xs
xsm
sm
md
lg

ชาว “วัดแคนางเลิ้ง” วอน รฟม.ทบทวนสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชาว “วัดแคนางเลิ้ง” ร้อง รฟม.ทบทวนแผนสร้างสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม หวั่นทำลายรากเหง้าชุมชน วอนเห็นใจพื้นที่แห่งวัฒนธรรมเก่าแก่

นางสุวัน แววพลอยงาม ประธานชุมชนวัดสุนทรธรรมทาน (วัดแคนางเลิ้ง) กทม.กล่าวในกิจกรรมลงพื้นที่ตามโครงการสื่อสุขภาวะชุมชนชายขอบ ภายใต้กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) ว่า วันนี้ได้เชิญประชุมชาวบ้านในชุมชน ศุภมิตร ชุมชนวัดแคนางเลิ้ง และชุมชนย่านหลานหลวง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ที่มีแนวโน้มว่าจะได้รับผลกระทบจากการกอ่สร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-มีนบุรี ซึ่งดำเนินการโดย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อรับฟังความคิดเห็นกรณีที่ รฟม.ได้เตรียมแผนการก่อสร้าง ซึ่งปราศจากการทำประชาพิจารณ์ภาคประชาชน โดยเมื่อเร็วๆ นี้ ทางชุมชนได้ส่งหนังสือถึงผู้อำนวยการ รฟม.เพื่อร้องเรียนขอให้การรถไฟฯยกเลิกการก่อสร้างสถานีหลานหลวง แล้วสร้างสถานีถัดไปเป็นสถานีผ่านฟ้า โดยไม่ผ่านชุมชนวัดแคฯ เนื่องจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่จะสร้างสถานีหลานหลวงนั้นได้รับผลกระทบต่อแผนการเวนคืนของพื้นที่ประมาณ 10 หลังคาเรือน จึงอยากให้ รฟม.ทบทวนแผน เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านมีความเชื่อมั่นในชีวิตความเป็นอยู่ และพยายามจะสร้างความเข้มแข็งในชุมชน เช่น การรวมตัวก่อตั้งกลุ่มออมทรัพย์ ยาวกว่า 6 ปี โดยมีเงินกองทุนรวมกว่า 1.4 ล้านบาท เพื่อสานต่อโครงการบ้านมั่นคง อีกทั้งเป็นชุมชนที่มีวัฒนธรรมหลายอย่าง อาทิ ความเป็นตลาดเก่า ความมีชื่อเสียงในด้านขนมโบราณ การแสดงละครศิลปวัฒนธรรมดั้งเดิม อย่างละครชาตรี ตลอดจนเป็นสถานที่ดินแดนแห่งตำนาน “พระเอกภาพยนตร์รุ่นเก่าอย่าง มิตร ชัยบัญชา” เป็นต้น เหล่านี้ คือ ประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตกรุงเก่าที่หาดูได้ยาก จึงอยากให้ทาง รฟม.ทบทวน

“ตามกำหนดในแผนของ รฟม.ระบุว่า จะดำเนินการแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในปี 2562 แต่หลายคนในชุมชนลงความเห็นว่า อยากให้ รฟม.เรียกประชุมผู้ที่ได้รับผลกระทบอีกครั้ง เพื่อประชาพิจารณ์อย่างเป็นทางการ เนื่องจากที่ผ่านมาประชาชนไม่เคยมีส่วนร่วมอย่างทั่วถึง แต่จากการเรียกร้องที่ผ่านมา รฟม.ก็ยังนิ่งเฉย ดังนั้นหากทางหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เพื่อให้ประชาชนรับทราบก่อน การดำเนินการสร้าง คาดว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าปรึกษาสำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินอีกครั้ง” นางสุวัน กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น