โดย...สิรวุฒิ รวีไชยวัฒน์
แม้โลกจะเปิดกว้างในเรื่องทางเพศ แต่บางคนก็ยังคงมีอคติต่อเรื่องนี้ในใจ ทำให้บางครั้งเหล่ากะเทย เกย์ ทอม หรือดี้ ยังไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร และมีพื้นที่ยืนในสังคมอย่างจำกัดในบางบริบท บวกกับข่าวเชิงลบที่ถูกตีแผ่ผ่านสื่อมวลชนอยู่บ่อยครั้ง ทำให้หลายคนยิ่งรู้สึกไม่ดีกับบุคคลผิดเพศเหล่านี้!
ทั้งที่ความจริงแล้วพวกเขาก็เป็นมนุษย์ธรรมดาเหมือนคนตรงเพศทั่วไป ที่มีทั้งดีและเลวปะปนกันอยู่ในสังคม
ทว่ายังมีบุคคลบางกลุ่มที่มองว่าเรื่องผิดเพศเป็นเรื่องธรรมดามาก อย่างเหล่า “สาววาย” เพราะภายในความคิดของพวกเธอมักจะมีจินตนาการ (แรงจิ้น) อันล้นเหลือ ในการจับคู่ให้กับหนุ่มคนโปรดในการ์ตูนก็ดี เกมก็ดี ดารานักร้อง หรือแม้แต่หนุ่มรอบข้างใกล้ตัวมาเข้าคู่กัน หรือที่เรียกว่า...จิ้นวาย นั่นเอง มีความสุขกับการจำแนก เมะ เคะ ตัวพ่อตัวแม่ กรี๊ดกร๊าดไปกับจิ้นว่าบรรดาหนุ่มๆนั้นจะทำอะไรกันบ้าง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เห็นได้เกลื่อนตามเว็บไซต์ จนบางครั้งคนภายนอกโลกของพวกเธอ ถึงขั้นส่ายหน้าแล้วได้แต่คิดว่า...โลกใบนี้ชักจะผิดเพี้ยนมากขึ้นไปทุกวัน
อย่างฉันนี่แหละ...สาววาย
หลายคนอาจมองว่าพฤติกรรมของพวกเธอผิดเพี้ยน แต่เหล่าสาววายกลับมองว่าพวกเธอปกติดีทุกอย่าง "มาเรียม" สาววายสุดจี๊ดคนหนึ่งของวงการ บอกว่า พวกเราเป็นคนปกติเหมือนชายหญิงทั่วไป เพียงแต่มีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นผู้ชายรักกัน ซึ่งขอยืนยันเลยว่าพวกเราไม่ใช่โรคจิต ส่วนสาเหตุที่เหล่าสาวๆ หันมาชอบให้ผู้ชายรักกันเอง อาจเป็นเพราะทุกวันนี้ผู้ชายเป็นเกย์หรือชอบผู้ชายด้วยกันเองเยอะขึ้น ขณะที่ผู้หญิงก็คงจะเริ่มทำใจกับเรื่องพวกนี้ได้แล้วว่าเขาคงไม่หันมามองมาชอบพวกเรา ก็เลยจับเขามาจิ้นให้รักกันเองก็รู้สึกมีความสุขมากกว่า
“ลักษณะภายนอกของสาววายก็เหมือนผู้หญิงปกติทั่วไป แต่พฤติกรรมที่สังเกตได้ชัดคือ เกิดอาการทุกครั้งที่เห็นผู้ชายเดินด้วยกันหรือมีกิจกรรมร่วมกัน ที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็พวกแฟนคลับศิลปินที่ชอบจับคู่ให้ศิลปินด้วยกันเอง ซึ่งคงเป็นอารมณ์ที่ไม่อยากเห็นศิลปินที่ตัวเองรักมีแฟนเป็นผู้หญิง ก็เลยจับให้มาเป็นแฟนด้วยกันเองในวง เป็นต้น”
