ภารกิจทดสอบปล่อยน้ำ เกมตรวจการบ้าน “กทม.” บนความหวาดผวาประชาชน

รายงานการเมือง

สมราคาฉายา “ผีเจาะปลอด” แบบไม่มีอะไรให้เคลือบแคลง หลังจากเคยสร้างปรากฏการณ์กระตุกต่อมประสาทชาวบ้านบริเวณรังสิต จ.ปทุมธานี มาแล้วครั้งหนึ่ง

เมื่อช่วงเกิดเหตุการณ์มหาอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554 ที่ ปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เล่นประกาศผ่านจอโทรทัศน์ให้พี่น้องที่อยู่ย่านนั้นรีบขนข้าวขนของ ทิ้งบ้าน หนีน้ำมาหลบภัยกันอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ที่ท่าอากาศดอนเมือง

จนถนนหนทางขณะนั้นอลหม่านวุ่นวายกันไปพักใหญ่ ก่อน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการ ศปภ.ได้ยินถึงกับสะดุ้งต้องวิ่งหน้าตั้งมาประกาศแก้ตัวกันยกใหญ่ เหตุการณ์นั้นทำเอา ศปภ.ขณะนั้น หมดเครดิต หมดความน่าเชื่อถือกันไปเยอะ

ล่าสุด “ปลอดประสพ” เจ้าเก่า ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ก็เกิดคึกคะนองขึ้นมาอีกรอบ โดยครั้งนี้ไม่ได้บรรจงสร้างความหวาดผวาที่เกิดจากภัยธรรมชาติ แต่กลับรับบทเป็นผู้เสกภัยธรรมชาติขึ้นมาลองของในกรุงเทพมหานครเองเสียเอง ตามเป้าประสงค์และเงื่อนเวลา หวังจะใช้การทดสอบหนนี้พีอาร์ความพร้อมของรัฐบาล!!

วันที่ 5 กันยายน รัฐบาลโดย กบอ. กรุงเทพฯ กรมชลประทาน และกองทัพเรือ จะทำการทดสอบระบายน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันตก โดยจะปล่อยน้ำจากประตูระบายน้ำของคลองมหาสวัสดิ์เพื่อส่งต่อไปยังคลองทวีวัฒนา คลองภาษีเจริญ คลองบางแวก คลองบางไผ่ คลองราชมนตรี คลองสนามชัย ก่อนจะออกสู่แม่น้ำท่าจีนและไหลออกสู่อ่าวไทย

ส่วนในวันที่ 7 กันยายน จะทดสอบการระบายน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันออก โดยเริ่มปล่อยน้ำที่คลองหกวาเพื่อไหลไปสู่คลองลาดพร้าว ผ่านอุโมงค์แสนแสบ และคลองบางเขน

จึงมีเสียงคัดค้านแบบทันทีทันใดจากฟากฝั่งผู้บริหารกรุงเทพฯ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ตั้งคำถามถึงความเสี่ยงและคุ้มค่าในการทดสอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสภาพอากาศที่หากระหว่างการทดสอบเกิดมีฝนเทกระหน่ำลงมา รัฐบาลจะสามารถ “เอาอยู่” กับภาวการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่

เนื่องจากเมื่อช่วงเหตุการณ์มหาอุทกภัยวิปโยคปี 2554 ศปภ.ขณะนั้นได้มีการรื้อระบบป้องกันน้ำฝนของกรุงเทพฯ ออกไปและยังไม่ได้มีการติดตั้งใหม่ ขณะที่คลองลาดพร้าวเอง ซึ่งมีบ้านเรือนประชาชนตั้งอาศัยอยู่ริมน้ำเป็นจำนวนมากก็ยังมีการขุดลอกคืบหน้าไปไม่กี่เปอร์เซ็นต์

ตามบทโหดๆ ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ และ ธีระชน มโนนัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ที่ออกมาขู่ฟ่อเลยว่า งานนี้หาก “เอาไม่อยู่” คนที่จับกรุงเทพฯ เป็นตัวประกันครั้งนี้ต้อง “รับผิดชอบ”

สองฝ่ายเล่นบทเขม็งเกลียวใส่กันตั้งแต่งานยังไม่เริ่ม จน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องสั่งการให้ ยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทำหน้าที่กาวใจประสานกวักมือเรียกทีมงานผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ไปนั่งรวมกันจ้อผ่านสื่อที่กระทรวงคลองหลอด

สร้างภาพ “สมานฉันท์” ขึ้นเพื่อลดอุณหภูมิความขัดแย้งที่มีโอกาสลุกลามบานปลายส่งผลให้โปรเจ็กต์ดังกล่าวล่มลงได้

