xs
xsm
sm
md
lg

ระบบสุขภาพ อิสรภาพของคนไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โดย..ทันตแพทย์อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ

ผมเชื่อว่าบุคลากรทางการแพทย์ที่เคยทำงานในโรงพยาบาลภาครัฐเกิน 10 ปีขึ้นไปจะต้องเคยพบเหตุการณ์ในบางเสี้ยวบางตอนในชีวิตการทำงาน คล้ายๆกับที่คุณหมอสงวนเคยบันทึกไว้ในหนังสือ “บนเส้นทางสู่หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า” หน้า 34 ใจความว่า “วันหนึ่งในขณะที่ผมนั่งรถกลับโรงพยาบาลหลังเสร็จสิ้นภารกิจในเมือง ฝนตกหนักระหว่างทาง เราได้พบผู้หญิงคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยยืนเหมือนกับจะรอรถโดยสารอยู่ข้างทางด้วยความที่เห็นว่าฝนตกหนักและรถที่ผมนั่งอยู่มีที่ว่างพอทางด้านหลัง ผมจึงบอกให้คนขับรถจอดรับแม่ลูกคู่นั้นขึ้นรถ เมื่อสอบถามได้ความว่าลูกของเธอไม่สบาย จากการสังเกตสภาพของเด็กด้วยตาก็คาดว่าเด็กน่าจะเป็นปอดบวม เพราะมีอาการหายใจหอบ ผมเลยบอกกับผู้เป็นแม่ว่า รถที่นั่งอยู่เป็นรถของโรงพยาบาลขอให้สบายใจ และเรากำลังจะไปโรงพยาบาล คงพอจะดูแลให้ลูกของเธอหายได้ เมื่อรถแล่นไปถึงโรงพยาบาลผมก็พบกับสิ่งที่คาดไม่ถึง คือแทนที่จะได้เห็นเธออุ้มลูกมาให้หมอตรวจ เธอกลับอุ้มลูกเดินออกจากโรงพยาบาลโดยไม่ยอมเข้ามารับบริการ ผมจึงเดินตามไปถามว่า มาถึงโรงพยาบาลแล้วทำไมไม่พาลูกไปให้หมอตรวจ เธออ้ำอึ้งไม่ตอบอยู่พักใหญ่ สุดท้ายคนขับรถของผมซึ่งเป็นคนท้องถิ่นได้สอบถามแทน จึงได้ความว่า เธอมีเงินพกติดตัวมาทั้งหมดเพียง 30 บาท ตั้งใจจะนำเด็กไปฉีดยากับหมอเสนารักษ์ที่อยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลเท่าใดนัก ซึ่งโดยปกติเขาจะคิดค่ารักษาเพียง 20 บาท อีก 10 บาทที่เหลือนั้นจะเก็บไว้เป็นค่ารถโดยสารกลับบ้าน”

จะเห็นได้ว่า การเข้าถึงบริการทางการแพทย์เป็นเรื่องไม่ง่ายนัก แม้ว่าจะมีโรงพยาบาลและสถานีอนามัยกระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆของประเทศ แต่ค่ารักษาพยาบาลและค่าเดินทางก็ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญ จวบจนมีพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพขึ้นในปี 2545 กำหนดให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือ สปสช. ทำหน้าที่ดำเนินการโดยการมีส่วนร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคประชาชนเพื่อจัดการให้มีระบบการรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ จากเดิมที่กระทรวงสาธารณสุขทำหน้าที่ทั้งการจัดบริการและจัดการด้านการเงินการคลัง มาเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำงาน โดยกระทรวงสาธารณสุขทำหน้าที่ในการจัดบริการสาธารณสุข และสำนักงานหลักประกันสุขภาพทำหน้าที่ด้านการเงินการคลัง เสมือนหนึ่งเป็นบริษัทประกันชีวิตให้กับคนไทยที่มีสิทธิบัตรทอง เมื่อยามเจ็บไข้ได้ป่วย สามารถไปรับบริการรักษาพยาบาลได้ที่โรงพยาบาลในเครือข่ายบัตรทอง ซึ่งได้แก่โรงพยาบาลรัฐทั้งหมดและโรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ จากวันนั้นเป็นต้นมา ทำให้เกิดการปลดแอกครั้งใหญ่ในสังคมไทย ไม่เพียงแต่ประชาชนสามารถไปรับบริการทางการแพทย์โดยไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลังถึงค่าใช้จ่าย ไม่ต้องไปขอรับการสงเคราะห์เยี่ยงผู้ป่วยอนาถา แต่โรงพยาบาลยังได้รับเงินชดเชยค่าบริการจากรัฐบาลจากระบบหลักประกันสุขภาพ

ปี 2556 บริษัทประกันสุขภาพที่เรียกว่า สปสช.เก็บเบี้ยประกันจากประชาชนคนละ 2,755 บาท เบี้ยประกันจำนวนนี้ได้ถูกนำไปตั้งเป็นกองทุนหลักประกันสุขภาพ ให้ความคุ้มครองบริการทางการแพทย์ทั้งส่งเสริม รักษา ป้องกันและฟื้นฟูภายใต้ชุดสิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุมตั้งแต่การให้วัคซีนจนถึงการเปลี่ยนอวัยวะ

ระบบสุขภาพเป็นระบบที่มีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวาระสุดท้าย การทำงานให้มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องอาศัยองค์ความรู้และการทำงานแบบหนุนเสริมจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จากองค์กร ส.หลักที่ทำหน้าที่ดูแลระบบสาธารณสุขโดยรวมในอดีต คือ สธ.หรือกระทรวงสาธารณสุข ได้แตกหน่อออกเป็นองค์กร ส.ใหม่ที่ทำหน้าที่เฉพาะด้าน ได้แก่การค้นคว้าวิจัย การพัฒนาคุณภาพสถานพยาบาล การสนับสนุนและสร้างเสริมสุขภาพ การสร้างหลักประกันสุขภาพ การพัฒนานโยบายสาธารณสุข และการจัดการการแพทย์ฉุกเฉิน บุคลากรที่บุกเบิกองค์กร ส.เหล่านี้ ต่างเคยอยู่ในร่มใหญ่ของ ส.หลักและเข้าใจข้อจำกัดเป็นอย่างดี จึงออกมาก่อตั้งองค์กร ส.โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนและภาคประชาสังคมได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเสนอแนะและร่วมบริหาร มีการพัฒนางานที่ต้องการความชำนาญเฉพาะด้านเพื่อหนุนเสริมระบบสาธารณสุขของประเทศในภาพรวมให้แข็งแกร่ง โดยมีเป้าหมายที่สุขภาพที่ดีของประชาชนไทย

20 ปีของการกำเนิดองค์กร ส.ได้ทำงานแบบหนุนเสริมกันสร้างผลงานตามความเชี่ยวชาญและมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบสุขภาพของไทย จนองค์การอนามัยโลกยกย่องประเทศไทยให้เป็นตัวอย่างในการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพ และสหประชาชาติกำลังจะประกาศให้เป็นวาระโลกในเรื่องหลักประกัน

สุขภาพเป็นของเฉพาะตัว แต่ระบบสุขภาพเป็นของสาธารณะ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม ไม่รวบอำนาจไว้ที่ใครหรือที่ไหนเพียงแห่งเดียว

ระบบสุขภาพเป็นของทุกคนครับ.
กำลังโหลดความคิดเห็น