xs
xsm
sm
md
lg

ชื่นมื่น! ไทย-ปินส์หารือทวิภาคีเล็งแลกเปลี่ยนครู

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ไทย-ฟิลิปปินส์ หารือทวิภาคีชื่นมื่น! เตรียมแลกเปลี่ยนครูผู้สอน เบื้องต้นฟิลิปปินส์พร้อมส่งครูมา 50 คน “พงศ์เทพ” คาดไม่เกิน 2 เดือนลงนามเป็นทางการ เผย รมว.ศึกษาฟิลิปปินส์ สนใจสอบถามโครงการแท็บเล็ต ฟุ้งช่วยเด็กเรียนดี สนใจเรียนมากขึ้น
พงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ (แฟ้มภาพ)
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการหารือทวิภาคีร่วมกับ H.E. Br.Armin A.Luistro Fsc รมว.ศธ.แห่งประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อเร็วๆ นี้ ระหว่างเดินทางเข้าร่วมประชุมสภารัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ ซีเมค (SEAMEC) ครั้งที่ 47 ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระหว่างวันที่ 19-21 มี.ค. 2556 ว่า ได้หารือกับ รมว.ศึกษาธิการฟิลิปปินส์ ถึงข้อตกลงการร่วมมือทางการศึกษาในการแลกเปลี่ยนนักเรียนนักศึกษาระหว่าง 2 ประเทศ โดยเฉพาะฟิลิปปินส์นั้นต้องการให้ครูของประเทศตนได้มีโอกาสไปสอนในต่างประเทศ เพื่อเป็นการเรียนรู้และได้ร่วมเปลี่ยนประสบการณ์และวัฒนธรรม เช่นเดียวกับประเทศไทยก็สนับสนุนการแลกเปลี่ยนครู เพียงแต่จะต้องดูสาขาการสอน ที่สำคัญครูไทยจะต้องมีความรู้ความสามารถและทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี เบื้องต้นทางฟิลิปปินส์แจ้งว่าสามารถจัดส่งครูมาได้ระยะแรก 50 คน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือนจะมีการลงนามบันทึกข้อตกลงอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีความต้องการครูต่างชาติเจ้าของภาษามาสอนในโรงเรียนของไทยจำนวนมาก และมีความร่วมมือกับหลายประเทศด้วย

ทั้งนี้ ระหว่างการหารือนั้น ทางฟิลิปปินส์ได้สอบถามถึงการดำเนินการโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน ที่รัฐบาลไทยดำเนินการแจกให้กับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มาแต่ปีการศึกษา 2555 และในปี 2556 จะแจกในระดับ ป.1 และมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระดับละกว่า 8 แสนเครื่อง ซึ่งตนให้ความเห็นว่าปัจจุบันเทคโนโลยีมีความทันสมัย หากเรานำมาใช้กับการศึกษาได้ก็จะทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพ เช่นในอดีตสอนทางไกลผ่านดาวเทียมเพื่อให้เด็กในพื้นที่ห่างไกลได้มีโอกาสเรียนกับครูที่มีความรู้และเชี่ยวชาญ ส่วนแท็บเล็ตนั้นเป็นเทคโนโยสมัยใหม่ ซึ่งทำให้เด็กได้ใช้เรียนรู้ตลอดเวลา สามารถเลือกการเรียนรู้ในเนื้อหาที่ไม่เข้าใจได้แบบซ้ำแล้วซ้ำอีก เช่น วิชาภาษาอังกฤษ ในอดีตเด็กต้องเข้าไปเรียนห้องซาวแล็บ เพื่อฟังสำเนียงการพูดของเจ้าของภาษา ซึ่งก็มีข้อจำกัดว่านานๆ จะได้เข้าครั้งหนึ่ง แต่หากเป็นแท็บเล็ตก็สามารถเรียนและสอนในห้องร่วมกันได้เลย เป็นต้น

ทางฟิลลิปปินส์ ให้ความสนใจโครงการแท็บเล็ตและบอกจะติดตามดูผลการใช้งาน เพราะมีไม่กี่ประเทศแจกแท็บเล็ตนักเรียน โดยเฉพาะของไทยนั้นแจกจำนวนมากระดับชั้นเดียวก็ 8 แสนเครื่อง จึงทำให้ทั่วโลกจับตามองว่าที่เราทำไปผลการประเมินการศึกษาเป็นเช่นไร ซึ่ง ศธ.ก็ได้ทำการประเมินแล้วพบว่านักเรียนที่ใช้แท็บเล็ตในการเรียนนั้น ผลการเรียนการสอนออกมาเป็นที่พอใจ ขณะเดียวกันเด็กสนใจเรียนมากขึ้น เพราะแท็บบเล็ตทำให้เด็กเห็นภาพเคลื่อนไหวมากขึ้นกว่าที่เด็กได้เห็นในกระดาษ” รมว.ศึกษาธิการ กล่าวและว่า นอกจากนี้ ได้มีการพูดถึงการเลื่อนเปิด-ปิดภาคเรียนให้ตรงกับกลุ่มประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วย ซึ่งของประเทศฟิลิปปินส์ยังไม่มีการปรับเปลี่ยน แต่ของไทยในระดับอุดมศึกษาจะเลื่อนเปิดเทอมไปช่วงเดือนสิงหาคม เริ่มปีการศึกษา 2557 อำนวยความสะดวกให้กับนักศึกษาที่ต้องการเคลื่อนย้ายเข้ามาเรียน ส่วนระดับการศึกษาพื้นฐานและอาชีวศึกษา ก็มีการขยับเช่นกัน ซึ่งตนมองว่าหากประเทศไทยต้องการเป็นศูนย์กลางในด้านการศึกษาของอาเซียนก็ต้องปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับด้วย ซึ่งจากนี้จะไปดูเรื่องการขอวีซ่าของนักเรียน หรืออาจารย์ให้มีความสะดวกขึ้นกว่าในปัจจุบัน
กำลังโหลดความคิดเห็น