ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ส.ส.ภูเก็ตเสนอแก้ปัญหาน้ำท่วมทั้งระบบ ของบประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย ส่งผ่านท้องถิ่น ทำท่อระบายน้ำลงทะเล พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาระยะยาวขุดลอกคลองบางใหญ่ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ขณะที่นายกเทศมนตรีนครภูเก็ตระบุแก้ปัญหาน้ำท่วมภูเก็ตต้องทำเป็นวาระจังหวัด
นางอัญชลี วานิช เทพบุตร ส.ส.จังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานอนุกรรมการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ที่ผ่านมา จังหวัดภูเก็ตประสบปัญหาน้ำท่วมค่อนข้างบ่อยครั้ง และมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งในเรื่องของการแก้ไขปัญหานั้นขณะนี้ ได้ประสานไปยังนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ และอุทกภัย เพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญระดับโลก เรื่องของการบริหารจัดการน้ำจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
สำหรับการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วมของจังหวัดภูเก็ตนั้น คิดว่าจะต้องมีการแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้น และระยะยาว สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะสั้นนั้นเป็นการแก้ปัญหาที่สามารถดำเนินการได้เลย คือ การเร่งระบายน้ำลงทะเลให้ได้เร็วที่สุด แต่ปัญหานี้ทางองค์กรปกคลองส่วนท้องถิ่นเองมีงบประมาณในการดำเนินการจำกัด และถูกจำกัดงบประมาณในการพัฒนา เนื่องจากต้องนำงบประมาณส่วนหนึ่งไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายประจำ ในเรื่องของเงินปริญญาตรี 15,000 บาท และค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทสำหรับลูกจ้าง
ฉะนั้น เงินที่จะเหลือมาพัฒนาค่อนข้างน้อยมาก การจะนำเงินมาใช้ในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วมเพื่อให้น้ำสามารถระบายลงทะเลได้เร็วขึ้น ก็จำเป็นที่จะต้องของบสนับสนุนจากรัฐบาล โดยเฉพาะจากประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำฯ มาให้แก่ท้องถิ่นในการทำท่อระบายน้ำต่างๆ เพื่อจะได้ระบายน้ำจากภูเขาลงทะเลได้เร็วขึ้น เหมือนกับในอดีตที่มีการระบายน้ำได้ดี
นางอัญชลี ได้กล่าวต่อไปถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมภูเก็ตในระยะยาว ว่า เรื่องนี้ก็ได้หารือไปยังนายปลอดประสพ แล้วเช่นกัน ซึ่งการจะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแบบถาวรนั้นจะต้องดำเนินการในเรื่องของการขุดลอกคลองบางใหญ่ ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ คือ ตั้งแต่พื้นที่ ต.กมลา ต.กะทู้ ลงมาถึง ต.รัษฎา ต.วิชิต และมาสิ้นสุดที่เขตเทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งในสมัยที่ตนเคยดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ภูเก็ต เคยมีการศึกษาเรื่องนี้ร่วมกับทาง ม.อ.มาแล้ว และมีการสำรวจเส้นทางน้ำ ตั้งแต่บริเวณเทือกเขากมลา กะทู้ จนสุดปลายทางที่เทศบาลนครภูเก็ต และได้มีการหารือกับนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ในการนำเรื่องเหล่านี้กลับคืนมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง
ซึ่งจากการหารือกับนายปลอดประสพ พบว่า ค่อนข้างเห็นด้วยกับเรื่องนี้ และจะลงมาดูในพื้นที่อีกครั้ง ส่วนเรื่องของงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการก็บอกว่าจะหามาช่วยเหลือเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
นางอัญชลี กล่าวต่อไปว่า จากการศึกษาขุดลอกคลองบางใหญ่ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางซึ่งเป็นเส้นทางหลักการระบายน้ำลงทะเล เมื่อปี 2548 คาดว่า จะต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการประมาณ 80 ล้านบาท แต่ถ้ามีการดำเนินการในช่วงนี้คิดว่างบประมาณในการดำเนินการจะต้องเพิ่มสูงมากขึ้น เพราะค่าครองชีพต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น และไม่มั่นใจสภาพของพื้นที่ในปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร ก็คงจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม
