“พงศ์เทพ” เล็งของงบพัฒนาการศึกษารองรับเข้าเออีซีรวมกว่า 4.5 หมื่นล้านบาท เน้นทักษะทางภาษา สมรรถนะเฉพาะสำหรับอาชีพ พร้อมเร่งประชาสัมพันธ์การพัฒนาสถานศึกษาและแหล่งเรียนรู้เรื่องอาเซียน และผลิตครู 1 หมื่นคนต่อปี สอนภาษาอาเซียน
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนของกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 1/2556 เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า หลังจาก ศธ.มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนของ ศธ.2 คณะ คือ คณะกรรมการอำนวยการ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนของ ศธ. โดยมี รมว.ศธ.เป็นประธานกรรมการ และคณะกรรมการดำเนินการเพื่อขับเคลื่อน การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนของ ศธ. โดยมีนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานกรรมการ นั้น การประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของคณะกรรมการอำนวยการฯ ที่ได้มีการหารือถึงแนวทางดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าวขององค์กรหลักและหน่วยงานต่างๆ ในสังกัด ศธ. ซึ่งในระดับกระทรวงได้กำหนดโครงการที่เกี่ยวข้องกับอาเซียนไว้แล้วใน 10 Flagship (โครงการสำคัญ) รวม 2 โครงการ
นายพงศ์เทพกล่าวว่า โครงการแรก คือ โครงการพัฒนาการศึกษาเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษา สมรรถนะเฉพาะที่จำเป็นสำหรับอาชีพ การยกระดับมาตรฐานหลักสูตร การวิจัย การจัดตั้งสถาบันที่เป็นแหล่งเรียนรู้และศูนย์กลางทางการศึกษา โดยขอตั้งงบประมาณดำเนินการในปี 2556-2561 จำนวน 34,038 ล้านบาท และโครงการที่สองคือ โครงการพัฒนาเมืองการศึกษานานาชาติ มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาจังหวัดที่มีศักยภาพให้รองรับการเป็นเมืองการศึกษานานาชาติในด้านสิ่งอำนวยความสะดวก การยกระดับมาตรฐานหลักสูตรนานาชาติของไทย การเตรียมความพร้อมบุคลากร การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และการสนับสนุนการเข้ามาเปิดวิทยาเขตประจำภูมิภาคของประเทศอื่นๆ ในไทย โดยขอตั้งงบประมาณดำเนินการในปี 2556-2561 จำนวน 11,659 ล้านบาท
นางพวงเพ็ชรกล่าวว่า ที่ประชุมเห็นว่าแนวทางดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าวของ ศธ. ควรดำเนินการให้สอดคล้องกับแผนงานการจัดตั้งประชาคม สังคม และวัฒนธรรมอาเซียน (ASCC Bluprint) ที่ได้กำหนดให้ “การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์” เป็นเป้าหมายอันดับแรกในการเสริมสร้างวิถีชีวิตที่ดีของประชากรในภูมิภาค ด้วยการให้ความสำคัญกับการศึกษา และการสร้างโอกาสทางการศึกษาในการเรียนรู้ตลอดชีวิต นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นว่าการให้ความรู้เรื่องการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนแก่ประชาชนทุกระดับเป็นเรื่องสำคัญ แต่ที่ผ่านมา ศธ.ยังไม่มีการประชาสัมพันธ์ในเรื่องนี้มากนัก จึงได้ให้องค์กรหลักและหน่วยงานในกำกับจัดทำแผนงานการประชาสัมพันธ์แนวทางในเรื่องนี้
“เราต้องพัฒนาสถานศึกษา/ห้องเรียน/แหล่งเรียนรู้เรื่องของอาเซียน เพื่อให้ประชาชนตื่นตัวมากขึ้นโดยเฉพาะด้านภาษา ซึ่งสถานศึกษาในสังกัด กศน. สพฐ.และ สกอ.ควรขยายห้องเรียนอาเซียนให้มากขึ้น รวมทั้งจัดทำแผนการสอนภาษาอังกฤษให้แก่ผู้เรียนและประชาชนทั้งประเทศ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์แก่ประชาชนของอาเซียนในทุกระดับ อาทิ การผลิตครู 1 หมื่นคนต่อปีในการสอนภาษาที่สำคัญต่ออาเซียน เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษามลายู รวมทั้งภาษาประเทศคู่เจรจา และการพัฒนาหลักสูตรเพื่อจัดการศึกษาในทุกระดับ รวมทั้งการเทียบโอนผลการเรียนใน 10 ประเทศภูมิภาคอาเซียน ซึ่งองค์กรหลักที่มีสถานศึกษาในสังกัดต้องจัดทำหลักสูตรให้ชัดเจน อาทิ เด็กที่จบ ป.6 ต้องมีความรู้อาเซียนในระดับใด รวมไปถึงการส่งเสริมกิจกรรมความร่วมมือเพื่อสร้างเครือข่ายทางการศึกษาในอาเซียน” นางพวงเพ็ชรกล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ เพื่อให้มีการขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติที่ชัดเจน พร้อมทั้งเน้นให้มีการประชาสัมพันธ์ในเชิงรุกและต่อเนื่องมากขึ้น จากนั้นให้นำมารายงานความคืบหน้าการต่อที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการฯ ในครั้งต่อไป
