xs
xsm
sm
md
lg

เมื่อ “พานแว่นฟ้า” ถูกทาสี หรือวรรณกรรมแดงจะครองเมือง?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กลายเป็นประเด็นร้อนในวงวรรณกรรมไปแล้ว หลังจากมีเค้าลางของปัญหาที่พร้อมจะปะทุออกมากับรางวัลวรรณกรรมการเมือง “พานแว่นฟ้า ครั้งที่ 12” ที่ถูกครหาอย่างหนัก จนสื่อบางสื่อถึงขั้นบอกว่ากลายเป็นพานแว่นแดง! ล่าสุดกับการลาออกของ 14 กรรมการชุดก่อน เกิดอะไรขึ้นกับวงวรรณกรรมไทย ในสภาพบ้านเมืองที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง หรือแม้แต่พื้นที่วรรณกรรมก็ไม่มีที่ว่างให้แก่ความเห็นที่แตกต่าง

รางวัลพานแว่นฟ้าเป็นรางวัลประกวดเรื่องสั้นและบทกวีการเมือง จัดโดยรัฐสภาไทยและสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ในครั้งนี้นั้นได้มีกรรมการชุดใหม่เข้ามาเสริมซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นนักเขียนในกลุ่มที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองไปในเชิงเสื้อแดง

จากวิวาทะในห้องสู่วงนอกบนโลกโซเชียลมีเดีย วิมล ไทรนิ่มนวล นักเขียนรุ่นใหญ่เจ้าของรางวัลซีไรต์ปี 2543 ออกโรงสงสัยในกระบวนการทำงานและผลการตัดสินอย่างรุนแรง โดยจั่วหัวว่า “นักเขียนแดงกำลังรวย” เขาให้รายละเอียดว่ามีการเพิ่มเงินรางวัลไปถึง 1 ล้านบาท พร้อมทั้งสันนิษฐานว่า การที่คณะกรรมการหลายคนเป็นนักเขียนเสื้อแดงน่าจะตัดสินใจให้ผลงานที่รับใช้อุดมการณ์ฝั่งแดงเป็นผลงานที่ได้รับรางวัล

“ปีนี้เงิน “รางวัลพานแว่นฟ้า” ทะยานเสียดฟ้า ราคารางวัลละ 1 ล้านบาท!! ข่าวบอกว่า กลุ่มคนที่เรียกร้องเรื่องนี้ (เงิน) คือ วาดรวี/ ไม้หนึ่ง ก. กุนที/ และ วัฒน์ วรรลยางกูร

นักเขียนทั้งหลายอย่าเพิ่งดีใจ ว่าเงินรางวัลสูงขนาดนี้สามารถช่วยนักเขียนให้ตั้งตัวได้! ขอให้กลับไปดูงานที่ได้รับรางวัลปีที่แล้วกับปีนี้ ว่ามี “เนื้อหา” ในแนวไหน

บางคนบอกว่า ต้องออกในแบบ “ขอบฟ้าเรื่อแดง”! นั่นคือ เนื้อหาต้องออกไปทาง “พวกแดง” ประเภทปฏิวัติ โค่นล้มสังคมเก่า สร้างสรรค์สังคมใหม่ ส่วนโค่นล้มแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป...ถ้าเขียนบอกด้วยก็ดี เรียกว่ามี "ทางออกให้สังคม" แต่รับรองว่าต้องออกไปทาง “แดง” เป็นหลัก ถ้าอยากเห็นเป็นรูปธรรมก็ดูพวกเสื้อแดงเขาทำกันอย่างทุกวันก็พอ ไม่ต้องอาศัยจินตนาการแต่ประการใด”

ไม่นานหลังจากนั้นก็มีวิวาทะตอบโต้มาจากอีกฝ่าย โดยมีข้อมูลที่ถูกเปิดเผยมาว่า รางวัลชนะเลิศนั้นอยู่ที่ 1 แสนบาท พร้อมรายจ่ายเบี้ยประชุมทั้งหมด ทางด้านวัฒน์ วรรลยางกูรก็ออกมาโต้กลับว่า การให้เงินรางวัลสูงขึ้นนั้นเป็นการพัฒนาวงการพร้อมทั้งกล่าวหาคู่วิวาทะว่า อาจจะมีอาการป่วยบางอย่าง

สิ่งที่นักเขียนกลุ่มเสื้อแดงเสนอนั้นมีมุมที่พัฒนาวงการอยู่ แต่อีกมุมหนึ่งก็ทำให้เกิดความขัดแย้งทางความคิดขึ้นอย่างยากจะหลีกเลี่ยง ความขัดแย่งภายในที่สะท้อนออกมาเป็นวิวาทะภายนอกยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น จนเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการจากสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยทั้ง 14 คนตัดสินใจลาออก เช่น เจน สงสมพันธุ์, ชมัยภร บางคมบาง, บูรพา อารัมภีร, กนกวลี กันไทยราษฏร์, จิตติ หนูสุข, พินิจ นิลรัตน์, ธาดา เกิดมงคล, เฉลิมศักดิ์ แหงมงาม, นรีภพ จิระโพธรัตน์, มณฑา ศิริปุณย์, เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ เป็นต้น

“ในด้านหลักการเห็นด้วย เพราะไม่แตกต่างจากเดิม เป็นการเพิ่มเติมรายละเอียดบางส่วนเข้ามาเท่านั้นเอง แต่ในด้าน “วิธีปฏิบัติ” นั้น ไม่สอดคล้องกัน และเพื่อให้การดำเนินการรางวัลพานแว่นฟ้าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐสภา ทางกรรมการ สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย จึงมีมติลาออกทั้งหมด” เจน สงสมพันธุ์ นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยเผยถึงสาเหตุของการลาออกครั้งนี้

ทั้งนี้ แต่เดิมกรรมการของรางวัลพานแว่นฟ้าจะประกอบไปด้วยบุคคลจาก 3 ฝ่ายคือสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย สื่อมวลชน และรัฐสภา มาถึงตอนนี้ก็ยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่า คณะกรรมที่เหลือจากสื่อมวลชน และที่ต้องจับตาคือจากฝ่ายรัฐสภาซึ่งเป็นนักเขียนแดงทั้งหมด พวกเขาจะตัดสินรางวัลออกมาอย่างไร ท้ายที่สุดจะกลายเป็นเพียงเครื่องมือรับใช้อุดมการณ์ทางการเมืองเพื่อชี้นำความคิดของสังคมหรือไม่!!


นักเขียนแดง
วิมล ไทรนิ่มนวล
กำลังโหลดความคิดเห็น