กลุ่มคนรักหลักประกันฯ แฉพฤติกรรม 7 อย่าง “หมอประดิษฐ” ทำลายระบบสาธารณสุขไทย ใช้นโยบายผิดกฎหมาย พร้อมร่วมมือแพทย์ชนบทโจมตี ด้านเครือข่าย ผอ.รพ.สมเด็จพระยุพราชขอร่วงวงด้วย เล็งฟ้อง สตง.ตรวจสอบ
วันนี้ (23 เม.ย.) น.ส.สุรีรัตน์ ตรีมรรคา ผู้ประสานงานกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวถึงกรณี นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมตั้งคณะทำงานบริหารงบกองทุนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ปี 2557 จำนวนกว่า 180,000 ล้านบาท โดยให้ผู้ตรวจราชการ สธ.เป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์กระจายงบขาลงให้โรงพยาบาลต่างๆ แทน สปสช.ว่า จากการประชุมเมื่อเร็วๆ นี้ ของเครือข่ายกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ประกอบด้วยเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคด้านสาธารณสุข เครือข่ายศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน เครือข่ายผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เอชไอวี หัวใจ มะเร็ง โรคไตวายเรื้อรัง และเครือข่ายมิตรภาพบำบัดเพื่อนช่วยเพื่อน เห็นว่า ขณะนี้ฝ่ายการเมืองได้จับมือกับกลุ่มธุรกิจทางการแพทย์เอกชน บริษัทยาข้ามชาติ และข้าราชการประจำระดับสูงใน สธ.ภายใต้การจำยอมของ นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช.มีแผนทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติถอยหลังเป็นระบบอนาถาเหมือนในอดีต
“เป็นการทำให้ระบบบริการสาธารณสุขของรัฐในชนบทอ่อนแอลง ทำให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เสียหายไม่สามารถใช้มาตรการซีแอล เพื่อควบคุมลดราคายาแพงได้อีกต่อไป เปิดทางให้นโยบายเมดิคัล ฮับ ที่กลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองและธุรกิจเอกชนได้เข้ายึดครองขยาย รพ.เอกชน เตรียมตลาดไว้แล้ว เครือข่ายฯจะสนับสนุนการเคลื่อนไหวของชมรมแพทย์ชนบทในการขับไล่ นพ.ประดิษฐ ออกจาก สธ.เพราะมีหลายตัวอย่างที่แสดงว่าตั้งแต่เข้ามามีอำนาจได้กำหนดนโยบายที่มีข่าวว่าผิดกฎหมายและทำร้ายประชาชน” น.ส.สุรีรัตน์ กล่าว
น.ส.สุรีรัตน์ กล่าวอีกว่า ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ คือ 1.จงใจทำผิดกฎหมาย สปสช.ด้วยการประชุมคัดเลือกพวกพ้องนักธุรกิจเข้ายึดครองบอร์ดกำหนดนโยบายใหม่ โดยไม่มีผู้แทนภาคประชาชนเข้าร่วมประชุมคัดเลือกตามที่กฎหมายกำหนด เริ่มต้นแผนล้มระบบหลักประกันสุขภาพ 2.สั่งให้เลขาธิการ สปสช. เสนอตั้งรองเลขาธิการเพิ่มสองคน จากนักการเมืองและนักวิชาการที่ฝ่ายการเมืองสั่งได้ 3.สั่งให้มีมติบอร์ด สปสช.อนุมัติให้เอาเงินกองทุน สปสช.ไปสำรองจ่ายชดเชยค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการและประกันสังคม ในกรณีฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2555 - 30 มี.ค. 2556 เป็นเงินเกือบ 200 ล้านบาท และยังไม่มีการคืนเงิน เป็นการทำผิดกฎหมาย สปสช.มาตรา 38 เรื่องการบริหารเงินกองทุนฯ
