พศจ.ศรีสะเกษ รวมรวมข้อมูล เตรียมบีบ “หลวงปู่เณรคำ” แจงข้อเท็จจริงทุกข้อร้องเรียน รวมถึงภาพหน้าคล้ายนอนกับผู้หญิง ด้านวัดภูเขาแก้ว ปัดไม่ได้บรรพชาให้หลวงปู่เณรคำ ล่าสุดพบคลิป ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
วันนี้ (19 มิ.ย.) นายวิรอด ไชยพรรณนา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ศรีสะเกษ กล่าวถึงความคืบหน้าตรวจสอบเกี่ยวกับพระวิระพล สุขผล หรือหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม ว่า ในกรณีนั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวและมีการเผยแพร่ภาพคนหน้าตาคล้ายกับหลวงปู่เณรคำนอนอยู่กับผู้หญิง การตรวจสอบต้นสังกัด รวมถึงที่มาที่ไปของเงินบริจาคนั้น ปัญหาตอนนี้ยังไม่สามารถติดต่อหลวงปู่เณรคำได้ เพราะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าแท้ที่จริงสังกัดวัดไหนกันแน่ การตรวจสอบเลยไม่ค่อยคืบหน้ามากนัก เพราะยังไม่ทราบต้นสังกัด จึงไม่ทราบว่าจะให้เจ้าคณะปกครองที่จังหวัดอุบลราชธานีหรือว่าให้เจ้าคณะที่จังหวัดศรีสะเกษ ดำเนินการเชิญมาชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด
ในขณะนี้ทำได้เพียงรวบรวมข้อมูลไว้ทั้งหมด และได้ปรึกษาหารือกับคณะสงฆ์และเจ้าคณะปกครองในจังหวัดศรีสะเกษไว้ว่าท้ายที่สุดหากหลวงปู่เณรคำ สังกัดเจ้าคณะปกครองในจังหวัดศรีสะเกษจริงก็ต้องตั้งพระอธิกรณ์มาสอบสวนข้อเท็จจริง โดยต้องเชิญหลวงปู่เณรคำมาชี้แจง หรือว่าชี้แจงเป็นหลักฐานและเอกสารเกี่ยวกับข้อร้องเรียนต่างๆ ทั้งเรื่องภาพหน้าคล้าย ต้นสังกัดที่แท้จริง ส่วนเรื่องบัญชีและการใช้จ่ายเงินบริจาคนั้นก็ต้องเชิญผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยตรวจสอบด้วย
ผอ.พศจ.ศรีสะเกษ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการนำเสนอข่าวว่าได้สอบถามไปยังวัดภูเขาแก้ว อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นวัดที่หลวงปู่เณรคำบรรพชาเป็นสามเณรนั้น ปรากฏว่าทางวัดปฏิเสธบอกว่าไม่ได้มาบวชวัดภูเขาแก้วตามที่กล่าวอ้างในประวัติหลวงปู่เณรคำแต่อย่างใด โดยบอกว่าน่าจะไปบวชที่วัดศรีนวล ต.พิบูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานีนั้น เรื่องนี้ยังสับสนต้องตรวจสอบอีกครั้ง ตอนนี้ต้องรอหลวงปู่เณรคำ เดินทางกลับมาเพื่อถามความจริงและขอดูใบสุทธิว่าสังกัดวัดไหน ตอนนี้มีข่าวและข้อมูลเยอะมากต้องตรวจสอบให้ละเอียดว่าอันไหนจริงอันไหนไม่จริง ส่วนกรณีที่ภาพคล้ายหลวงปู่เณรคำนอนกับสีกา รวมถึงกระแสข่าวว่ามีครอบครัวนั้น ยังไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มองว่าทุกฝ่ายต้องช่วยกันทำให้ความจริงกระจ่างและเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า “หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก” ซึ่งที่ผ่านมามีการโพสต์ภาพและคลิปของหลวงปู่เณรคำซึ่งเดินทางไปรับกิจนิมนต์ในพื้นที่ต่างๆ ตลอด ปรากฎว่าในเวลาประมาณ 20.30 น.เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการคลิปวิดีโอหลวงปู่เณรคำ ความยาว 3.44 นาที ซึ่งเป็นภาพกิจนิมนต์ในการเจริญพุทธมนต์และพิธีทำน้ำมนต์ ที่วัดธัมมาราม กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังมีการนำภาพถ่ายของหลวงปู่เณรคำถ่ายร่วมกับลูกศิษย์จำนวนมากมาโพสในเฟซบุ๊กดังกล่าวด้วย ผู้สื่อข่าวจึงส่งข้อความผ่านเฟซบุ๊กดังกล่าว ติดต่อข้อสัมภาษณ์หลวงปู่เณรคำ และสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องๆ ที่สังคมกำลังเกิดข้อสงสัย ปรากฏว่าได้รับแจ้งกลับมาว่าผู้ที่โพสต์คลิปและภาพนั้นไม่ใช่หลวงปู่เณรคำ แต่เป็นผู้ดูแลเพจดังกล่าวมีทั้งหมด 20 คนเท่านั้น
