โรคบวมน้ำเหลือง เป็นสาเหตุหนึ่งซึ่งยังความทุกข์ทรมานให้กับประชาชนคนไทยจำนวนมาก
นพ.วิชัย เอกทักษิณ แห่งสถาบันบุพโพวิทยา และเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่คิดค้นวิธีรักษาด้วยการวิธีการขันชะเนาะ ให้คำจำกัดความโรคบวมน้ำเหลืองไว้ดังต่อไปนี้
โรคบวมน้ำเหลือง คือ ภาวะที่มีน้ำเหลืองคั่งค้าง น้ำในเนื้อเยื่อเจิ่งนอง โดยปรากฏร่วมกับการขยายตัว และแพร่พันธุ์ ของหลอดน้ำเหลืองอย่างดาษดื่น พบว่าเกิดบ่อยที่แขน ขา ใบหน้า หน้าท้อง เต้านม สะโพก ถุงอัณฑะ แคมอวัยวะเพศ เป็นต้น
โรคบวมน้ำเหลือง เกิดจากหลากหลายสาเหตุ หนึ่งในนั้นคือมักเกิดจากการที่ผู้ป่วยเคยผ่าตัดและฉายรังสี เพื่อการรักษาโรคมะเร็ง โดยในขั้นตอนการผ่าตัดแพทย์จำเป็นจะต้องตัดต่อมน้ำเหลืองทิ้งไปด้วย และบ่อยครั้งจะมีการฉายรังสีควบคู่กันไป วิธีการรักษานี้เป็นการทำลายระบบระบายน้ำเหลืองของแขน ขา ทำให้เกิดโรคบวมน้ำเหลืองได้
“บวมน้ำเหลืองมีอยู่ 2 อย่าง คือบวมน้ำเหลืองระนาบตื้น แบบมองเห็นด้วยตาเปล่า ตรงไหนบวมก็มองเห็นชัดเจนเลย แต่ระนาบลึกมองไม่เห็น ระนาบตื้น รักษาได้ไม่ยาก แต่ระนาบลึก หลอดน้ำเหลืองลึกๆ มันใหญ่ขึ้น แต่มันไม่ได้บันทึกอยู่ในตำรา เกิดจากขยายตัวของต่อมน้ำเหลือง โรคพวกนี้อาจถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคถึง 32 ชนิด แต่จริงๆ แล้ว มันคือบวมน้ำเหลืองระนาบลึก รักษาได้เช่นกัน” นพ.วิชัย กล่าว
ขณะเดียวกัน สำหรับผู้ที่เป็นโรคบวมน้ำเหลือง นพ.วิชัย ให้ความรู้ว่า ควรงดอาหารแสลงที่เป็นตัวล่อน้ำเหลือง ซึ่งมีอยู่ 10 อย่าง ประกอบไปด้วย 1.เนื้อสัตว์ 2.เครื่องในสัตว์ 3.กระดูก 4.หนัง 5.เอ็น 6.เลือด 7.กะปิ 8.น้ำปลา 9.ไข่ 10.นม
นอกจากของแสลงที่ว่ามา นพ.วิชัย กล่าวเตือนว่าหญิงวัยรุ่นหรือสาวๆ ที่ชอบใส่ชุดหรือกางเกงรัดๆ ก็เสี่ยงทำให้เป็นโรคบวมน้ำเหลืองได้เช่นกัน
“พอนั่งปุ๊บ สุดท้ายตรงขาหนีบก็จะเกิดรอยรัดของเสื้อผ้าที่สวมใส่ เป็นร่องลึกและไปกดทางเดินน้ำเหลือง น้ำเหลืองก็เลยเดินไม่สะดวก น้ำเหลืองก็ไปอั้นอยู่ตามขา นี่คือที่มาที่ไปว่าทำไม ขามันถึงอวบ เพราะว่าอาภรณ์ไม่เหมาะสม น้ำเหลืองไหลไม่ได้ และนี่ก็คือที่มาที่ไปที่ทำให้โรคบวมน้ำเหลืองเกิดขึ้นเยอะมากในสาวๆ หรือคุณผู้หญิง” นพ.วิชัย กล่าว
ขอบคุณข้อมูล : รายการ “Health Line สายตรงสุขภาพ” รายการที่สร้างภูมิคุ้มกันโรคภัยไข้เจ็บ ออกอากาศทุกวันอาทิตย์ เวลา 7.00-8.00 น.ทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และสามารถรับชมย้อนหลังได้ที่ www.manager.co.th/vdo