด ไม่ว่าจะเจออะไรเรารับมือได้หมด”

 
ก่อนจากกันเราถามถึงครอบครัวตอนนี้ คอรีนบอกว่า ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง คุณพ่อกับเธอดูแลงานของ บี.กริม คุณแม่เป็นแม่บ้าน ส่วนน้องชายคนเล็กกำลังศึกษาอยู่ โดยน้องชายคนเล็กตอนนี้กำลังเรียนเรื่องธรรมะ
คาโรลีนแบ่งเวลาทุกเย็นนั่งสมาธิเพื่อการผ่อนคลาย
 
“ถึงครอบครัวเราจะเป็นคริสต์ แต่เมื่อน้องชายสนใจเรื่องศาสนาพุทธ คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ว่าอะไร เพราะทุกศาสนาสอนให้เป็นคนดีอยู่แล้ว ทุกครั้งที่เขากลับมา ก็จะชวนพวกเรานั่งสมาธิ พวกเราก็ลองทำดูปรากฏว่าช่วยได้เยอะมาก อย่าง คอรีน เวลาทำงานจะวางเป้าหมายสูง ก็มีปัญหาเรื่องเครียดไม่รู้ตัว ทุกวันนี้ก็จะชวนคุณแม่ไปนั่งสมาธิ เพื่อผ่อนคลาย ลองทำดูปรากฏทุกอย่างมันคลายตัว มันโล่งช่วยให้เรามีพลังเพื่อที่จะทำงานในวันต่อๆไป"  คาโรลีนกล่าวพร้อมรอยยิ้มที่สดใส

กำลังโหลดความคิดเห็น