พร้อมชี้แจงว่าไม่มีหน้าที่ออกความเห็นใดๆ มีหน้าที่แค่โพสต์ธรรมะหลวงปู่เณรคำ ไม่ค่อยจะรู้อะไรครับ แม้แต่เบอร์ติดต่อหลวงปู่เณรคำก็ไม่ทราบ
**พระวัดป่า ปัด หลวงปู่เณรคำไม่ใช่พระสายกรรมฐาน
ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังพระกรรมฐานวัดป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด (ท่านขอสงวนนาม) กรณีมีภาพหลวงปู่เณรคำเดินทางไปสักการะสรีระสังขารขณะพิธีบำเพ็ญกุศลหลวงตามหาบัว ที่ถูกโพสต์ในเว็บไซต์หลวงปู่เณรคำ โดยพระกรรมฐานรูปนี้กล่าวตอบว่า พระรูปนี้ไม่ใช่สายวัดป่าหลวงปู่มั่นแน่นอนขอยืนยัน ทางคณะสงฆ์วัดป่าไม่เคยรู้จักท่าน แต่ก็พอทราบมาบ้างว่า ท่านมีกิจกรรมช่วยเหลือสังคม ช่วยคนที่มีปัญหาส่วนตัวด้านต่างๆ เมื่อช่วยสำเร็จคนก็มีศรัทธาต่อท่านมาก ถวายสิ่งของต่างๆ ให้ท่านมาก ทำให้ท่านมีข้าวของเครื่องใช้เกินความจำเป็นของสงฆ์ ซึ่งแนวปฏิบัติของหลวงปู่เณรคำแตกต่างจากปฏิปทาของพระสายวัดป่าอย่างแน่นอน เพราะว่าพระสายกรรมฐานต้องมักน้อย สันโดษ เคารพต่อพระวินัย โดยเฉพาะการคำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน
ยื่น มส.สอบข้อเท็จจริง "หลวงปู่เณรคำ"
วันนี้ (19 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่วัดสามพระยา กรุงเทพฯ ตัวแทนกลุ่มพุทธศาสนิกชนไทย พร้อมคณะเข้ายื่นหนังสือต่อพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ในฐานะเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร กรรมการมหาเถรสมาคม(มส.) ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลวงปู่เณรคำ กรณีนั่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และมีการเผยแพร่ภาพคนหน้าตาคล้ายกับหลวงปู่เณรคำนอนอยู่กับผู้หญิง การตรวจสอบต้นสังกัด รวมถึงที่มาที่ไปของเงินบริจาค เพื่อให้ทาง มส. พิจารณาเรื่องเหล่านี้
ด้านพระพรหมดิลก ออกมารับหนังสือ กล่าวชี้แจงกลุ่มที่เข้ายื่นหนังสือว่า อาตมาไม่สามารถนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุม มส.ได้ ซึ่งกระบวนการแล้วจะต้องยื่นหนังสือต่อนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ซึ่งเป็นเลขานุการ มส. เป็นผู้พิจารณาเสนอเรื่องเข้าที่ประชุม มส.เท่านั้น
ร้อง กองปราบตรวจสอบการเงิน
นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ ในฐานะประธานเครือข่ายรวมพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กล่าวว่า เรียกร้องให้มีการตรวจสอบสถานะการเงินหลวงปู่เณรคำ โดยเฉพาะกรณีการโฆษณาการก่อสร้างพระแก้วมรกตองค์ใหญ่ ว่าเงินที่ได้รับบริจาคทุกบาททุกสตางค์ได้นำมาสร้างพระแก้วองค์ใหญ่หรือไม่ หากไม่ได้นำมาจัดสร้างตามวัตถุประสงค์ก็เข้าข่ายหลอกลวงหรือฉ้อโกงประชาชนได้ ตนได้รวบรวมข้อมูลหลักฐานต่างๆ ไปร้องทุกข์กล่าวโทษยังกองปราบปรามในวันที่ 21 มิ.ย.เวลา 13.00 น.ในการตรวจสอบสถานะการเงินของพระรูปดังกล่าว ว่ามีการกระทำที่หลอกลวงประชาชนหรือไม่ โดยจะร้องขอให้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ร่วมตรวจสอบด้วย หากพบว่า เงินที่พี่น้องประชาชนที่บริจาคมานั้น ไม่ได้นำเงินทั้งหมดมาสร้างตามโฆษณาไว้ ถือว่าฉ้อโกงประชาชน คล้ายกับคดีสมเด็จเหนือหัวที่ได้มีการตรวจสอบมาแล้ว ปปง.สามารถดำเนินการยึดทรัพย์สินทั้งหมดได้ เนื่องจากเงินที่ได้นำไปใช้ประโยชน์ส่วนตนแก่บริวารหรือพวก