xs
xsm
sm
md
lg

พันธมิตร ปธน.ปินส์จ่อครองทั้งสองสภา เอสตราดาได้รับเลือกเป็นนายกเล็กมะนิลา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



เอเจนซี/บีบีซี - ประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน แห่งฟิลิปปินส์เมื่อวันอังคาร (14) จ่อครอบครองเสียงมากข้างของทั้งสองสภา ตามหลังศึกเลือกตั้งกลางเทอม เพิ่มความหวังเกี่ยวกับแผนปฏิรูปเพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน ทว่าการคืนสู่เส้นทางการเมืองของ “โจเซฟ เอสตราดา” แกนนำฝ่ายค้านที่ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา อาจส่งก่อความเยิ่นเย้อต่อแผนผลักดันแผนปฏิรูปของนายอากีโน จนล่วงเลยวาระการดำรงตำแหน่งสมัยปัจจุบันซึ่งจะสิ้นสุดในปี 2016 ก็เป็นได้

ผลเบื้องต้นของศึกเลือกตั้งเมื่อวันจันทร์ (13) แสดงให้เห็นว่านายเอสตราดา และรองประธานาธิบดีเจโจมาร์ ซี บิไน ซึ่งพันธมิตรของเขา ยังคงมีพลังที่น่าเกรงขามในทางการเมืองของฟิลิปปินส์ และอาจเป็นอุปสรรคขัดขวางตัวเลือกผู้สืบทอดอำนาจของนายอากีโน ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปในปี 2016 ด้วยนายบิไน ได้รับคาดหมายว่าจะเป็นผู้ท้าชิงคนสำคัญในศึกเลือกตั้งผู้นำประเทศในอีก 3 ปีข้างหน้า

นายเอสตราดาถูกประชาชนลุกฮือโค่นล้มในปี 2001 จากนั้นก็โดนควบคุมตัวและถูกพบว่ามีความผิดข้อหาปล้นชาติในการพิจารณาคดีเมื่อปี 2007 พร้อมกับมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วเขาก็เป็นอิสรภาพ หลังได้รับนิรโทษกรรมจากนางกลอเรีย อาร์โรโย ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ณ ขณะนั้น

นายเอสตราดา อดีตดาราภาพยนตร์วัย 76 ปี ประกาศหลังทราบผลเลือกตั้ง ขออุทิศชีวิตในบั้นปลายเพื่อช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตแก่คนยากจนในมะนิลา “ผมตื้นตันใจอย่างยิ่งเพราะประชาชนมอบความเชื่อมั่นและให้ความมั่นใจในตัวผมอีกครั้ง”
นายโจเซฟ เอสตราดา แกนนำฝ่ายค้าน(ซ้าย)ชูมือประกาศชัยชนะหลังได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา
อีกด้านหนึ่งผลของศึกเลือกตั้งกลางเทอมอย่างไม่เป็นทางการของฟิลลิปปินส์ หลังนับคะแนนไปได้ราวร้อยละ 75 พบว่าพันธมิตรของนายอากีโน จ่อครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ด้วยกวาดเก้าอี้ 9 จาก 12 ที่นั่งที่มีการชิงชัย และด้วยเดิมรัฐบาลก็ครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรอยู่ก่อนแล้ว เป็นผลให้นายอากีโน กลายเป็นประธานาธิบดีคนเดียวของฟิลิปปินส์ ที่ครองเสียงข้างมากทั้งสองสภา นับตั้งแต่ปฏิรูปประชาธิปไตยในปี 1986

“มันเป็นผลการเลือกตั้งที่ล้นหลามและแสดงถึงการสนับสนุนอย่างชัดเจนต่อวาระปฏิรูปของนายอากีโน ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะมีความคืบหน้ามากขึ้น หลังควบคุมวุฒิสภาไว้ได้แล้ว” อูเบน ปาราซูเอลเลส นักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ ในสิงคโปร์กล่าว

นายอากีโน บุตรชายของอดีตประธานาธิบดีผู้ล่วงลับ คอราซอน อากีโน คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี 2010 อย่างถล่มทลาย ด้วยนโยบายการบริหารงานที่ดีและต่อสู้กับคอร์รัปชันเพื่อลดความยากจน

ทั้งนี้ คะแนนนิยมของประธานาธิบดีรายนี้ทรงตัวอยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 70 และถูกมองในฐานะผู้กอบกู้ความสนใจการลงทุนในประเทศ อันเป็นผลจากอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง การคลังสาธารณะดีขึ้นและผลักดันต่อต้านการคอรัปชัน
ประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน แห่งฟิลิปปินส์ ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกลางเทอม
ในปี 2012 เศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ เติบโตถึงร้อยละ 6.6 นับเป็นอัตราร้อนแรงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียรองจากจีน ขณะเดียวกันยอดขาดดุลงบประมาณของประเทศแห่งนี้ก็ลดลง รวมทั้งยังได้รับการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือด้านการลงทุนตลอดช่วง 2 เดือนหลังด้วย

อย่างไรก็ตาม นายอากีโนยังต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆนานา ไม่ว่าจะเป็นอัตราความยากจนที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูงกว่าร้อยละ 28 และตัวเลขคนว่างงานก็ไม่ได้ลดลงอย่างชัดเจน ขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างชาติก็ยังล้าหลังเพื่อนบ้านหลายๆชาติ

แม้มีข้อกล่าวหาต่างๆ นานาเกี่ยวกับการซื้อเสียงและโกงเลือกตั้ง รวมถึงเหตุความรุนแรงที่ก่อความวุ่นวายแก่หน่วยเลือกตั้งบางพื้นที่ในหลายจังหวัด แต่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงและฝ่ายจัดการเลือกตั้งได้ประกาศว่าการลงคะแนนครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และคาดหมายว่าคณะกรรมการเลือกตั้งจะประกาศผลเลือกตั้งชิงเก้าอี้วุฒิสภาอย่างเป็นทางการได้ในราว 24 ถึง 48 ชั่วโมงข้างหน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น