“สุขุมพันธุ์” ห่วงน้ำท่วมขัง สั่งเขตเข้าช่วยเหลือ หากมีแนวโน้มฝนตก พร้อมขอบคุณ กบอ.ไม่ระบายน้ำเหนือมากทม.
วันนี้ (17 ก.ย.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในปี 2555 ว่า เมื่อวันที่ 14-16 ก.ย.ที่ผ่านมายอมรับฝนตกหนักจริง โดยเฉพาะในฝั่งธนบุรีวัดปริมาณน้ำฝนสูงสุด 300 มิลลิเมตร ขณะที่ฝั่งพระนครวัดได้สูงสุด 290 มิลลิเมตร ทำให้เป็นปัญหาในการระบายน้ำเป็นอย่างมาก โดยถนนเส้นทางสายหลักสามารถระบายน้ำได้ภายใน 2-3 ชั่วโมง ส่วนเส้นสายรองและหมู่บ้าน อาทิ หมู่บ้านเศรษฐกิจ เขตบางแค ต้องใช้เวลาในการระบายน้ำพอสมควร ตนจึงกำชับสำนักการเขตหากพบว่ามีแนวโน้มฝนจะตก ขอให้เจ้าหน้าที่เขตลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนทันที โดยไม่ต้องรอให้ฝนตกหรือน้ำท่วมขัง และให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ ออกช่วยเหลือประชาชนในด้านการจราจรและช่วยเหลือรถยนต์เสียด้วย
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า แม้ระดับน้ำในคลองพื้นที่ต่างๆ สูงขึ้น แต่ยังอยู่ในความสามารถที่ควบคุมได้ อาทิ ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนาด้านในระดับน้ำสูง 1.10 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.) ซึ่งปกติจะอยู่ที่ 1 เมตร รทก. แต่หากปริมาณน้ำด้านในประตูระบายน้ำลดลง กทม.จะเปิดบานประตูระบายน้ำให้สูงขึ้น เพื่อระบายน้ำจากคลองมหาสวัสดิ์ ออกอ่าวไทยได้ ส่วนกรณีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ออกมายืนยันว่า จะไม่ระบายน้ำเหนือมายังกรุงเทพฯ โดยจะใช้พื้นที่ฝั่งตะวันออกและตะวันตก ระบายน้ำเหนือไปยังอ่าวไทยนั้น ตนก็ดีใจที่มีการยืนยันแบบนี้ เพราะวิธีการการระบายน้ำเหนือควรจะระบายไปยังฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ไม่ใช่ระบายน้ำผ่านกรุงเทพฯ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ ในส่วนของการขุดลอกคูคลองในพื้นที่ 18 เขตเร่งด่วน จำนวน 644 คลอง ความยาวรวม 988 กิโลเมตร คืบหน้าไปร้อยละ 96 พร้อมเร่งดำเนินการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมคลองบางกอกน้อย สำหรับการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำในส่วนที่กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการระบายน้ำเป็นผู้รับผิดชอบ จำนวน 362 เส้นทาง ความยาวรวม 1,022 กิโลเมตร แล้วเสร็จ 361 เส้นทาง 1,021 กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 99 ส่วนที่สำนักงานเขตรับผิดชอบร่วมกับสำนักการระบายน้ำ ความยาว 4,315 กิโลเมตร แล้วเสร็จ 3,699 กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 83.72 ด้านสถานการณ์น้ำในเขื่อนขณะนี้เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณในอ่างเก็บน้ำร้อยละ 55 และ 63 ตามลำดับ โดยในวันที่ 21 ก.ย.55 เวลา 20.32 น.ระดับน้ำทะเลหนุนสูงสุดที่ระดับ 1.10 ม.รทก.
วันนี้ (17 ก.ย.) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.เกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในปี 2555 ว่า เมื่อวันที่ 14-16 ก.ย.ที่ผ่านมายอมรับฝนตกหนักจริง โดยเฉพาะในฝั่งธนบุรีวัดปริมาณน้ำฝนสูงสุด 300 มิลลิเมตร ขณะที่ฝั่งพระนครวัดได้สูงสุด 290 มิลลิเมตร ทำให้เป็นปัญหาในการระบายน้ำเป็นอย่างมาก โดยถนนเส้นทางสายหลักสามารถระบายน้ำได้ภายใน 2-3 ชั่วโมง ส่วนเส้นสายรองและหมู่บ้าน อาทิ หมู่บ้านเศรษฐกิจ เขตบางแค ต้องใช้เวลาในการระบายน้ำพอสมควร ตนจึงกำชับสำนักการเขตหากพบว่ามีแนวโน้มฝนจะตก ขอให้เจ้าหน้าที่เขตลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนทันที โดยไม่ต้องรอให้ฝนตกหรือน้ำท่วมขัง และให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ ออกช่วยเหลือประชาชนในด้านการจราจรและช่วยเหลือรถยนต์เสียด้วย
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า แม้ระดับน้ำในคลองพื้นที่ต่างๆ สูงขึ้น แต่ยังอยู่ในความสามารถที่ควบคุมได้ อาทิ ประตูระบายน้ำคลองทวีวัฒนาด้านในระดับน้ำสูง 1.10 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง (รทก.) ซึ่งปกติจะอยู่ที่ 1 เมตร รทก. แต่หากปริมาณน้ำด้านในประตูระบายน้ำลดลง กทม.จะเปิดบานประตูระบายน้ำให้สูงขึ้น เพื่อระบายน้ำจากคลองมหาสวัสดิ์ ออกอ่าวไทยได้ ส่วนกรณีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ออกมายืนยันว่า จะไม่ระบายน้ำเหนือมายังกรุงเทพฯ โดยจะใช้พื้นที่ฝั่งตะวันออกและตะวันตก ระบายน้ำเหนือไปยังอ่าวไทยนั้น ตนก็ดีใจที่มีการยืนยันแบบนี้ เพราะวิธีการการระบายน้ำเหนือควรจะระบายไปยังฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ไม่ใช่ระบายน้ำผ่านกรุงเทพฯ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพฯ ในส่วนของการขุดลอกคูคลองในพื้นที่ 18 เขตเร่งด่วน จำนวน 644 คลอง ความยาวรวม 988 กิโลเมตร คืบหน้าไปร้อยละ 96 พร้อมเร่งดำเนินการก่อสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมริมคลองบางกอกน้อย สำหรับการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำในส่วนที่กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการระบายน้ำเป็นผู้รับผิดชอบ จำนวน 362 เส้นทาง ความยาวรวม 1,022 กิโลเมตร แล้วเสร็จ 361 เส้นทาง 1,021 กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 99 ส่วนที่สำนักงานเขตรับผิดชอบร่วมกับสำนักการระบายน้ำ ความยาว 4,315 กิโลเมตร แล้วเสร็จ 3,699 กิโลเมตร คิดเป็นร้อยละ 83.72 ด้านสถานการณ์น้ำในเขื่อนขณะนี้เขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณในอ่างเก็บน้ำร้อยละ 55 และ 63 ตามลำดับ โดยในวันที่ 21 ก.ย.55 เวลา 20.32 น.ระดับน้ำทะเลหนุนสูงสุดที่ระดับ 1.10 ม.รทก.
