สพฐ.เตรียมผุดศูนย์อาเซียนต้นแบบ ในรั้วเสมา รวมสุดยอดตัวอย่างดีจาก ร.ร.ประถมและมัธยม 4 แห่งมานำเสนอ
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปีพ.ศ.2558 ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ขณะนี้ สพฐ.มีโรงเรียนที่สามารถเป็นต้นแบบของการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน ทั้งหมด 4 กลุ่มด้วยกัน ประกอบด้วย กลุ่มโรงเรียน Education Hub หรือกลุ่มโรงเรียนที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาในภูมิภาค เพื่อรองรับนักเรียนต่างชาติ จำนวน 14 โรง กลุ่มโรงเรียน Sister school หรือกลุ่มโรงเรียนที่เน้นการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ บวกภาษาอาเซียนอีกหนึ่งภาษา จำนวน 30 โรง กลุ่มโรงเรียน Buffer School หรือกลุ่มโรงเรียนที่เน้นการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ บวกภาษาจากประเทศอาเซียนที่มีชายแดนติดกับโรงเรียน จำนวน 24 โรง และกลุ่มโรงเรียน ASEAN Focus School หรือกลุ่มโรงเรียนนำร่องสู่ประชาคมอาเซียน อีก 14 โรง รวม 82 โรง
นอกจากนี้ สพฐ.ยังเตรียมขยายศูนย์อาเซียนศึกษาให้ครอบคลุมโรงเรียน และเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ ตามนโยบายของนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ต้องการให้มีศูนย์อาเซียนในพื้นที่เพื่อให้ประชาชนเข้าไปศึกษาเรียนรู้ได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การจัดศูนย์อาเซียนศึกษามีมาตรฐานเป็นต้นแบบได้ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะเป็นผู้ดำเนินการและประสานงานกับ สพฐ.เพื่อจัดตั้งศูนย์อาเซียนศึกษาตัวอย่างภายใน ศธ.
“ขณะนี้ สพฐ.กำลังอยู่ในขั้นตอนการหาสถานที่ภายในกระทรวงศึกษาฯ ที่เหมาะสมอยู่ ส่วนรายละเอียดของศูนย์อาเซียนศึกษาต้นแบบนั้น สพฐ.จะนำประสบการณ์ตัวอย่างข้อดีที่สามารถนำมาเป็นต้นแบบของโรงเรียนที่ผ่าน การคัดสรรระดับประถมศึกษา จำนวน 2 โรง และโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา อีก 2 โรง ประกอบด้วย ร.ร.มหาวีรานุวัฒน์ และ ร.ร.พระยาประเสริฐ ส่วนระดับมัธยมศึกษาอีก 2 โรง ประกอบด้วย ร.ร.สตรีศรีสุริโยทัย และ ร.ร.ปากเกร็ด มาหลอมรวมกันเป็นศูนย์อาเซียนศึกษาต้นแบบ สำหรับโรงเรียนระดับประถมศึกษา”เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปีพ.ศ.2558 ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า ขณะนี้ สพฐ.มีโรงเรียนที่สามารถเป็นต้นแบบของการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน ทั้งหมด 4 กลุ่มด้วยกัน ประกอบด้วย กลุ่มโรงเรียน Education Hub หรือกลุ่มโรงเรียนที่ได้รับการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางการศึกษาในภูมิภาค เพื่อรองรับนักเรียนต่างชาติ จำนวน 14 โรง กลุ่มโรงเรียน Sister school หรือกลุ่มโรงเรียนที่เน้นการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ บวกภาษาอาเซียนอีกหนึ่งภาษา จำนวน 30 โรง กลุ่มโรงเรียน Buffer School หรือกลุ่มโรงเรียนที่เน้นการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ บวกภาษาจากประเทศอาเซียนที่มีชายแดนติดกับโรงเรียน จำนวน 24 โรง และกลุ่มโรงเรียน ASEAN Focus School หรือกลุ่มโรงเรียนนำร่องสู่ประชาคมอาเซียน อีก 14 โรง รวม 82 โรง
นอกจากนี้ สพฐ.ยังเตรียมขยายศูนย์อาเซียนศึกษาให้ครอบคลุมโรงเรียน และเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ ตามนโยบายของนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ต้องการให้มีศูนย์อาเซียนในพื้นที่เพื่อให้ประชาชนเข้าไปศึกษาเรียนรู้ได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การจัดศูนย์อาเซียนศึกษามีมาตรฐานเป็นต้นแบบได้ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จะเป็นผู้ดำเนินการและประสานงานกับ สพฐ.เพื่อจัดตั้งศูนย์อาเซียนศึกษาตัวอย่างภายใน ศธ.
“ขณะนี้ สพฐ.กำลังอยู่ในขั้นตอนการหาสถานที่ภายในกระทรวงศึกษาฯ ที่เหมาะสมอยู่ ส่วนรายละเอียดของศูนย์อาเซียนศึกษาต้นแบบนั้น สพฐ.จะนำประสบการณ์ตัวอย่างข้อดีที่สามารถนำมาเป็นต้นแบบของโรงเรียนที่ผ่าน การคัดสรรระดับประถมศึกษา จำนวน 2 โรง และโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา อีก 2 โรง ประกอบด้วย ร.ร.มหาวีรานุวัฒน์ และ ร.ร.พระยาประเสริฐ ส่วนระดับมัธยมศึกษาอีก 2 โรง ประกอบด้วย ร.ร.สตรีศรีสุริโยทัย และ ร.ร.ปากเกร็ด มาหลอมรวมกันเป็นศูนย์อาเซียนศึกษาต้นแบบ สำหรับโรงเรียนระดับประถมศึกษา”เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
