หนุ่มสาวเวิร์กกิ้งยุคนี้ต้องรีบทำงานแข่งกับเวลา แถมยังต้องเจอภาวะกดดันอีกสารพัด ไม่ว่าจะมาจากเพื่อนร่วมงานก็ดี หรือหัวหน้างานก็ตาม "สมอง" เป็นอวัยวะที่จะคอยช่วยจดจำ คิดเชื่อมโยง และวิเคราะห์เพื่อช่วยเราแก้ปัญหานานาที่หลั่งไหลเข้ามาในแต่ละวัน เรียกได้ว่า ต้องประมวลผลในการทำงานทุกวัน ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ
จนบางครั้งอาจจะรู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย คิดอะไรไม่ออก และยิ่งเจอกับสภาะเครียดกดดันร่วมด้วยก็จะทำให้สมองทำงานหนักมากขึ้น หากเปรียบเทียบสมองเป็นคอมพิวเตอร์ก็คงเป็นเครื่องที่ไม่เคยชัตดาวน์ แถมเจอไวรัสความเครียดปั่นป่วนให้ทำงานช้าลงอีกต่างหาก
ที่สำคัญ...คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ค่อยเห็นความสำคัญของสุขภาพสมองเท่าที่ควร
เกี่ยวกับเรื่องนี้ รศ.ดร.สุรพจน์ วงศ์ใหญ่ คณบดีผู้ก่อตั้งคณะการแพทย์แผนตะวันออก และผู้เชี่ยวชาญพืชสมุนไพร สหประชาชาติ กล่าวว่า สมองเปรียบเหมือนกองบัญชาการสำคัญของร่างกาย ที่คอยควบคุมระบบการเคลื่อนไหว ระบบประสาทสัมผัสต่างๆ ทั้งการได้ยิน การมองเห็น การรับรู้กลิ่นและรส รวมถึงการควบคุมอารมณ์ ความรู้สึก การเรียนรู้และความจำ แต่ภายใต้การดำเนินชีวิตในยุคปัจจุบันทำให้สมองต้องทำงานหนักมากยิ่งขึ้น สมองจึงต้องการสารอาหารเพื่อเป็นพลังงานในการทำงาน โดยเฉพาะช่วงที่ถูกกดดันมากกว่าปกติ ทั้งจากการทำงาน ปัญหาเศรษฐกิจ ฯลฯ การดูแลสมองให้ทำงานได้ดีเต็มประสิทธิภาพจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก
ทางเลือกหนึ่งในการบำรุงสมองที่มีผลการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่แน่ชัดก็คือ "โสม" เพราะมีสารจินเซนโนไซด์ ในการช่วยเสริมการทำงานของอวัยวะและระบบต่างๆ ในร่างกายหลายส่วน เช่น สารสื่อประสาทในสมอง ระบบประสาทส่วนกลาง เป็นต้น ทำให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างเซลล์ต่อเซลล์ของระบบประสาทในสมองให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงยังมีฤทธิ์ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยปกป้องเซลล์ประสาท
อย่างไรก็ตาม การเลือกรับประทานโสมเพื่อบำรุงสุขภาพสมอง ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด รศ.ดร.สุพจน์ บอกด้วยว่า ยังคงจำเป็นต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทั้งประเภทผักสด ผลไม้ ธัญพืช ถั่ว เนื้อไก่ เนื้อปลา ฯลฯ เพื่อให้ร่างการได้รับสารอาหารหลายๆ ชนิดมากขึ้น และควรบริโภคอาหารให้เป็นเวลา เพื่อให้สมองมีพลังงานใช้อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอาหารเช้า จะช่วยควบคุมระดับความดันโลหิตและระดับคอลเลสเตอรอลในเลือด เน้นการพักผ่อนให้เพียงพอ
"ขณะเดียวกันควรการเพิ่มการออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่เสริมสร้างสมอง เช่น เล่นเกมโซดูกุ ต่อจิกซอว์ การนั่งสมาธิ สวดมนต์ อ่านหนังสือ หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ส่งผลต่อความผิดปกติของสารสื่อประสาท เช่น มีความเครียดสะสม ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ ได้รับสารพิษที่ปนเปื้อนอยู่ในอาหารและสภาพแวดล้อม รวมถึงยาบางชนิด ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่มีผลต่อการทำงานของสมองทั้งสิ้น"
เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้มีสุขภาพกายที่ดี มีพลังสมองเต็มเปี่ยม มีความคิดที่โลดแล่นเฉียบคม พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ได้อย่างเต็มที่
