ทปอ.เตรียมประสาน สมศ.ขอสิทธิ์ร่วมตั้งกรรมการประเมินมหา’ลัย รอบที่ 4 ด้วย เพื่อจะได้คนที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมเล็งหารือ ตม.ขยายวีซ่า นศ.อาจารย์ต่างชาติ อยู่เรียนจนจบ หรืออยู่ครบสัญญาจ้าง โดยไม่ต้องต่อบ่อยๆ รองรับอาเซียน
ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า ในการประชุม ทปอ. เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้มีการหารือถึงการประเมินคุณภาพภายนอกระดับอุดมศึกษาของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ในรอบที่ 4 โดยเห็นควรเสนอ สมศ.ว่า ขอให้ ทปอ.มีส่วนร่วมเสนอผู้ร่วมเป็นกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การประเมิน โดยเสนอให้ สมศ.จัดทำบัญชีรายชื่อกรรมการตรวจประเมินระดับอุดมศึกษา โดยจะขอให้สถาบันอุดมศึกษามีสิทธิ์เลือกผู้ทำหน้าที่ประธานและกรรมการตรวจประเมินจำนวนหนึ่งจากบัญชีดังผู้ประเมินดังกล่าว ส่วนการตัดสินใจ จะเลือกหรือไม่ขึ้นอยู่กับ สมศ.เป็นผู้พิจารณาตัดสิน เนื่องจากที่ผ่านมา พบปัญหาว่าประธาน หรือกรรมการตรวจประเมินที่ สมศ.แต่งตั้งบางคนไม่มีความเชี่ยวชาญโดยในเรื่องอุดมศึกษา ทำให้ผลการประเมินที่ออกมาคลาดเคลื่อน ดังนั้น จึงคิดว่าหากมีคนของอุดมศึกษาเข้าไปเป็นกรรมการตรวจประเมินด้วยน่าจะทำให้ดีขึ้น
ประธาน ทปอ.กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงการประเมินคุณภาพภายนอกระดับอุดมศึกษารอบ 3 ซึ่งจะมีขึ้นต้นปี 2556 ที่ผ่านมา การประเมินมักพบปัญหาตัวชี้วัดที่กำหนดให้สถาบันอุดมศึกษาต้องเก็บข้อมูลย้อนหลังถึง 3 ปี ขณะเดียวกัน ในการระหว่างที่สถาบันอุดมศึกษาเก็บข้อมูลก็มีการปรับเกณฑ์บ่อย ทำให้สถาบันอุดมศึกษาปรับตัวไม่ทัน จึงได้หารือกับสมศ.ขอให้ยืดหยุ่นบางหลักเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยยังปรับตัวไม่ทัน และ สมศ.ได้รับปากเรื่องดังกล่าวแล้ว โดย ทปอ.หนังสือเป็นทางการยืนยันกับ สมศ.อีกครั้ง ขณะเดียวกัน ทปอ.จะขอ สมศ.เป็นผู้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล ว่า บัณฑิตสามารถมีงานทำใน 1 ปีหลังจากจบการศึกษาหรือไม่ รวมถึงความพึงพอใจในการใช้บัณฑิตของสถานประกอบการ โดยจะจัดตั้งหน่วยงานกลางของ ทปอ.ขึ้นมาดำเนินการเรื่องนี้โดยเฉพาะ จากเดิมที่มหาวิทยาลัยต่างๆ จะดำเนินการเอง และส่งข้อมูลให้ สมศ.ซึ่งมีบางแห่งก็อาจจะไม่สะดวกรวมข้อมูล ทำให้ข้อมูลไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้น ทปอ.จึงคิดว่าน่าจะรับมาทำเพื่อให้ข้อมูลมีความสมบูรณ์
“ที่ประชุมยังหารือเรื่องการรับนักศึกษาและอาจารย์จากต่างประเทศเข้ามาเรียน และทำงานในประเทศไทย ยังมีปัญหาเรื่องของการต่อวีซ่า ที่จะต้องมีการต่อทุก 3 เดือน ซึ่งจุดนี้สร้างเป็นปัญหาและขัดกับการที่ประเทศไทยกำลังจะเปิดเสรี ประชาคมอาเซียนในการเข้าออกประเทศไทยอย่างสะดวกมากขึ้น ดังนั้น ทปอ.จึงมอบให้ผมไปหารือกับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และอธิบดีกรมอาเซียน ถึงแนวทางปฏิบัติ ว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จากนี้จะให้อาจารย์และนักศึกษาต่างชาติ ไม่ต้องต่อวีซ่าในทุก 3 เดือน แต่สามารถให้อยู่ในประเทศไทยจนกว่าจะเรียนจบโดยที่ไม่ต้องต่อวีซ่าหลายครั้ง ขณะที่อาจารย์ก็ให้อยู่ในประเทศไทยจนครบสัญญาจ้างโดยที่ไม่ต้องไปต่อวีซ่าหลายครั้งเช่นกัน” ประธาน ทปอ.กล่าว
ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เปิดเผยว่า ในการประชุม ทปอ. เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมได้มีการหารือถึงการประเมินคุณภาพภายนอกระดับอุดมศึกษาของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ในรอบที่ 4 โดยเห็นควรเสนอ สมศ.ว่า ขอให้ ทปอ.มีส่วนร่วมเสนอผู้ร่วมเป็นกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การประเมิน โดยเสนอให้ สมศ.จัดทำบัญชีรายชื่อกรรมการตรวจประเมินระดับอุดมศึกษา โดยจะขอให้สถาบันอุดมศึกษามีสิทธิ์เลือกผู้ทำหน้าที่ประธานและกรรมการตรวจประเมินจำนวนหนึ่งจากบัญชีดังผู้ประเมินดังกล่าว ส่วนการตัดสินใจ จะเลือกหรือไม่ขึ้นอยู่กับ สมศ.เป็นผู้พิจารณาตัดสิน เนื่องจากที่ผ่านมา พบปัญหาว่าประธาน หรือกรรมการตรวจประเมินที่ สมศ.แต่งตั้งบางคนไม่มีความเชี่ยวชาญโดยในเรื่องอุดมศึกษา ทำให้ผลการประเมินที่ออกมาคลาดเคลื่อน ดังนั้น จึงคิดว่าหากมีคนของอุดมศึกษาเข้าไปเป็นกรรมการตรวจประเมินด้วยน่าจะทำให้ดีขึ้น
ประธาน ทปอ.กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้หารือถึงการประเมินคุณภาพภายนอกระดับอุดมศึกษารอบ 3 ซึ่งจะมีขึ้นต้นปี 2556 ที่ผ่านมา การประเมินมักพบปัญหาตัวชี้วัดที่กำหนดให้สถาบันอุดมศึกษาต้องเก็บข้อมูลย้อนหลังถึง 3 ปี ขณะเดียวกัน ในการระหว่างที่สถาบันอุดมศึกษาเก็บข้อมูลก็มีการปรับเกณฑ์บ่อย ทำให้สถาบันอุดมศึกษาปรับตัวไม่ทัน จึงได้หารือกับสมศ.ขอให้ยืดหยุ่นบางหลักเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยยังปรับตัวไม่ทัน และ สมศ.ได้รับปากเรื่องดังกล่าวแล้ว โดย ทปอ.หนังสือเป็นทางการยืนยันกับ สมศ.อีกครั้ง ขณะเดียวกัน ทปอ.จะขอ สมศ.เป็นผู้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล ว่า บัณฑิตสามารถมีงานทำใน 1 ปีหลังจากจบการศึกษาหรือไม่ รวมถึงความพึงพอใจในการใช้บัณฑิตของสถานประกอบการ โดยจะจัดตั้งหน่วยงานกลางของ ทปอ.ขึ้นมาดำเนินการเรื่องนี้โดยเฉพาะ จากเดิมที่มหาวิทยาลัยต่างๆ จะดำเนินการเอง และส่งข้อมูลให้ สมศ.ซึ่งมีบางแห่งก็อาจจะไม่สะดวกรวมข้อมูล ทำให้ข้อมูลไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้น ทปอ.จึงคิดว่าน่าจะรับมาทำเพื่อให้ข้อมูลมีความสมบูรณ์
“ที่ประชุมยังหารือเรื่องการรับนักศึกษาและอาจารย์จากต่างประเทศเข้ามาเรียน และทำงานในประเทศไทย ยังมีปัญหาเรื่องของการต่อวีซ่า ที่จะต้องมีการต่อทุก 3 เดือน ซึ่งจุดนี้สร้างเป็นปัญหาและขัดกับการที่ประเทศไทยกำลังจะเปิดเสรี ประชาคมอาเซียนในการเข้าออกประเทศไทยอย่างสะดวกมากขึ้น ดังนั้น ทปอ.จึงมอบให้ผมไปหารือกับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และอธิบดีกรมอาเซียน ถึงแนวทางปฏิบัติ ว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จากนี้จะให้อาจารย์และนักศึกษาต่างชาติ ไม่ต้องต่อวีซ่าในทุก 3 เดือน แต่สามารถให้อยู่ในประเทศไทยจนกว่าจะเรียนจบโดยที่ไม่ต้องต่อวีซ่าหลายครั้ง ขณะที่อาจารย์ก็ให้อยู่ในประเทศไทยจนครบสัญญาจ้างโดยที่ไม่ต้องไปต่อวีซ่าหลายครั้งเช่นกัน” ประธาน ทปอ.กล่าว
