พศ.สั่งเข้มตรวจสาขาวัดป่าขันติธรรม ชี้พระเดินทางไปต่างประเทศ หากไม่กลับตามกำหนด เจ้าอาวาสขับออกจากวัด ถือเป็น “พระเถื่อน” ด้าน กมธ.ศาสนา วุฒิฯ จี้ พศ.เร่งสอบ “หลวงปู่เณรคำ” หวั่นเสื่อมเสียวงการพระ พร้อมเร่งติดตามหากมีการหลบหนี
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า การตรวจสอบสำนักสงฆ์สาขาของวัดป่าขันติธรรมนั้น พศ.กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ โดยได้กำชับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ว่า ต้องได้ข้อมูลรายละเอียดที่ชัดเจนทั้งเรื่องของที่ตั้งสำนักสงฆ์ อยู่ในที่ดินของใคร ใช้ประโยชน์อย่างไร มีพระอยู่ในฐานะอะไร ใครเป็นผู้อนุญาตด้วย ส่วนในเรื่องของการเดินทางไปต่างประเทศ หากไม่เดินทางกลับตามกำหนดที่ขออนุญาตจากศ.ต.ภ.ก็มีแนวทางในการดำเนินการ หลายด้าน เช่น 1.ประเทศเจ้าของมีดุลยพินิจ หากเห็นว่าพระไม่กลับเมื่อครบกำหนด ก็สามารถแจ้งให้กลับยังประเทศที่มาได้ 2.ระหว่างที่ ศ.ต.ภ.กำหนดอนุญาตให้อยู่ 10 วัน แต่วีซ่าให้อยู่ 3 เดือน ก็สามารถอยู่ได้ แต่ต้องขออนุญาตต่อระยะเวลาการอยู่ในต่างประเทศมายัง ศ.ต.ภ.ว่าจะพิจารณาอนุญาตหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเหตุผลของพระรูปนั้นๆ หาก ศ.ต.ภ.ไม่อนุญาต แล้วยังไม่เดินทางกลับ ทางเจ้าอาวาสก็สามารถพิจารณาว่า ออกจากวัดเกินกำหนด ก็มีสิทธิที่จะขับออกจากวัดไม่ให้อยู่ในสังกัดได้ หากพระรูปนั้นไม่สามารถหาสังกัดวัดอยู่ได้ตามระยะเวลาที่กำหนดอีก ก็ถือว่าเป็นพระเถื่อนทันที
ส่วนการตรวจสอบสถานะทางการเงินของหลวงปู่เณรคำนั้น คณะผู้ปกครองกำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ นอกจากทางเจ้าคณะผู้ปกครอง ต้องการให้ พศ.เข้าไปช่วยดำเนินการ เราก็สามารถเข้าไปช่วยคณะสงฆ์ตรวจสอบได้ ส่วนกรณีที่มีการตั้งบริษัทในการรับจัดสร้างพระต่างๆ ประชาชนสามารถร้องให้กรมสรรพากร เข้าไปตรวจสอบสถานะการเงินของบริษัทดังกล่าวได้ด้วย
คณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ที่มีนายจักรธรรม ธรรมศักดิ์ ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม โดยเป็นการพิจารณาแนวทางการดำเนินการของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จากกรณีพระวิรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ วัดป่าขันติธรรม ที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระสงฆ์ ซึ่งได้เชิญสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง
โดย นายกนก แสนประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ชี้แจงว่าวัดป่าขันติธรรม อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ มีสถานะเป็นเพียงที่พำนักสงฆ์ ซึ่งเคยขออนุญาตสร้างวัดแต่ยังไม่มีการดำเนินการให้แล้วเสร็จ ขณะที่ พระวิรพล ฉัตติโก เป็นพระภิกษุที่ผ่านการอุปสมบทจริงอยู่ในสังกัดธรรมยุต แต่ขณะนี้รอเอกสารหนังสือราชการการอุปสมบทเพื่อยืนยัน
ด้านกรรมาธิการได้เรียกร้องให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เร่งดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง และให้นำประเด็นนี้เป็นแบบอย่างในการตรวจสอบการกระทำที่ไม่เหมาะสมของพระภิกษุ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนา ขณะที่ นายวรเดช อมรวรพิพัฒน์ และนายสันติสุข โสภณสิริ ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการ ยืนยันว่าคลิปที่เผยแพร่คำเทศน์ของหลวงปู่เณรคำ ที่ระบุว่าได้พบกับพระอินทร์ถือเป็นการอวดอุตริมนุสธรรม ซึ่งมีความผิดถึงขั้นปาราชิก ชัดเจน ขณะเดียวกันได้ฝากให้ทางสำนักพระพุทธศาสนา ตรวจสอบว่าวีซ่าของหลวงปู่เณรคำที่เดินทางไปกิจนิมนต์ที่ประเทศฝรั่งเศส จะหมดอายุเมื่อใดและหากหลบหนีไม่เดินทางกลับมาในระยะเวลาที่กำหนดจะสามารถใช้กฎหมายใดได้บ้างในการติดตามกลับมาประเทศไทย