ส่งข้อมูล ร.ร.เล็กยังไม่ถึงครึ่ง สพฐ.ขีดเส้นตายเขตพื้นฯ ส่งให้ครบภายใน 28 พ.ค. ก่อนเตรียมสรุปทำรายงานฟันธงยุบร.ร.ให้เสร็จศุกร์ที่ 31 พ.ค.นี้เสนอ “พงศ์เทพ” และชงเข้ากรรมการร่วมราชการ-ประชาสังคม เคาะเป็นรายโรง แห่งใดอยู่แห่งใดไป
วันนี้ (27 พ.ค.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกรศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) 182 เขตทั่วประเทศ (ยกเว้น กทม.) ไปสำรวจโรงเรียนขนาดเล็กในพื้นที่พร้อมทั้งให้เสนอแผนพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กซึ่งมีจำนวนนักเรียนน้อยกว่า 60 คน มายังส่วนกลางภายในวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่เนื่องจากวันดังกล่าวเป็นวันหยุดราชการต่อเนื่อง จึงมี สพป.ประมาณ 90 เขตเท่านั้นที่รายงานข้อมูลเข้ามาส่วนที่เหลืออีกกว่าครึ่งนั้น สพฐ.ได้กำชับแล้วว่าให้ส่งข้อมูลภายในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ค.) และเมื่อ สพป.ทุกแห่งส่งข้อมูลมาเรียบร้อยแล้ว สพฐ.จะนำข้อมูลดังกล่าวมาประมวลเป็นรายงานแผนพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กในภาพรวมของ สพฐ.
ทั้งนี้ ในรายดังกล่าวจะกำหนดอย่างชัดเจนว่า โรงเรียนขนาดเล็กแต่ละแห่งจะได้รับการพัฒนาอย่างไร และมีโรงเรียนขนาดเล็กแห่งใดบ้างที่จะเข้าสู่กระบวนการยุบรวมโรงเรียน อย่างไรก็ตาม โรงเรียนที่จะสู่กระบวนการยุบรวมนั้น จะต้องผ่านเกณฑ์ที่ สพฐ.กำหนดไว้ก่อน คือ เป็นโรงเรียนที่ไม่มีนักเรียนเข้าเรียนแล้ว มีโรงเรียนใกล้เคียงรองรับ มีการจัดระบบรับส่งรองรับ และผ่านการสอบถามความเห็นจากประชาคมซึ่งชุมชนยินยอมให้ยุบรวมโรงเรียน อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวของ สพฐ.เป็นแค่ข้อมูลภาพรวมในเบื้องต้นเท่านั้น แต่ไม่ได้หมายความว่า สพฐ.จะดำเนินการยุบรวมโรงเรียนทันที เพราะจะต้องนำรายงานดังกล่าวเสนอให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาก่อน ที่สำคัญ จะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของกรรมการร่วมระหว่างภาคราชการและประชาสังคมที่ รมว.ศึกษาธิการ สั่งให้ตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องโรงเรียนขนาดเล็กโดยเฉพาะ
“เพื่อให้การดำเนินการนโยบายเกี่ยวกับโรงเรียนขนาดเล็กเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างภาคราชการและประชาคม เมื่อผ่านการพิจารณาของกรรมการร่วมแล้ว ถึงจะเป็นแผนที่ชัดเจนว่า โรงเรียนขนาดเล็กแต่ละแห่งจะได้รับการพัฒนาอย่างไร และโรงเรียนใดบ้างจะเข้าสู่กระบวนการยุบรวม ส่วนกำหนดการประชุมนัดแรกของคณะกรรมการร่วมนั้นจะต้องรอให้ รมว.ศึกษาธิการเป็นผู้กำหนด เพราะคณะกรรมการร่วมนั้น จะเป็นกรรมการชุดใหญ่ที่มีฝ่ายนโยบายมาเป็นประธาน โดยจะมีที่ปรึกษารมว.ศึกษาธิการ และเลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ ร่วมเป็นกรรมการด้วย”นายชินภัทร กล่าว
วันนี้ (27 พ.ค.) นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกรศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) 182 เขตทั่วประเทศ (ยกเว้น กทม.) ไปสำรวจโรงเรียนขนาดเล็กในพื้นที่พร้อมทั้งให้เสนอแผนพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กซึ่งมีจำนวนนักเรียนน้อยกว่า 60 คน มายังส่วนกลางภายในวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่เนื่องจากวันดังกล่าวเป็นวันหยุดราชการต่อเนื่อง จึงมี สพป.ประมาณ 90 เขตเท่านั้นที่รายงานข้อมูลเข้ามาส่วนที่เหลืออีกกว่าครึ่งนั้น สพฐ.ได้กำชับแล้วว่าให้ส่งข้อมูลภายในวันพรุ่งนี้ (28 พ.ค.) และเมื่อ สพป.ทุกแห่งส่งข้อมูลมาเรียบร้อยแล้ว สพฐ.จะนำข้อมูลดังกล่าวมาประมวลเป็นรายงานแผนพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็กในภาพรวมของ สพฐ.
ทั้งนี้ ในรายดังกล่าวจะกำหนดอย่างชัดเจนว่า โรงเรียนขนาดเล็กแต่ละแห่งจะได้รับการพัฒนาอย่างไร และมีโรงเรียนขนาดเล็กแห่งใดบ้างที่จะเข้าสู่กระบวนการยุบรวมโรงเรียน อย่างไรก็ตาม โรงเรียนที่จะสู่กระบวนการยุบรวมนั้น จะต้องผ่านเกณฑ์ที่ สพฐ.กำหนดไว้ก่อน คือ เป็นโรงเรียนที่ไม่มีนักเรียนเข้าเรียนแล้ว มีโรงเรียนใกล้เคียงรองรับ มีการจัดระบบรับส่งรองรับ และผ่านการสอบถามความเห็นจากประชาคมซึ่งชุมชนยินยอมให้ยุบรวมโรงเรียน อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวของ สพฐ.เป็นแค่ข้อมูลภาพรวมในเบื้องต้นเท่านั้น แต่ไม่ได้หมายความว่า สพฐ.จะดำเนินการยุบรวมโรงเรียนทันที เพราะจะต้องนำรายงานดังกล่าวเสนอให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ พิจารณาก่อน ที่สำคัญ จะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของกรรมการร่วมระหว่างภาคราชการและประชาสังคมที่ รมว.ศึกษาธิการ สั่งให้ตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องโรงเรียนขนาดเล็กโดยเฉพาะ
“เพื่อให้การดำเนินการนโยบายเกี่ยวกับโรงเรียนขนาดเล็กเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างภาคราชการและประชาคม เมื่อผ่านการพิจารณาของกรรมการร่วมแล้ว ถึงจะเป็นแผนที่ชัดเจนว่า โรงเรียนขนาดเล็กแต่ละแห่งจะได้รับการพัฒนาอย่างไร และโรงเรียนใดบ้างจะเข้าสู่กระบวนการยุบรวม ส่วนกำหนดการประชุมนัดแรกของคณะกรรมการร่วมนั้นจะต้องรอให้ รมว.ศึกษาธิการเป็นผู้กำหนด เพราะคณะกรรมการร่วมนั้น จะเป็นกรรมการชุดใหญ่ที่มีฝ่ายนโยบายมาเป็นประธาน โดยจะมีที่ปรึกษารมว.ศึกษาธิการ และเลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ ร่วมเป็นกรรมการด้วย”นายชินภัทร กล่าว