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนของกระทรวงศึกษาธิการ ครั้งที่ 1/2556 เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า หลังจาก ศธ.มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนของ ศธ.2 คณะ คือ คณะกรรมการอำนวยการ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนของ ศธ. โดยมี รมว.ศธ.เป็นประธานกรรมการ และคณะกรรมการดำเนินการเพื่อขับเคลื่อน การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนของ ศธ. โดยมีนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานกรรมการ นั้น การประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของคณะกรรมการอำนวยการฯ ที่ได้มีการหารือถึงแนวทางดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าวขององค์กรหลักและหน่วยงานต่างๆ ในสังกัด ศธ. ซึ่งในระดับกระทรวงได้กำหนดโครงการที่เกี่ยวข้องกับอาเซียนไว้แล้วใน 10 Flagship (โครงการสำคัญ) รวม 2 โครงการ
นายพงศ์เทพกล่าวว่า โครงการแรก คือ โครงการพัฒนาการศึกษาเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษา สมรรถนะเฉพาะที่จำเป็นสำหรับอาชีพ การยกระดับมาตรฐานหลักสูตร การวิจัย การจัดตั้งสถาบันที่เป็นแหล่งเรียนรู้และศูนย์กลางทางการศึกษา โดยขอตั้งงบประมาณดำเนินการในปี 2556-2561 จำนวน 34,038 ล้านบาท และโครงการที่สองคือ โครงการพัฒนาเมืองการศึกษานานาชาติ มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาจังหวัดที่มีศักยภาพให้รองรับการเป็นเมืองการศึกษานานาชาติในด้านสิ่งอำนวยความสะดวก การยกระดับมาตรฐานหลักสูตรนานาชาติของไทย การเตรียมความพร้อมบุคลากร การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และการสนับสนุนการเข้ามาเปิดวิทยาเขตประจำภูมิภาคของประเทศอื่นๆ ในไทย โดยขอตั้งงบประมาณดำเนินการในปี 2556-2561 จำนวน 11,659 ล้านบาท
นางพวงเพ็ชรกล่าวว่า ที่ประชุมเห็นว่าแนวทางดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าวของ ศธ. ควรดำเนินการให้สอดคล้องกับแผนงานการจัดตั้งประชาคม สังคม และวัฒนธรรมอาเซียน (ASCC Bluprint) ที่ได้กำหนดให้ “การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์” เป็นเป้าหมายอันดับแรกในการเสริมสร้างวิถีชีวิตที่ดีของประชากรในภูมิภาค ด้วยการให้ความสำคัญกับการศึกษา และการสร้างโอกาสทางการศึกษาในการเรียนรู้ตลอดชีวิต นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นว่าการให้ความรู้เรื่องการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนแก่ประชาชนทุกระดับเป็นเรื่องสำคัญ แต่ที่ผ่านมา ศธ.ยังไม่มีการประชาสัมพันธ์ในเรื่องนี้มากนัก จึงได้ให้องค์กรหลักและหน่วยงานในกำกับจัดทำแผนงานการประชาสัมพันธ์แนวทางในเรื่องนี้
“เราต้องพัฒนาสถานศึกษา/ห้องเรียน/แหล่งเรียนรู้เรื่องของอาเซียน เพื่อให้ประชาชนตื่นตัวมากขึ้นโดยเฉพาะด้านภาษา ซึ่งสถานศึกษาในสังกัด กศน. สพฐ.และ สกอ.ควรขยายห้องเรียนอาเซียนให้มากขึ้น รวมทั้งจัดทำแผนการสอนภาษาอังกฤษให้แก่ผู้เรียนและประชาชนทั้งประเทศ พัฒนาทรัพยากรมนุษย์แก่ประชาชนของอาเซียนในทุกระดับ อาทิ การผลิตครู 1 หมื่นคนต่อปีในการสอนภาษาที่สำคัญต่ออาเซียน เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษามลายู รวมทั้งภาษาประเทศคู่เจรจา และการพัฒนาหลักสูตรเพื่อจัดการศึกษาในทุกระดับ รวมทั้งการเทียบโอนผลการเรียนใน 10 ประเทศภูมิภาคอาเซียน ซึ่งองค์กรหลักที่มีสถานศึกษาในสังกัดต้องจัดทำหลักสูตรให้ชัดเจน อาทิ เด็กที่จบ ป.6 ต้องมีความรู้อาเซียนในระดับใด รวมไปถึงการส่งเสริมกิจกรรมความร่วมมือเพื่อสร้างเครือข่ายทางการศึกษาในอาเซียน” นางพวงเพ็ชรกล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ เพื่อให้มีการขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติที่ชัดเจน พร้อมทั้งเน้นให้มีการประชาสัมพันธ์ในเชิงรุกและต่อเนื่องมากขึ้น จากนั้นให้นำมารายงานความคืบหน้าการต่อที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการฯ ในครั้งต่อไป