มาเรียม เล่าอีกว่า แม้สาววายจะชอบเห็นผู้ชายรักกันเอง แต่ก็ยังคงต้องการมีแฟนเป็นผู้ชายเหมือนผู้หญิงปกติ เคยมีคนถามว่าหากแฟนของตัวเองไปชอบกับผู้ชายจะยังคงจิ้นได้อยู่หรือไม่ โดยส่วนตัวคงไม่ว่าหากแฟนตัวเองจะไปรักกับผู้ชาย แถมอาจจะหยิบเอาไปจิ้นเพลินๆ ด้วยซ้ำ แต่ในความเป็นจริงหากอยู่ในสถานการณ์นั้นก็ยังไม่รู้ว่าลึกๆ แล้วเราจะเสียใจหรือไม่
เพ้อฝันถึงขั้นแต่งฟิก
เรียกได้ว่าสาววายคือความชอบส่วนตัวอย่างหนึ่งของผู้หญิง ที่อยากเห็นผู้ชายรักกันเอง มาเรียม เล่าว่า บางรายมีจินตนาการสูงถึงขั้นสามารถหยิบหนุ่มคนโปรดมาเขียนเป็นนิยายได้ด้วย โดยเฉพาะการนำศิลปินดาราที่ตนชื่นชอบมาพล็อตเป็นนิยาย เขียนให้คนทั่วไปอ่านตามเว็บไซต์ ตามบล็อก หรือตามบอร์ดต่างๆ ซึ่งแรงบันดาลใจอาจเป็นเพราะคู่จิ้นนั้นไม่ได้มีอาการแสดงอย่างที่เราอยากเห็น เลยจับบุคลิกของพวกเขาเอามาเขียนเป็นนิยาย ให้พวกเขาได้ทำอะไรๆ ที่มากขึ้นกว่าโลกความเป็นจริง ซึ่งก็คงไม่พ้นในเรื่องของเซ็กซ์ด้วย บางรายที่เก่งการวาดภาพก็จับตัวการ์ตูนมาจิ้นกันเป็นเรื่องเป็นราวก็มี
ถึงแม้เหล่าสาววายจะดูเพ้อ และจินตนาการเยอะเกินไปจนหลายคนในสังคมส่ายหน้า แต่มาเรียม บอกว่า เราเป็นผู้หญิงธรรมดา และสิ่งที่เราชอบก็เหมือนกับสิ่งทั่วไปที่ผู้ชายผู้หญิงชอบ เราไม่ได้จับผู้ชายมาจิ้นกันพร่ำเพรื่อ ที่สำคัญมันก็เป็นแค่จินตนาการของพวกเราเอง ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แต่ละคนมีความชอบส่วนตัวได้ พวกเราสาววายก็มีความชอบในแบบของพวกเราได้เช่นกัน
นิยายบอยเลิฟ ขยะหรือวรรณกรรม
จะเห็นได้ว่าการแสดงออกอย่างหนึ่งของเหล่าสาววายคือการแต่งฟิกชายรักชาย หรือเขียนนิยายออกมาในแนวบอยเลิฟ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งหลายคนกลับมองว่ามันเป็นขยะวรรณกรรม เกี่ยวกับเรื่องนี้ “จเด็จ กำจรเดช” นักเขียนเจ้าของรางวัลซีไรต์ประจำปี 2554 แสดงทัศนะว่า การเขียนนิยายก็ถือว่าเป็นงานวรรณกรรมอย่างหนึ่ง นิยายแนวบอยเลิฟ หรือฟิกชายรักชายก็คงไม่ต่างอะไรกับนิยายแนวโรมานซ์หวานแหววที่เป็นชายรักหญิงและคนทั่วไปชอบอ่าน เพราะไม่มีประเด็นที่ให้ผู้อ่านขบคิดหรือต่อยอดความคิดต่อสังคมเหมือนกัน เป็นเพียงการจับสถานการณ์ให้คนมารักกันเท่านั้น ก็เหมือนกับนิยายรักทั่วๆ ไป
จเด็จ บอกอีกว่า การเขียนนิยายแนวนี้เกิดจากแรงปรารถนาของผู้เขียนล้วนๆ ที่อยากจะให้เป็นไปในแนวทางใด ไม่ได้ผูกติดกับสังคมความจริง ต่างจากงานวรรณกรรมชายรักชายหรือหญิงรักหญิงที่ตั้งใจเขียนขึ้นมาเพื่อเรียกร้องสิทธิทางเพศ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นงานเขียนที่แสดงถึงพัฒนาการทางจิตใจของสังคมมนุษย์ในยุคนั้นๆ ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ถึงได้เขียนแสดงผลงานนี้ออกมา
