จากรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 จนถึงรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาตรา 61 เรามีรัฐธรรมนูญถึง 2 ฉบับ ที่ได้กำหนดให้มีองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค แต่จนทุกวันนี้ เรายังคงต้องรอต่อไป ทั้งๆที่ในรัฐธรรมนูญมีการบัญญัติไว้ว่า การให้มีองค์การอิสระดังกล่าว ต้องทำให้เสร็จภายใน 1 ปี หลังรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
ทำไม องค์การอิสระฯ จึงมีความจำเป็นต่อสังคมไทย
เพราะโครงสร้างการคุ้มครองผู้บริโภคที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถรับมือกับปัญหาการละเมิดสิทธิผู้บริโภคได้ เห็นได้จากในปี 2553 มีคดีผู้บริโภคที่เข้าสู่การพิจารณาของศาลชั้นต้น รวม 397,261 คดี ทั้งคดีที่เกี่ยวกับการเงิน ผลิตภัณฑ์สุขภาพ บริการสุขภาพ
การมีองค์การอิสระฯ ก็เพื่ออุดช่องโหว่ ของกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 และจะได้ทำหน้าที่อย่างอิสระโดยไม่มีเงื่อนไขจากฝ่ายรัฐ หรือ การเมือง และโครงสร้างของกรรมการในองค์การอิสระฯที่ให้มีตัวแทนของผู้บริโภคเพื่อเข้าไปถ่วงดุลฝ่ายราชการ การเมือง และธุรกิจ ภารกิจที่สำคัญขององค์การอิสระฯ คือ การเสนอนโยบาย กฎหมาย และมาตรการเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งต่างจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ในปัจจุบันที่ทำหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย
เราจะได้เห็นองค์การอิสระฯใน พ.ศ.นี้ไหม
ร่าง พ.ร.บ.องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค เกิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2541 นับถึงตอนนี้ก็ 15 ขวบแล้ว เป็นร่างกฎหมายฉบับแรกที่ได้มาจากการเสนอชื่อ 10,000 ชื่อของภาคประชาชน โดยรัฐบาลให้การรับรองในเดือนสิงหาคม 2544 และขณะนี้ร่างกฎหมายได้ผ่านจากกรรมาธิการร่วมของ 2 สภา คือ สภาผู้แทนราษฎร และ วุฒิสภา แล้ว แต่ยังมีความเห็นต่างกันในบางประเด็น หากในอนาคต เมื่อร่างกฎหมายของกรรมาธิการเข้าสู่สภาทั้งสองและมีสภาใดสภาหนึ่งที่ไม่เห็นชอบ ก็เป็นอันตกไป
เพื่อแสดงเจตจำนงของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่ถือประชาชนเป็นที่หนึ่ง จึงควรเร่งรัดให้มีการพิจารณาเพื่อผ่านร่าง พ.ร.บ.องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค และเป็นองค์การอิสระที่ “อิสระ” เป็น “แขน-ขา” ของผู้บริโภคได้จริง
..อย่าให้เราต้องเป็นสายบัวรอเก้อ..