4.สั่งตั้งคณะทำงานเพื่อโยกงบกองทุน สปสช.ปี 2557 จำนวนกว่า 180,000 ล้านบาท กลับไปให้ผู้ตรวจราชการฯ เป็นผู้กำหนดการกระจายเงินให้โรงพยาบาลต่างๆ แทน สปสช.ผิดเจตนารมณ์กฎหมายที่ต้องการแยกผู้ซื้อบริการออกจากผู้จัดบริการสาธารณสุข 5.เสนอ ครม.มีมติให้จ่ายค่าตอบแทนตามคะแนนผลงาน (P4P : Pay for Performancr) แทนการจ่ายแบบเหมาจ่ายของโรงพยาบาลชุมชน กดดันบุคลากรสาธารณสุขเข้าเมือง เอื้อธุรกิจ รพ.เอกชน ทำร้ายประชาชนชนบท 6.สร้างกระแสทำลายภาพลักษณ์ อภ.ไม่ให้แข่งขันกับบริษัทยาเอกชน เอื้อประโยชน์บริษัทยาข้ามชาติ 7.กำหนดนโยบายและสั่งทุกหน่วยงานสาธารณสุขสนับสนุนนโยบายเมดิคัล ฮับ เอื้อประโยชน์กับกลุ่มธุรกิจการเมืองและแพทย์พาณิชย์
ด้าน นพ.ภักดี สืบนุการณ์ ผู้อำนวยการ รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จ.เลย กล่าวว่า นโยบายและพฤติกรรมของ รมว.สาธารณสุข สร้างความแตกแยก เพิ่มความเหลื่อมล้ำ ทำลายระบบสาธารณสุขของรัฐ ฉีกกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และนำเงินกองทุน สปสช.ไปใช้ผิดระเบียบ ผิดกฎหมาย กระทบต่อโรงพยาบาลต่างๆ และชีวิตประชาชน วันที่ 24 เม.ย.นี้ เครือข่ายผู้อำนวยการ รพ.สมเด็จพระยุพราช จะร่วมมือกับชมรมแพทย์ชนบท และเครือข่ายอื่นๆ รวบรวมหลักฐานการทุจริต ทำผิดกฎหมายทั้งโดยตรงและโดยนโยบาย ไปฟ้องสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และจะเตรียมการฟ้องสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน และพรรคฝ่ายค้าน เพื่อให้ตรวจสอบและเอาคนผิด สร้างความเสียหายให้กับประชาชน และประเทศชาติ มาลงโทษให้ได้
วันนี้ (23 เม.ย.) น.ส.สุรีรัตน์ ตรีมรรคา ผู้ประสานงานกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวถึงกรณี นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมตั้งคณะทำงานบริหารงบกองทุนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ปี 2557 จำนวนกว่า 180,000 ล้านบาท โดยให้ผู้ตรวจราชการ สธ.เป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์กระจายงบขาลงให้โรงพยาบาลต่างๆ แทน สปสช.ว่า จากการประชุมเมื่อเร็วๆ นี้ ของเครือข่ายกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ประกอบด้วยเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคด้านสาธารณสุข เครือข่ายศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชน เครือข่ายผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เอชไอวี หัวใจ มะเร็ง โรคไตวายเรื้อรัง และเครือข่ายมิตรภาพบำบัดเพื่อนช่วยเพื่อน เห็นว่า ขณะนี้ฝ่ายการเมืองได้จับมือกับกลุ่มธุรกิจทางการแพทย์เอกชน บริษัทยาข้ามชาติ และข้าราชการประจำระดับสูงใน สธ.ภายใต้การจำยอมของ นพ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการ สปสช.มีแผนทำให้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติถอยหลังเป็นระบบอนาถาเหมือนในอดีต