เขาหาว่าหนูบ้า หื่น โรคจิต
ตัวตนสะท้อนผลงาน ผลงานสะท้อนสังคม หลายคนจึงมองว่าเหล่าสาวต้องเป็นพวกที่ผิดปกติ บ้า หื่น หรือโรคจิต แม้สาววายจะออกมาย้ำชัดเจนแล้วว่าไม่ใช่ แต่เพื่อความชัดเจน นพ.ทวี ตั้งเสรี รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้กล่าวถึงพฤติกรรมลักษณะนี้ว่า เป็นเพียงพฤติกรรมความชอบส่วนตัวของแต่ละคนเท่านั้น ไม่ถือว่ามีความผิดปกติหรือโรคจิตแต่อย่างใด แต่อาจเรียกว่าเป็นคนที่มีจินตนาการสูง ส่วนที่ว่าทำไมผู้หญิงถึงมีอาการเช่นนี้มากขึ้น อาจเป็นเพราะว่าสังคมเปิดกว้างเรื่องทางเพศมากขึ้น มีความกล้าแสดงออกมากขึ้น โดยเฉพาะทางโซเชียลมีเดีย รวมถึงมีการกระตุ้นจากสื่อต่างๆ ทั้งภาพยนตร์และโทรทัศน์ อย่างไรก็ตาม การจับผู้ชายมาจิ้นให้รักกันในโลกจินตนาการและไม่ได้ทำให้ชีวิตจริงของใครเดือดร้อนก็ถือว่าไม่เป็นไร ไม่มีผลเสียใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่อย่าหมกมุ่นกับเรื่องพวกนี้มากเกินไปจนลืมโลกแห่งความเป็นจริงก็พอ
แม้โลกจะเปิดกว้างในเรื่องทางเพศ แต่บางคนก็ยังคงมีอคติต่อเรื่องนี้ในใจ ทำให้บางครั้งเหล่ากะเทย เกย์ ทอม หรือดี้ ยังไม่ได้รับการยอมรับเท่าที่ควร และมีพื้นที่ยืนในสังคมอย่างจำกัดในบางบริบท บวกกับข่าวเชิงลบที่ถูกตีแผ่ผ่านสื่อมวลชนอยู่บ่อยครั้ง ทำให้หลายคนยิ่งรู้สึกไม่ดีกับบุคคลผิดเพศเหล่านี้!
ทั้งที่ความจริงแล้วพวกเขาก็เป็นมนุษย์ธรรมดาเหมือนคนตรงเพศทั่วไป ที่มีทั้งดีและเลวปะปนกันอยู่ในสังคม
ทว่ายังมีบุคคลบางกลุ่มที่มองว่าเรื่องผิดเพศเป็นเรื่องธรรมดามาก อย่างเหล่า “สาววาย” เพราะภายในความคิดของพวกเธอมักจะมีจินตนาการ (แรงจิ้น) อันล้นเหลือ ในการจับคู่ให้กับหนุ่มคนโปรดในการ์ตูนก็ดี เกมก็ดี ดารานักร้อง หรือแม้แต่หนุ่มรอบข้างใกล้ตัวมาเข้าคู่กัน หรือที่เรียกว่า...จิ้นวาย นั่นเอง มีความสุขกับการจำแนก เมะ เคะ ตัวพ่อตัวแม่ กรี๊ดกร๊าดไปกับจิ้นว่าบรรดาหนุ่มๆนั้นจะทำอะไรกันบ้าง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เห็นได้เกลื่อนตามเว็บไซต์ จนบางครั้งคนภายนอกโลกของพวกเธอ ถึงขั้นส่ายหน้าแล้วได้แต่คิดว่า...โลกใบนี้ชักจะผิดเพี้ยนมากขึ้นไปทุกวัน
อย่างฉันนี่แหละ...สาววาย
