นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการ หัวข้อ "บทบาทหน่วยงานภาค รัฐในการร่วมพัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่ง มวลชน" โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน แห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า การพัฒนา โครงข่ายรถไฟฟ้า 10 เส้นทาง ถือเป็นนโยบายรัฐบาล โดยปี 2556 จะเร่งรัดการประกวดราคาอีกหลายเส้นทาง ขณะที่กระทรวงคมนาคมได้ให้นโยบายสำคัญกับ รฟม. เรื่องการพัฒนาเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้ากับขนส่งมวลชนประเภทอื่น เพื่อให้ผู้ใช้บริการเข้าถึงระบบได้อย่างสะดวก
ทั้งนี้ ปลายปี 2556 จะผลักดันโครงการนำร่องระบบตั๋วร่วม ซึ่งกระทรวงตั้งใจให้ระบบขนส่ง เช่น รถไฟฟ้าใต้ดิน ระบบทางด่วน สามารถใช้บัตรร่วมกันได้ และหากการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีกว่า 3,000 คัน แล้วเสร็จ จะนำเข้าสู่ระบบด้วย
ขณะที่ปัจจุบันการพัฒนาตั๋วร่วมภาคเอกชนระหว่างบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) ผู้บริหารรถไฟฟ้าใต้ดิน ได้เจรจากับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส นำระบบตั๋วโดยสารแรบบิทมาใช้ จะเป็นการเชื่อมโยงระบบรถไฟฟ้าทั้ง 2 ระบบ ส่วนการจัดตั้งหน่วยงานกลางเพื่อ ดำเนินการคิดคำนวณแบ่งรายได้ค่าโดยสาร ให้แก่ผู้ประกอบการแต่ละราย (เคลียริ่งเฮ้าส์) จะประสานให้ธนาคารกรุงไทยเข้ามาช่วยดำเนินการ เชื่อว่าเคลียริ่งเฮ้าส์ จะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2557
นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า ได้เสนอแนวคิดให้จัดตั้งคณะกรรมการระดับชาติ ภายใต้ชื่อ คณะกรรมการเร่งรัดการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้า (กรร.) มีตัวแทนจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง โดย กรร.จะมีอำนาจสั่งการเด็ดขาดในการจัดระบบสาธารณูปโภค และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าระหว่างการก่อสร้าง ทำให้การเร่งรัดโครงการสามารถเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ยังเสนอให้เพิ่มสัดส่วนรายได้จากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ตามแนวสายทางให้มากขึ้น หากสถานีใดมีอาคารจอดรถ จะพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ให้เป็นแหล่งรายได้ของ รฟม. เพื่อนำมาขยายโครงข่ายรถไฟฟ้ามากขึ้น
ทั้งนี้ ปลายปี 2556 จะผลักดันโครงการนำร่องระบบตั๋วร่วม ซึ่งกระทรวงตั้งใจให้ระบบขนส่ง เช่น รถไฟฟ้าใต้ดิน ระบบทางด่วน สามารถใช้บัตรร่วมกันได้ และหากการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวีกว่า 3,000 คัน แล้วเสร็จ จะนำเข้าสู่ระบบด้วย
ขณะที่ปัจจุบันการพัฒนาตั๋วร่วมภาคเอกชนระหว่างบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) ผู้บริหารรถไฟฟ้าใต้ดิน ได้เจรจากับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส นำระบบตั๋วโดยสารแรบบิทมาใช้ จะเป็นการเชื่อมโยงระบบรถไฟฟ้าทั้ง 2 ระบบ ส่วนการจัดตั้งหน่วยงานกลางเพื่อ ดำเนินการคิดคำนวณแบ่งรายได้ค่าโดยสาร ให้แก่ผู้ประกอบการแต่ละราย (เคลียริ่งเฮ้าส์) จะประสานให้ธนาคารกรุงไทยเข้ามาช่วยดำเนินการ เชื่อว่าเคลียริ่งเฮ้าส์ จะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2557
นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า ได้เสนอแนวคิดให้จัดตั้งคณะกรรมการระดับชาติ ภายใต้ชื่อ คณะกรรมการเร่งรัดการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนรถไฟฟ้า (กรร.) มีตัวแทนจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง โดย กรร.จะมีอำนาจสั่งการเด็ดขาดในการจัดระบบสาธารณูปโภค และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าระหว่างการก่อสร้าง ทำให้การเร่งรัดโครงการสามารถเดินหน้าได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ ยังเสนอให้เพิ่มสัดส่วนรายได้จากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ตามแนวสายทางให้มากขึ้น หากสถานีใดมีอาคารจอดรถ จะพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ ให้เป็นแหล่งรายได้ของ รฟม. เพื่อนำมาขยายโครงข่ายรถไฟฟ้ามากขึ้น