“นอกจากนั้น การแก้ไขปัญหา และป้องกันน้ำท่วมของจังหวัดภูเก็ต สิ่งที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องดำเนินการ คือ เรื่องของการอนุญาตก่อสร้างอาคาร บ้านจัดสรร ซึ่งจะต้องไม่ไปก่อสร้างกีดขวางทางน้ำ และขวางทางระบายน้ำ แต่ปัจจุบันพบว่า การก่อสร้างต่างๆ ไปกีดขวางทางน้ำจำนวนมาก ทำให้การระบายน้ำของจังหวัดค่อนข้างมีปัญหา และทำให้น้ำท่วมเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ในส่วนของท้องถิ่นจะต้องเข้าไปดูเรื่องนี้อย่างจริงจัง” นางอัญชลีกล่าว
ขณะที่ น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า เขตเทศบาลเป็นเหมือนพื้นที่รับน้ำซึ่งน้ำจากทุกพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ตจะไหลลงมาในเขตเทศบาล ซึ่งการแก้ไขปัญหาในส่วนของเทศบาลเองที่ผ่านมาก็ได้ดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของการขุดลอกคูคลอง และท่อระบายน้ำ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ใช้งบประมาณในการดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเป็น 100 ล้านบาท โดยนำมาใช้ในการขุดลอกคูคลอง และลำลางสาธารณะ แต่การแก้ปัญหายังทำได้ไม่เต็มที อย่างที่บอกเขตเทศบาลกลายเป็นพื้นที่รับน้ำน้ำจากทุกพื้นที่จะไหลลงมาที่ในเขตเทศบาลทั้งหมด
“การจะแก้ไขปัญหาให้ได้ผลคิดว่าจะต้องดำเนินการเป็นวาระจังหวัด และให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ โดยเฉพาะการขุดลอกปรับปรุงคลองบางใหญ่ที่มีระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร การแก้ไขปัญหาน้ำจะต้องดูไปถึงต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ถ้าทุกหน่วยร่วมมือกันเชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาได้แน่นอน ซึ่งขณะนี้ในส่วนของเทศบาลกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการทำประตูกั้นน้ำที่คลองบางใหญ่ที่บริเวณปากคลอกแสนสุข คิดว่าถ้าทำเสร็จจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหา และป้องกันน้ำท่วมได้ระดับหนึ่ง แต่ที่สำคัญ การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมภูเก็ตให้ได้ผลสิ่งที่จะต้องดำเนินการคือ การวางแผนแก้ปัญหาทั้งระบบโดยมีจังหวัดเป็นเจ้าภาพ” น.ส.สมใจกล่าวในที่สุด
นางอัญชลี วานิช เทพบุตร ส.ส.จังหวัดภูเก็ต ในฐานะประธานอนุกรรมการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ที่ผ่านมา จังหวัดภูเก็ตประสบปัญหาน้ำท่วมค่อนข้างบ่อยครั้ง และมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งในเรื่องของการแก้ไขปัญหานั้นขณะนี้ ได้ประสานไปยังนายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ และอุทกภัย เพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญระดับโลก เรื่องของการบริหารจัดการน้ำจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
สำหรับการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วมของจังหวัดภูเก็ตนั้น คิดว่าจะต้องมีการแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้น และระยะยาว สำหรับการแก้ไขปัญหาระยะสั้นนั้นเป็นการแก้ปัญหาที่สามารถดำเนินการได้เลย คือ การเร่งระบายน้ำลงทะเลให้ได้เร็วที่สุด แต่ปัญหานี้ทางองค์กรปกคลองส่วนท้องถิ่นเองมีงบประมาณในการดำเนินการจำกัด และถูกจำกัดงบประมาณในการพัฒนา เนื่องจากต้องนำงบประมาณส่วนหนึ่งไปจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายประจำ ในเรื่องของเงินปริญญาตรี 15,000 บาท และค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทสำหรับลูกจ้าง
ฉะนั้น เงินที่จะเหลือมาพัฒนาค่อนข้างน้อยมาก การจะนำเงินมาใช้ในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำท่วมเพื่อให้น้ำสามารถระบายลงทะเลได้เร็วขึ้น ก็จำเป็นที่จะต้องของบสนับสนุนจากรัฐบาล โดยเฉพาะจากประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำฯ มาให้แก่ท้องถิ่นในการทำท่อระบายน้ำต่างๆ เพื่อจะได้ระบายน้ำจากภูเขาลงทะเลได้เร็วขึ้น เหมือนกับในอดีตที่มีการระบายน้ำได้ดี
