“พระองค์โสม” เตรียมเสด็จเปิดงานวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค.นี้ สธ.หวังรณรงค์ลดนักสูบหน้าใหม่ เชื่อกฎหมายบังคับพิมพ์ภาพคำเตือนไม่ต่ำกว่า 85% หน้าซอง กระตุ้นนักสูบคิดถึงความเสี่ยงและเลิกสูบมากขึ้น
วันนี้ (21 พ.ค.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวระหว่างแถลงข่าวการจัดกิจกรรมวันงดสูบบุหรี่โลกประจำปี 2556 ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้วันที่ 31 พ.ค.ทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก ซึ่งปีนี้กำหนดประเด็นรณรงค์พร้อมกันทั่วโลกว่า “ไม่ใช้ ไม่รับ ไม่สนับสนุนโฆษณายาสูบร้าย ทำลายชีวิต” ว่า รายงานของ WHO ล่าสุด พบว่า บุหรี่เป็นสาเหตุให้ประชากรทั่วโลกเสียชีวิตจากโรคปีละกว่า 6 ล้านคน เฉลี่ยนาทีละ 11 คน ส่วนไทยมีรายงานเสียชีวิตปีละเกือบ 50,000 คน เฉลี่ย 10 นาที 1 คน อันดับ 1 คือโรคถุงลมปอดโป่งพอง รองลงมาคือมะเร็งปอด และโรคหัวใจและหลอดเลือด ผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ล่าสุดในปี 2554 พบว่า คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปสูบบุหรี่ 11.5 ล้านคน หรือร้อยละ 21.4 ของประชากรวัยนี้ ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดบุหรี่ สูบเป็นประจำจำนวน 9.9 ล้านคน ผู้ชายมีอัตราสูบบุหรี่มากกว่าผู้หญิง 20 เท่าตัว ประการสำคัญยังพบว่า เยาวชนไทย อายุ 15-24 ปี เริ่มสูบบุหรี่เร็วขึ้น จากในปี 2550 เริ่มสูบอายุเฉลี่ย 16.8 ปี แต่ในปี 2554 เริ่มสูบอายุเฉลี่ย 16.2 ปี
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ไทยได้ดำเนินการใช้มาตรการควบคุมยาสูบอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง โดยมาตรการที่มีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และส่งผลต่อการควบคุมยาสูบอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ การเพิ่มอัตราภาษียาสูบ การห้ามโฆษณาหรือส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกรูปแบบ การเพิ่มพื้นที่สาธารณะปลอดควันบุหรี่ และการเพิ่มการเข้าถึงบริการช่วยเลิกบุหรี่ รวมทั้งการเตือนให้รับรู้ถึงพิษภัยของยาสูบ โดยเฉพาะภาพ คำเตือนบนซองบุหรี่ โดยในปี 2556 นี้กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศทรวงสาธารณสุข ให้พิมพ์ฉลากรูปภาพและข้อความคำเตือนเกี่ยวกับพิษภัยสี่สี 10 แบบ ขนาดไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 ลงบนซองบุหรี่ทั้ง 2 ข้าง ซึ่งนับเป็นขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยจัดพิมพ์ 10 แบบคละกัน รวมทั้งพิมพ์ช่องทางติดต่อเพื่อการเลิกยาสูบ คือ หมายเลขโทรศัพท์ 1600
ทั้งนี้ ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2556 และจะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวัน คือในวันที่ 2 ตุลาคม 2556 เป็นต้นไป ผู้ผลิตหรือนำเข้าบุหรี่ซิกาแรตทุกราย จะต้องปฏิบัติตามโดยรับต้นแบบภาพที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น การใช้คำเตือนพิษภัยบุหรี่ที่เป็นภาพขนาดใหญ่ครั้งนี้ เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลสื่อสารถึงประชาชนเรื่องความเสี่ยงภัยหรือผลกระทบจากการสูบบุหรี่ ซึ่งผลวิจัยยืนยันว่ามีผลต่อทัศนคติความเชื่อของผู้สูบบุหรี่ โดยร้อยละ 71 ทำให้หวนนึกถึงอันตรายของบุหรี่ต่อสุขภาพ ร้อยละ 63 นึกถึงการเลิกบุหรี่ และร้อยละ 80 เกิดแรงผลักดันพยายามเลิกสูบบุหรี่