หลายคนอาจมองว่าพฤติกรรมของพวกเธอผิดเพี้ยน แต่เหล่าสาววายกลับมองว่าพวกเธอปกติดีทุกอย่าง "มาเรียม" สาววายสุดจี๊ดคนหนึ่งของวงการ บอกว่า พวกเราเป็นคนปกติเหมือนชายหญิงทั่วไป เพียงแต่มีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นผู้ชายรักกัน ซึ่งขอยืนยันเลยว่าพวกเราไม่ใช่โรคจิต ส่วนสาเหตุที่เหล่าสาวๆ หันมาชอบให้ผู้ชายรักกันเอง อาจเป็นเพราะทุกวันนี้ผู้ชายเป็นเกย์หรือชอบผู้ชายด้วยกันเองเยอะขึ้น ขณะที่ผู้หญิงก็คงจะเริ่มทำใจกับเรื่องพวกนี้ได้แล้วว่าเขาคงไม่หันมามองมาชอบพวกเรา ก็เลยจับเขามาจิ้นให้รักกันเองก็รู้สึกมีความสุขมากกว่า
“ลักษณะภายนอกของสาววายก็เหมือนผู้หญิงปกติทั่วไป แต่พฤติกรรมที่สังเกตได้ชัดคือ เกิดอาการทุกครั้งที่เห็นผู้ชายเดินด้วยกันหรือมีกิจกรรมร่วมกัน ที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็พวกแฟนคลับศิลปินที่ชอบจับคู่ให้ศิลปินด้วยกันเอง ซึ่งคงเป็นอารมณ์ที่ไม่อยากเห็นศิลปินที่ตัวเองรักมีแฟนเป็นผู้หญิง ก็เลยจับให้มาเป็นแฟนด้วยกันเองในวง เป็นต้น”
มาเรียม เล่าอีกว่า แม้สาววายจะชอบเห็นผู้ชายรักกันเอง แต่ก็ยังคงต้องการมีแฟนเป็นผู้ชายเหมือนผู้หญิงปกติ เคยมีคนถามว่าหากแฟนของตัวเองไปชอบกับผู้ชายจะยังคงจิ้นได้อยู่หรือไม่ โดยส่วนตัวคงไม่ว่าหากแฟนตัวเองจะไปรักกับผู้ชาย แถมอาจจะหยิบเอาไปจิ้นเพลินๆ ด้วยซ้ำ แต่ในความเป็นจริงหากอยู่ในสถานการณ์นั้นก็ยังไม่รู้ว่าลึกๆ แล้วเราจะเสียใจหรือไม่
เพ้อฝันถึงขั้นแต่งฟิก
เรียกได้ว่าสาววายคือความชอบส่วนตัวอย่างหนึ่งของผู้หญิง ที่อยากเห็นผู้ชายรักกันเอง มาเรียม เล่าว่า บางรายมีจินตนาการสูงถึงขั้นสามารถหยิบหนุ่มคนโปรดมาเขียนเป็นนิยายได้ด้วย โดยเฉพาะการนำศิลปินดาราที่ตนชื่นชอบมาพล็อตเป็นนิยาย เขียนให้คนทั่วไปอ่านตามเว็บไซต์ ตามบล็อก หรือตามบอร์ดต่างๆ ซึ่งแรงบันดาลใจอาจเป็นเพราะคู่จิ้นนั้นไม่ได้มีอาการแสดงอย่างที่เราอยากเห็น เลยจับบุคลิกของพวกเขาเอามาเขียนเป็นนิยาย ให้พวกเขาได้ทำอะไรๆ ที่มากขึ้นกว่าโลกความเป็นจริง ซึ่งก็คงไม่พ้นในเรื่องของเซ็กซ์ด้วย บางรายที่เก่งการวาดภาพก็จับตัวการ์ตูนมาจิ้นกันเป็นเรื่องเป็นราวก็มี
ถึงแม้เหล่าสาววายจะดูเพ้อ และจินตนาการเยอะเกินไปจนหลายคนในสังคมส่ายหน้า แต่มาเรียม บอกว่า เราเป็นผู้หญิงธรรมดา และสิ่งที่เราชอบก็เหมือนกับสิ่งทั่วไปที่ผู้ชายผู้หญิงชอบ เราไม่ได้จับผู้ชายมาจิ้นกันพร่ำเพรื่อ ที่สำคัญมันก็เป็นแค่จินตนาการของพวกเราเอง ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แต่ละคนมีความชอบส่วนตัวได้ พวกเราสาววายก็มีความชอบในแบบของพวกเราได้เช่นกัน