นางอัญชลี ได้กล่าวต่อไปถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมภูเก็ตในระยะยาว ว่า เรื่องนี้ก็ได้หารือไปยังนายปลอดประสพ แล้วเช่นกัน ซึ่งการจะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมแบบถาวรนั้นจะต้องดำเนินการในเรื่องของการขุดลอกคลองบางใหญ่ ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ คือ ตั้งแต่พื้นที่ ต.กมลา ต.กะทู้ ลงมาถึง ต.รัษฎา ต.วิชิต และมาสิ้นสุดที่เขตเทศบาลนครภูเก็ต ซึ่งในสมัยที่ตนเคยดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ภูเก็ต เคยมีการศึกษาเรื่องนี้ร่วมกับทาง ม.อ.มาแล้ว และมีการสำรวจเส้นทางน้ำ ตั้งแต่บริเวณเทือกเขากมลา กะทู้ จนสุดปลายทางที่เทศบาลนครภูเก็ต และได้มีการหารือกับนายกเทศมนตรีนครภูเก็ต ในการนำเรื่องเหล่านี้กลับคืนมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง
ซึ่งจากการหารือกับนายปลอดประสพ พบว่า ค่อนข้างเห็นด้วยกับเรื่องนี้ และจะลงมาดูในพื้นที่อีกครั้ง ส่วนเรื่องของงบประมาณที่จะใช้ดำเนินการก็บอกว่าจะหามาช่วยเหลือเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
นางอัญชลี กล่าวต่อไปว่า จากการศึกษาขุดลอกคลองบางใหญ่ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางซึ่งเป็นเส้นทางหลักการระบายน้ำลงทะเล เมื่อปี 2548 คาดว่า จะต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการประมาณ 80 ล้านบาท แต่ถ้ามีการดำเนินการในช่วงนี้คิดว่างบประมาณในการดำเนินการจะต้องเพิ่มสูงมากขึ้น เพราะค่าครองชีพต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น และไม่มั่นใจสภาพของพื้นที่ในปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร ก็คงจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม
“นอกจากนั้น การแก้ไขปัญหา และป้องกันน้ำท่วมของจังหวัดภูเก็ต สิ่งที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องดำเนินการ คือ เรื่องของการอนุญาตก่อสร้างอาคาร บ้านจัดสรร ซึ่งจะต้องไม่ไปก่อสร้างกีดขวางทางน้ำ และขวางทางระบายน้ำ แต่ปัจจุบันพบว่า การก่อสร้างต่างๆ ไปกีดขวางทางน้ำจำนวนมาก ทำให้การระบายน้ำของจังหวัดค่อนข้างมีปัญหา และทำให้น้ำท่วมเกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ในส่วนของท้องถิ่นจะต้องเข้าไปดูเรื่องนี้อย่างจริงจัง” นางอัญชลีกล่าว
ขณะที่ น.ส.สมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่า เขตเทศบาลเป็นเหมือนพื้นที่รับน้ำซึ่งน้ำจากทุกพื้นที่ของจังหวัดภูเก็ตจะไหลลงมาในเขตเทศบาล ซึ่งการแก้ไขปัญหาในส่วนของเทศบาลเองที่ผ่านมาก็ได้ดำเนินการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่องของการขุดลอกคูคลอง และท่อระบายน้ำ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ใช้งบประมาณในการดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเป็น 100 ล้านบาท โดยนำมาใช้ในการขุดลอกคูคลอง และลำลางสาธารณะ แต่การแก้ปัญหายังทำได้ไม่เต็มที อย่างที่บอกเขตเทศบาลกลายเป็นพื้นที่รับน้ำน้ำจากทุกพื้นที่จะไหลลงมาที่ในเขตเทศบาลทั้งหมด
“การจะแก้ไขปัญหาให้ได้ผลคิดว่าจะต้องดำเนินการเป็นวาระจังหวัด และให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพในการดำเนินการ โดยเฉพาะการขุดลอกปรับปรุงคลองบางใหญ่ที่มีระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร การแก้ไขปัญหาน้ำจะต้องดูไปถึงต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ถ้าทุกหน่วยร่วมมือกันเชื่อว่าจะแก้ไขปัญหาได้แน่นอน ซึ่งขณะนี้ในส่วนของเทศบาลกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการทำประตูกั้นน้ำที่คลองบางใหญ่ที่บริเวณปากคลอกแสนสุข คิดว่าถ้าทำเสร็จจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหา และป้องกันน้ำท่วมได้ระดับหนึ่ง แต่ที่สำคัญ การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมภูเก็ตให้ได้ผลสิ่งที่จะต้องดำเนินการคือ การวางแผนแก้ปัญหาทั้งระบบโดยมีจังหวัดเป็นเจ้าภาพ” น.ส.สมใจกล่าวในที่สุด
