“พงศ์เทพ” ชี้ผลควบรวมโรงเรียนขนาดเล็กที่เชียงใหม่ที่ศูนย์โรงเรียนตำบลสันกลาง ได้ผลดีครูสอนเด็กได้เต็มชั่วโมง ขณะที่ตัวนักเรียนมีผลการเรียนดีขึ้น ระบุมีปัญหาการเดินทางในช่วงแรก แต่ สพฐ.จัดรถรับส่งให้จึงหมดปัญหา
วันนี้ (19 พ.ค.) ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เดินทางมาลงพื้นที่เพื่อร่วมเวทีเสวนาประชาคม ที่ศูนย์โรงเรียนตำบลสันกลาง ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เชียงใหม่ เขต 1 ซึ่งได้แก้ไขปัญหาการจัดการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็ก ด้วยวิธีควบรวบโรงเรียน 3 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนวัดสันกลางเหนือ โรงเรียนวัดสันกลางใต้ และโรงเรียนบ้านมอญ ส่วนศูนย์สองโรงเรียนบ้านผึ้ง (วิจิตรราษฎร์อุปถัมภ์) สังกัด สพป.เชียงใหม่ เขต 2 อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก 3 แห่ง คือ โรงเรียนวัดแม่หอพระ โรงเรียนวัดแม่นาป้าก และโรงเรียนหัวฝายวิทยาคาร ตั้งแต่ พ.ศ.2544
โดยนายพงศ์เทพ กล่าวภายหลังว่า สำหรับศูนย์โรงเรียนตำบลสันกลาง เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ.2543 ซึ่งทำให้แต่ละชั้นเรียนมีนักเรียนเพียงพอ และสามารถสอนเด็กได้เต็มชั่วโมง ส่งผลให้เด็กมีผลการเรียนที่ดีขึ้น ส่วนเรื่องปัญหาการเดินทางแรกๆมีปัญหาว่า เด็กต้องเดินทางมาโรงเรียนเองแต่ระยะหลังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แก้ปัญหาโดยการจัดรับส่งให้ ทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น
“ ที่ชุมชนมีความกังวลว่า เมื่อมีการจัดให้เด็กมาเรียนรวมกันแล้ว ควรจะจัดงบประมาณมาสนับสนุนโรงเรียน เพื่อให้การจัดการศึกษาดีขึ้นนั้น เท่าที่ฟังทราบว่า ก่อนที่จะมีการจัดเรียนรวมได้มีการฟังความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งหลายแห่งก็มีความเห็นว่าเมื่อเรียนรวมแล้ว ยังอยากให้โรงเรียนอยู่ต่อ แต่อาจจะสอนบางชั้นก็ได้ ซึ่งกรณีของศูนย์โรงเรียนตำบลสันกลางก็เช่นกัน เมื่อให้เด็กมาเรียนรวมแล้ว โรงเรียนทั้ง 3 แห่งก็ยังคงอยู่ กระทั่งปัจจุบัน โรงเรียนวัดสันกลางใต้เพิ่งจะยุติการจัดการเรียนการสอนไปเมื่อ พ.ศ.2553 แล้วนำสถานที่ไปใช้ในการจัดการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) เป็นศูนย์โอท็อป เป็นศูนย์พัฒนาผู้สูงอายุ” นายพงศ์เทพ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ใน จ.เชียงใหม่ มีโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล บนดอย บนเขา จำนวนมาก ซึ่งโรงเรียนเหล่านั้นเราจะไม่ไปแตะ แต่จะคงไว้ และเข้าไปพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ดีขึ้นโดยจะนำการศึกษาทางไกลเข้าไปช่วยในการเรียนการสอน
ด้าน นายนิวัฒน์ นิลแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนแม่คือวิทยา อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ สพป.เชียงใหม่เขต 1 กล่าวว่า ขอชื่นชมที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล้าประกาศนโยบายชัดเจนว่าจะมีการยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งไม่มีใครกล้าประกาศแบบนี้มาก่อน แต่ก็อาจคลุมเครือในบางจุด ซึ่ง สพฐ.ต้องมาอธิบายให้ประชาชน และทุกฝ่ายเข้าใจให้มีความกระจ่างไม่บิดเบือน เพราะขณะนี้ชุมชนและสังคมมีความเข้าใจผิดๆ ซึ่งการยุบเลิกโรงเรียนจะเป็นขั้นตอนสุดท้าย อย่างไรก็ตามเมื่อนโยบายให้มีการควบรวมโรงเรียน ก็ขอให้ศธ.จัดสรรงบประมาณเพิ่มให้โรงเรียนที่ควบรวมกันด้วย เพื่อให้การบริหารจัดการมีคุณภาพ