“ขณะนี้ได้ให้กรมควบคุมโรค เร่งชี้แจงทำความเข้าใจผู้ประกอบการทุกราย เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปในแนวเดียวกันทั่วประเทศ โดยผ่อนผันให้บุหรี่ซิกาแรตที่ผลิตหรือนำเข้าก่อนวันที่ประกาศฯ มีผลบังคับใช้คือวันที่ 2 ตุลาคม 2556 อนุญาตให้จำหน่ายได้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2556 เท่านั้น ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย มีโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท และผู้จำหน่ายบุหรี่ซิกาแรตที่ไม่ได้แสดงฉลากตามที่กำหนดไว้ มีโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท” รมช.สาธารณสุข กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ได้มีการดำเนินการควบคู่ไปกับมาตรการด้านอื่นๆ สอดคล้องแนวปฏิบัติการห้ามอุตสาหกรรมยาสูบแทรกแซงนโยบายควบคุมยาสูบของรัฐ และการโฆษณายาสูบ การส่งเสริมการขายยาสูบ และการให้การสนับสนุนโดยยาสูบ ตามอนุสัญญาควบคุมยาสูบองค์การอนามัยโลก ภายใต้พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ...ซึ่งเป็นเครื่องมือควบคุมมิให้มีการละเมิด อาทิ การห้ามจำหน่ายยาสูบโดยใช้เครื่องขาย การห้ามโฆษณาแฝง การห้ามจำหน่ายยาสูบโดยจัดโปรโมชันต่างๆ การห้ามการโฆษณาผลิตภัณฑ์ยาสูบในทุกช่องทาง เป็นต้น
สำหรับการจัดงานรณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก ประจำปี 2556 นี้ ในวันศุกร์ที่ 31 พ.ค. 2556 สธ.ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย กำหนดจัดงานที่ บริเวณชั้นจี ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต จังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่เวลา 11.00-19.00 น.โดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ จะเสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงานเวลา 15.00 น.และประทานรางวัลขององค์การอนามัยโลก แก่ผู้ที่มีผลงานดีเด่นในการสนับสนุนการควบคุมยาสูบระดับนานาชาติ จำนวน 1 ราย และประทานโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ บุคคลหรือหน่วยงานที่ทำคุณประโยชน์ด้านการควบคุมการบริโภคยาสูบ จำนวน 30 ราย นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการทางวิชาการ การให้บริการทางการแพทย์ การให้คำปรึกษาเลิกบุหรี่ และกิจกรรมบันเทิงสอดแทรกสาระความรู้ต่างๆ รวมทั้งขอเชิญชวนและช่วยบอกต่อๆกันให้มาร่วมแสดงพลังสร้างสังคมไทยปลอดบุหรี่ และร่วมกันไม่สนับสนุนกลยุทธ์การตลาดของอุตสาหกรรมยาสูบ ในงานดังกล่าวด้วย
วันนี้ (21 พ.ค.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวระหว่างแถลงข่าวการจัดกิจกรรมวันงดสูบบุหรี่โลกประจำปี 2556 ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้วันที่ 31 พ.ค.ทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก ซึ่งปีนี้กำหนดประเด็นรณรงค์พร้อมกันทั่วโลกว่า “ไม่ใช้ ไม่รับ ไม่สนับสนุนโฆษณายาสูบร้าย ทำลายชีวิต” ว่า รายงานของ WHO ล่าสุด พบว่า บุหรี่เป็นสาเหตุให้ประชากรทั่วโลกเสียชีวิตจากโรคปีละกว่า 6 ล้านคน เฉลี่ยนาทีละ 11 คน ส่วนไทยมีรายงานเสียชีวิตปีละเกือบ 50,000 คน เฉลี่ย 10 นาที 1 คน อันดับ 1 คือโรคถุงลมปอดโป่งพอง รองลงมาคือมะเร็งปอด และโรคหัวใจและหลอดเลือด ผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ล่าสุดในปี 2554 พบว่า คนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไปสูบบุหรี่ 11.5 ล้านคน หรือร้อยละ 21.4 ของประชากรวัยนี้ ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดบุหรี่ สูบเป็นประจำจำนวน 9.9 ล้านคน ผู้ชายมีอัตราสูบบุหรี่มากกว่าผู้หญิง 20 เท่าตัว ประการสำคัญยังพบว่า เยาวชนไทย อายุ 15-24 ปี เริ่มสูบบุหรี่เร็วขึ้น จากในปี 2550 เริ่มสูบอายุเฉลี่ย 16.8 ปี แต่ในปี 2554 เริ่มสูบอายุเฉลี่ย 16.2 ปี
นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า ไทยได้ดำเนินการใช้มาตรการควบคุมยาสูบอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง โดยมาตรการที่มีประสิทธิภาพ คุ้มค่า และส่งผลต่อการควบคุมยาสูบอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่ การเพิ่มอัตราภาษียาสูบ การห้ามโฆษณาหรือส่งเสริมการขายผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกรูปแบบ การเพิ่มพื้นที่สาธารณะปลอดควันบุหรี่ และการเพิ่มการเข้าถึงบริการช่วยเลิกบุหรี่ รวมทั้งการเตือนให้รับรู้ถึงพิษภัยของยาสูบ โดยเฉพาะภาพ คำเตือนบนซองบุหรี่ โดยในปี 2556 นี้กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศทรวงสาธารณสุข ให้พิมพ์ฉลากรูปภาพและข้อความคำเตือนเกี่ยวกับพิษภัยสี่สี 10 แบบ ขนาดไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 ลงบนซองบุหรี่ทั้ง 2 ข้าง ซึ่งนับเป็นขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยจัดพิมพ์ 10 แบบคละกัน รวมทั้งพิมพ์ช่องทางติดต่อเพื่อการเลิกยาสูบ คือ หมายเลขโทรศัพท์ 1600
ทั้งนี้ ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2556 และจะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวัน คือในวันที่ 2 ตุลาคม 2556 เป็นต้นไป ผู้ผลิตหรือนำเข้าบุหรี่ซิกาแรตทุกราย จะต้องปฏิบัติตามโดยรับต้นแบบภาพที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น การใช้คำเตือนพิษภัยบุหรี่ที่เป็นภาพขนาดใหญ่ครั้งนี้ เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลสื่อสารถึงประชาชนเรื่องความเสี่ยงภัยหรือผลกระทบจากการสูบบุหรี่ ซึ่งผลวิจัยยืนยันว่ามีผลต่อทัศนคติความเชื่อของผู้สูบบุหรี่ โดยร้อยละ 71 ทำให้หวนนึกถึงอันตรายของบุหรี่ต่อสุขภาพ ร้อยละ 63 นึกถึงการเลิกบุหรี่ และร้อยละ 80 เกิดแรงผลักดันพยายามเลิกสูบบุหรี่
“ขณะนี้ได้ให้กรมควบคุมโรค เร่งชี้แจงทำความเข้าใจผู้ประกอบการทุกราย เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปในแนวเดียวกันทั่วประเทศ โดยผ่อนผันให้บุหรี่ซิกาแรตที่ผลิตหรือนำเข้าก่อนวันที่ประกาศฯ มีผลบังคับใช้คือวันที่ 2 ตุลาคม 2556 อนุญาตให้จำหน่ายได้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2556 เท่านั้น ผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย มีโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท และผู้จำหน่ายบุหรี่ซิกาแรตที่ไม่ได้แสดงฉลากตามที่กำหนดไว้ มีโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท” รมช.สาธารณสุข กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ได้มีการดำเนินการควบคู่ไปกับมาตรการด้านอื่นๆ สอดคล้องแนวปฏิบัติการห้ามอุตสาหกรรมยาสูบแทรกแซงนโยบายควบคุมยาสูบของรัฐ และการโฆษณายาสูบ การส่งเสริมการขายยาสูบ และการให้การสนับสนุนโดยยาสูบ ตามอนุสัญญาควบคุมยาสูบองค์การอนามัยโลก ภายใต้พระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ...ซึ่งเป็นเครื่องมือควบคุมมิให้มีการละเมิด อาทิ การห้ามจำหน่ายยาสูบโดยใช้เครื่องขาย การห้ามโฆษณาแฝง การห้ามจำหน่ายยาสูบโดยจัดโปรโมชันต่างๆ การห้ามการโฆษณาผลิตภัณฑ์ยาสูบในทุกช่องทาง เป็นต้น
สำหรับการจัดงานรณรงค์วันงดสูบบุหรี่โลก ประจำปี 2556 นี้ ในวันศุกร์ที่ 31 พ.ค. 2556 สธ.ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย กำหนดจัดงานที่ บริเวณชั้นจี ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต จังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่เวลา 11.00-19.00 น.โดย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ จะเสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงานเวลา 15.00 น.และประทานรางวัลขององค์การอนามัยโลก แก่ผู้ที่มีผลงานดีเด่นในการสนับสนุนการควบคุมยาสูบระดับนานาชาติ จำนวน 1 ราย และประทานโล่ประกาศเกียรติคุณแก่ บุคคลหรือหน่วยงานที่ทำคุณประโยชน์ด้านการควบคุมการบริโภคยาสูบ จำนวน 30 ราย นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการทางวิชาการ การให้บริการทางการแพทย์ การให้คำปรึกษาเลิกบุหรี่ และกิจกรรมบันเทิงสอดแทรกสาระความรู้ต่างๆ รวมทั้งขอเชิญชวนและช่วยบอกต่อๆกันให้มาร่วมแสดงพลังสร้างสังคมไทยปลอดบุหรี่ และร่วมกันไม่สนับสนุนกลยุทธ์การตลาดของอุตสาหกรรมยาสูบ ในงานดังกล่าวด้วย