“เป็นการทำให้ระบบบริการสาธารณสุขของรัฐในชนบทอ่อนแอลง ทำให้องค์การเภสัชกรรม (อภ.) เสียหายไม่สามารถใช้มาตรการซีแอล เพื่อควบคุมลดราคายาแพงได้อีกต่อไป เปิดทางให้นโยบายเมดิคัล ฮับ ที่กลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองและธุรกิจเอกชนได้เข้ายึดครองขยาย รพ.เอกชน เตรียมตลาดไว้แล้ว เครือข่ายฯจะสนับสนุนการเคลื่อนไหวของชมรมแพทย์ชนบทในการขับไล่ นพ.ประดิษฐ ออกจาก สธ.เพราะมีหลายตัวอย่างที่แสดงว่าตั้งแต่เข้ามามีอำนาจได้กำหนดนโยบายที่มีข่าวว่าผิดกฎหมายและทำร้ายประชาชน” น.ส.สุรีรัตน์ กล่าว
น.ส.สุรีรัตน์ กล่าวอีกว่า ตัวอย่างที่เห็นชัดๆ คือ 1.จงใจทำผิดกฎหมาย สปสช.ด้วยการประชุมคัดเลือกพวกพ้องนักธุรกิจเข้ายึดครองบอร์ดกำหนดนโยบายใหม่ โดยไม่มีผู้แทนภาคประชาชนเข้าร่วมประชุมคัดเลือกตามที่กฎหมายกำหนด เริ่มต้นแผนล้มระบบหลักประกันสุขภาพ 2.สั่งให้เลขาธิการ สปสช. เสนอตั้งรองเลขาธิการเพิ่มสองคน จากนักการเมืองและนักวิชาการที่ฝ่ายการเมืองสั่งได้ 3.สั่งให้มีมติบอร์ด สปสช.อนุมัติให้เอาเงินกองทุน สปสช.ไปสำรองจ่ายชดเชยค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการและประกันสังคม ในกรณีฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2555 - 30 มี.ค. 2556 เป็นเงินเกือบ 200 ล้านบาท และยังไม่มีการคืนเงิน เป็นการทำผิดกฎหมาย สปสช.มาตรา 38 เรื่องการบริหารเงินกองทุนฯ
4.สั่งตั้งคณะทำงานเพื่อโยกงบกองทุน สปสช.ปี 2557 จำนวนกว่า 180,000 ล้านบาท กลับไปให้ผู้ตรวจราชการฯ เป็นผู้กำหนดการกระจายเงินให้โรงพยาบาลต่างๆ แทน สปสช.ผิดเจตนารมณ์กฎหมายที่ต้องการแยกผู้ซื้อบริการออกจากผู้จัดบริการสาธารณสุข 5.เสนอ ครม.มีมติให้จ่ายค่าตอบแทนตามคะแนนผลงาน (P4P : Pay for Performancr) แทนการจ่ายแบบเหมาจ่ายของโรงพยาบาลชุมชน กดดันบุคลากรสาธารณสุขเข้าเมือง เอื้อธุรกิจ รพ.เอกชน ทำร้ายประชาชนชนบท 6.สร้างกระแสทำลายภาพลักษณ์ อภ.ไม่ให้แข่งขันกับบริษัทยาเอกชน เอื้อประโยชน์บริษัทยาข้ามชาติ 7.กำหนดนโยบายและสั่งทุกหน่วยงานสาธารณสุขสนับสนุนนโยบายเมดิคัล ฮับ เอื้อประโยชน์กับกลุ่มธุรกิจการเมืองและแพทย์พาณิชย์
ด้าน นพ.ภักดี สืบนุการณ์ ผู้อำนวยการ รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จ.เลย กล่าวว่า นโยบายและพฤติกรรมของ รมว.สาธารณสุข สร้างความแตกแยก เพิ่มความเหลื่อมล้ำ ทำลายระบบสาธารณสุขของรัฐ ฉีกกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และนำเงินกองทุน สปสช.ไปใช้ผิดระเบียบ ผิดกฎหมาย กระทบต่อโรงพยาบาลต่างๆ และชีวิตประชาชน วันที่ 24 เม.ย.นี้ เครือข่ายผู้อำนวยการ รพ.สมเด็จพระยุพราช จะร่วมมือกับชมรมแพทย์ชนบท และเครือข่ายอื่นๆ รวบรวมหลักฐานการทุจริต ทำผิดกฎหมายทั้งโดยตรงและโดยนโยบาย ไปฟ้องสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และจะเตรียมการฟ้องสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ตรวจการแผ่นดิน และพรรคฝ่ายค้าน เพื่อให้ตรวจสอบและเอาคนผิด สร้างความเสียหายให้กับประชาชน และประเทศชาติ มาลงโทษให้ได้