วันนี้ (19 พ.ค.) ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เดินทางมาลงพื้นที่เพื่อร่วมเวทีเสวนาประชาคม ที่ศูนย์โรงเรียนตำบลสันกลาง ต.สันกลาง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เชียงใหม่ เขต 1 ซึ่งได้แก้ไขปัญหาการจัดการศึกษาโรงเรียนขนาดเล็ก ด้วยวิธีควบรวบโรงเรียน 3 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนวัดสันกลางเหนือ โรงเรียนวัดสันกลางใต้ และโรงเรียนบ้านมอญ ส่วนศูนย์สองโรงเรียนบ้านผึ้ง (วิจิตรราษฎร์อุปถัมภ์) สังกัด สพป.เชียงใหม่ เขต 2 อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก 3 แห่ง คือ โรงเรียนวัดแม่หอพระ โรงเรียนวัดแม่นาป้าก และโรงเรียนหัวฝายวิทยาคาร ตั้งแต่ พ.ศ.2544
โดยนายพงศ์เทพ กล่าวภายหลังว่า สำหรับศูนย์โรงเรียนตำบลสันกลาง เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ.2543 ซึ่งทำให้แต่ละชั้นเรียนมีนักเรียนเพียงพอ และสามารถสอนเด็กได้เต็มชั่วโมง ส่งผลให้เด็กมีผลการเรียนที่ดีขึ้น ส่วนเรื่องปัญหาการเดินทางแรกๆมีปัญหาว่า เด็กต้องเดินทางมาโรงเรียนเองแต่ระยะหลังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แก้ปัญหาโดยการจัดรับส่งให้ ทำให้การเดินทางสะดวกขึ้น
“ ที่ชุมชนมีความกังวลว่า เมื่อมีการจัดให้เด็กมาเรียนรวมกันแล้ว ควรจะจัดงบประมาณมาสนับสนุนโรงเรียน เพื่อให้การจัดการศึกษาดีขึ้นนั้น เท่าที่ฟังทราบว่า ก่อนที่จะมีการจัดเรียนรวมได้มีการฟังความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งหลายแห่งก็มีความเห็นว่าเมื่อเรียนรวมแล้ว ยังอยากให้โรงเรียนอยู่ต่อ แต่อาจจะสอนบางชั้นก็ได้ ซึ่งกรณีของศูนย์โรงเรียนตำบลสันกลางก็เช่นกัน เมื่อให้เด็กมาเรียนรวมแล้ว โรงเรียนทั้ง 3 แห่งก็ยังคงอยู่ กระทั่งปัจจุบัน โรงเรียนวัดสันกลางใต้เพิ่งจะยุติการจัดการเรียนการสอนไปเมื่อ พ.ศ.2553 แล้วนำสถานที่ไปใช้ในการจัดการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) เป็นศูนย์โอท็อป เป็นศูนย์พัฒนาผู้สูงอายุ” นายพงศ์เทพ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ใน จ.เชียงใหม่ มีโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล บนดอย บนเขา จำนวนมาก ซึ่งโรงเรียนเหล่านั้นเราจะไม่ไปแตะ แต่จะคงไว้ และเข้าไปพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ดีขึ้นโดยจะนำการศึกษาทางไกลเข้าไปช่วยในการเรียนการสอน
ด้าน นายนิวัฒน์ นิลแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนแม่คือวิทยา อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ สพป.เชียงใหม่เขต 1 กล่าวว่า ขอชื่นชมที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล้าประกาศนโยบายชัดเจนว่าจะมีการยุบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งไม่มีใครกล้าประกาศแบบนี้มาก่อน แต่ก็อาจคลุมเครือในบางจุด ซึ่ง สพฐ.ต้องมาอธิบายให้ประชาชน และทุกฝ่ายเข้าใจให้มีความกระจ่างไม่บิดเบือน เพราะขณะนี้ชุมชนและสังคมมีความเข้าใจผิดๆ ซึ่งการยุบเลิกโรงเรียนจะเป็นขั้นตอนสุดท้าย อย่างไรก็ตามเมื่อนโยบายให้มีการควบรวมโรงเรียน ก็ขอให้ศธ.จัดสรรงบประมาณเพิ่มให้โรงเรียนที่ควบรวมกันด้วย เพื่อให้การบริหารจัดการมีคุณภาพ