“ชินภัทร” ยื่นอุทธรณ์คำสั่งตั้ง กก.สอบวินัยอย่างร้ายแรง ถึง “พงศ์เทพ” วานนี้ พร้อมยื่นหนังสือขอเลื่อนให้การชี้แจงกับ คกก.สอบวินัยฯ ในวันเดียวกัน อ้างติดประชุมแก้ปัญหา ร.ร.ขนาดเล็ก คกก.นัดสอบวินัยฯ 4 มิ.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 พ.ค.) ตามที่คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรง นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) ในความผิดฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่จนทำให้ราชการเกิดความเสียหายกรณีสอบครูผู้ช่วย ซึ่งมีนายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (เลขาธิการ กกอ.) ได้ทำหนังสือเชิญ นายชินภัทร เข้าชี้แจงครั้งแรก อย่างไรก็ตาม นายชินภัทร ได้ทำหนังสือขอเลื่อนการเข้าชี้แจงออกไปก่อนโดยให้เหตุผลว่า ติดประชุมเกี่ยวกับการปัญหาโรงเรียนขนาดเล็ก
นายชินภัทร กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการสอบวินัยฯเพื่อขอเลื่อนการเข้าไปชี้แจงออกไปก่อน เนื่องจากติดประชุมกับผู้บริหารของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อพิจารณาแผนพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาการประถมศึกษา (สพป.) ทั่วประเทศส่งมา ซึ่งเรื่องโรงเรียนขนาดเล็กนี้เป็นประเด็นเร่งด่วนที่กำลังได้รับการสนใจจากหลายฝ่าย และ สพฐ.ก็ได้กำหนดล่วงหน้าไว้แล้วว่าจะมีการประชุมเพื่อจัดทำรายงานแผนพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กในภาพรวมในวันที่ 31 พ.ค.และตนจำเป็นต้องเข้าประชุมดังกล่าว จึงจำเป็นต้องขอเลื่อนการเข้าชี้แจ้งกับกรรมการสอบวินัยออกไป ไม่ได้มีเจตนาหรือต้องการจะโยกโย้ หรือทำตัวเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนแต่อย่างใด
“ผมไม่ได้ทำตัวเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวน หากยังคงปฏิบัติงานตามหน้าที่ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นงานสำคัญในเรื่องการแก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็ก หรือการดำเนินการตามนโยบายจัดหาแท็บเล็ตให้นักเรียนซึ่งขณะนี้กำลังงวดเข้ามาทุกที อย่างไรก็ตาม หากมีการปรับเปลี่ยนภายใน สพฐ.เวลานี้ อาจกระทบต่อการดำเนินงานของ สพฐ.ได้ เพราะงานของ สพฐ.ไม่ใช่งานง่าย ต้องมีความเข้าใจ รู้ถึงนโยบายต่างๆ จึงจะสามารถตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง หากขาดความเข้าใจแล้ว อาจตัดสินใจผิดพลาดได้ หรืออาจไม่กล้าตัดสินใจจนมีผลกระทบต่องานของ สพฐ.” นายชินภัทร กล่าว
ด้าน นายอภิชาติ กล่าวว่า นายชินภัทร มีสิทธิในการขอเลื่อนการให้ปากคำกับคณะกรรมการสอบสวนวินัย แต่ต้องให้อยู่ในกรอบเวลา 15 วัน หลังจากมีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัย (27 พ.ค.) ทั้งนี้ ได้เชิญนายชินภัทร มาให้ปากคำอีกครั้งในวันที่ 4 มิ.ย.
ขณะที่ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า นายชินภัทร ได้ตัดสินใจอุทธรณ์คำสั่งสอบวินัยร้ายแรงแล้ว โดยได้ยื่นหนังสืออุทธรณ์มายังตนเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา และตนได้ส่งให้คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงไปพิจารณาเอกสารการอุทธรณ์แล้วเสนอความเห็นกลับมา ส่วนจะต้องมีการชะลอการสอบสวนไว้ก่อนหรือไม่นั้น คงต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสอบสวนฯ แต่ขั้นตอนพิจารณาเอกสารอุทธรณ์คงจะใช้เวลาไม่นาน ทั้งนี้ ส่วนกระบวนการสอบสวนฯจะใช้เวลาเท่าไรนั้น ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการว่าจะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จตามกรอบเวลาที่ กำหนดไว้หรือไม่ หรือจะต้องขอขยายเวลา ซึ่งคงไม่สามารถบอกล่วงหน้าได้
“จะต้องโยกย้ายผู้นายชินภัทร ออกจากตำแหน่ง เพื่อไม่ให้กระบวนการสอบสวนมีปัญหาหรือไม่นั้น หาก นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ เห็นว่าควรจะต้องโยกย้ายนายชินภัทร ออกจากตำแหน่ง ก็คงจะมาหารือกับผมเอง ซึ่งผมก็จะต้องพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง” นายพงศ์เทพ กล่าว
วันเดียวกัน นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา ปลัด ศธ.ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีทุจริตการสอบครูผู้ช่วย ได้เรียกพยานปากเอกเข้าให้ปากคำ ภายหลังการสอบปากคำประมาณ 3 ชั่วโมง นางพนิตา ให้สัมภาษณ์ว่า ได้เรียกพยานปากเอกมาสอบปากคำเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงข้าราชการที่เหลืออีก 3 ราย ได้แก่ นายอนันต์ ระงับทุกข์ รองเลขาธิการ กพฐ. นายสุเทพ ชิตยวงศ์ ผู้ตรวจราชการ ศธ. อดีตผู้ช่วยเลขานุการ กพฐ.และ นายไกร เกษทัน ผู้อำนวยการสำนักติดตามและประเมินผล สพฐ.อดีต ผอ.สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ (กพร.) ในความผิดฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่จนทำให้ราชการเกิดความเสียหาย
นางพนิตา กล่าวต่อว่า พยานปากเอกนี้เป็นนิติกรที่เกี่ยวข้องกับทุกขั้นตอนในการสอบครูผู้ช่วย ตั้งแต่ขั้นตอนในการจัดทำข้อสอบ การเก็บรักษา การทำลายฮาร์ดแวร์ รวมถึงการจัดเก็บข้อสอบทั้งหมด จึงใช้เวลาสอบปากคำนานมาก เพราะเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับทุกกระบวนการสอบ แต่ยังเหลือพยานที่ต้องสอบอีก 5 ราย หลังจากนั้น จึงจะนำข้อมูลจากทั้ง 6 ปาก มาวิเคราะห์ว่า ข้าราชการทั้ง 3 รายมีความผิดจริงหรือไม่ พร้อมสรุปผลสอบเสนอ รมว.ศึกษาธิการ