นิยายบอยเลิฟ ขยะหรือวรรณกรรม
จะเห็นได้ว่าการแสดงออกอย่างหนึ่งของเหล่าสาววายคือการแต่งฟิกชายรักชาย หรือเขียนนิยายออกมาในแนวบอยเลิฟ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งหลายคนกลับมองว่ามันเป็นขยะวรรณกรรม เกี่ยวกับเรื่องนี้ “จเด็จ กำจรเดช” นักเขียนเจ้าของรางวัลซีไรต์ประจำปี 2554 แสดงทัศนะว่า การเขียนนิยายก็ถือว่าเป็นงานวรรณกรรมอย่างหนึ่ง นิยายแนวบอยเลิฟ หรือฟิกชายรักชายก็คงไม่ต่างอะไรกับนิยายแนวโรมานซ์หวานแหววที่เป็นชายรักหญิงและคนทั่วไปชอบอ่าน เพราะไม่มีประเด็นที่ให้ผู้อ่านขบคิดหรือต่อยอดความคิดต่อสังคมเหมือนกัน เป็นเพียงการจับสถานการณ์ให้คนมารักกันเท่านั้น ก็เหมือนกับนิยายรักทั่วๆ ไป
จเด็จ บอกอีกว่า การเขียนนิยายแนวนี้เกิดจากแรงปรารถนาของผู้เขียนล้วนๆ ที่อยากจะให้เป็นไปในแนวทางใด ไม่ได้ผูกติดกับสังคมความจริง ต่างจากงานวรรณกรรมชายรักชายหรือหญิงรักหญิงที่ตั้งใจเขียนขึ้นมาเพื่อเรียกร้องสิทธิทางเพศ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นงานเขียนที่แสดงถึงพัฒนาการทางจิตใจของสังคมมนุษย์ในยุคนั้นๆ ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ถึงได้เขียนแสดงผลงานนี้ออกมา
เขาหาว่าหนูบ้า หื่น โรคจิต
ตัวตนสะท้อนผลงาน ผลงานสะท้อนสังคม หลายคนจึงมองว่าเหล่าสาวต้องเป็นพวกที่ผิดปกติ บ้า หื่น หรือโรคจิต แม้สาววายจะออกมาย้ำชัดเจนแล้วว่าไม่ใช่ แต่เพื่อความชัดเจน นพ.ทวี ตั้งเสรี รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ได้กล่าวถึงพฤติกรรมลักษณะนี้ว่า เป็นเพียงพฤติกรรมความชอบส่วนตัวของแต่ละคนเท่านั้น ไม่ถือว่ามีความผิดปกติหรือโรคจิตแต่อย่างใด แต่อาจเรียกว่าเป็นคนที่มีจินตนาการสูง ส่วนที่ว่าทำไมผู้หญิงถึงมีอาการเช่นนี้มากขึ้น อาจเป็นเพราะว่าสังคมเปิดกว้างเรื่องทางเพศมากขึ้น มีความกล้าแสดงออกมากขึ้น โดยเฉพาะทางโซเชียลมีเดีย รวมถึงมีการกระตุ้นจากสื่อต่างๆ ทั้งภาพยนตร์และโทรทัศน์ อย่างไรก็ตาม การจับผู้ชายมาจิ้นให้รักกันในโลกจินตนาการและไม่ได้ทำให้ชีวิตจริงของใครเดือดร้อนก็ถือว่าไม่เป็นไร ไม่มีผลเสียใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่อย่าหมกมุ่นกับเรื่องพวกนี้มากเกินไปจนลืมโลกแห่งความเป็นจริงก็พอ