ผู้บริหารกรุงเทพฯ จำเป็นต้องเทคแอ็กชันจูบปากกับรัฐบาลยิ่งลักษณ์กันไปตามบทตามคิว แต่ก็มิวายยังเล่นเหลี่ยมเล่นคู มีหมายเหตุปิดท้าย หาก กบอ.ผิดคิว-ผิดแผน กรุงเทพฯ จะสั่งปิดประตูน้ำทันที ชิงจังหวะออกตัวแบบมาดพระเอกกันไว้ก่อน

ขณะที่บรรดาเหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำคนสำคัญๆ ที่เคยคิดแผนป้องกันน้ำท่วมเมื่อครั้งร่วมงานเป็นคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) ไม่ว่าจะเป็นในรายของ ปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน สมิทธ ธรรมสโรช ประธานคณะกรรมการมูลนิธิเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ก็ล้วนแต่ออกมาสะกิดเตือนถึงความสุดโต่งในครั้งนี้ เช่นเดียวกับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ก็ออกอาการชัดเจนว่า ต่อต้านมากกว่าสนับสนุนปฏิบัติการ “ทดลองเอาอยู่”

ทว่า ทั้งหลายทั้งปวงดูเหมือนจะไม่ได้ไปกระตุกต่อมรับฟังของ “ผีเจาะปลอด” ที่มีนิสัยดื้อแพ่งเป็นเครื่องหมายการค้า หนำซ้ำกลับยังมองเสียงท้วงติงเหล่านี้เป็นแค่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาล เป็นพวกหาเรื่องชาวบ้านชาวช่องไปวันๆ ยืนยันจะเดินหน้าทดสอบการระบายน้ำครั้งนี้ต่อไป ถ้าหากเกิดเหตุเหนือการควบคุม อย่างฝนตกฟ้าคะนองลงมา รัฐบาลก็พร้อมจะปิดสวิตซ์หยุดเดินเครื่องทันที

และก็มิวายที่ประธานกบอ.จะแว้งกัดผู้บริการกรุงเทพฯ อีกระลอก ด้วยการเหน็บแนมแกมโมโหหลังโดนทั้ง “สุขุมพันธ์” และ “ธีระชน” เขย่าเตือนว่า วันที่ 5-7 เดือนนี้อาจมีพายุเข้าและน้ำทะเลหนุนสูง

“ในการดำเนินการในครั้งนี้ ผมก็จะดูอยู่เหมือนกันว่าที่มีการเบิกงบประมาณเอาไว้แล้ว ได้มีการดำเนินการกันหรือไม่อย่างไร”

ตามทำนองการทดสอบครั้งนี้ ยังมีกลิ่นอายการเมืองแทรกเข้าไปเป็นเป้าประสงค์อีกด้วย โดยเฉพาะงบประมาณของกรุงเทพฯ ที่ “ปลอดประสพ” อ้างถึง เพราะหากย้อนหลังกลับไปเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมาก็จะพบว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์ และกรุงเทพฯ มีปัญหากระทบกระทั่งเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณแก้ไขปัญหาน้ำท่วมมาโดยตลอด

เรียกว่ากว่าที่กรุงเทพฯ จะได้งบประมาณไปขุดลอกคูคลองและเตรียมพร้อมในส่วนต่างๆ ได้ ทั้งคู่ก็ตอบโต้กันไปมาผ่านสื่อหลายหมัด และก็ตรงกับสิ่งที่อดีตคณะกรรมการ กยน.บางคนออกมาขย่มใส่ กบอ.ว่า การทดสอบระบายน้ำรอบนี้แท้จริงมีเจตนาอะไรแอบแฝงหรือไม่?

โดยเฉพาะการลองของกับความพร้อมของกรุงเทพฯ หลังที่อนุมัติงบประมาณไปให้แล้ว ที่สำคัญหากงานนี้เกิดความผิดพลาดขึ้นมาในจุดใดจุดหนึ่งซึ่งเป็นจุดที่ “ผู้บริหารกรุงเทพฯ” รับผิดชอบอยู่ ความผิดจะถูกส่งต่อไปให้ทางฝั่ง “กรุงเทพฯ” ทันที

พร้อม “โยนขี้” ไปให้กองโตทุกเวลาหากทุกอย่างมันออกอาการ “เอาไม่อยู่”

โปรเจกต์ทดสอบระบายน้ำในกรุงเทพฯ หนนี้มันจึงมีทั้งแผนพีอาร์ ของรัฐบาล และเกมการเมืองที่ถูกซ่อนอยู่ลึกๆ ว่า รัฐบาลจะทำการตรวจการบ้านกรุงเทพฯ หลังจากเอะอะโวยวายเรื่องงบประมาณจนภาพของรัฐบาลกลายเป็นผู้ร้ายในช่วงที่ผ่านมา

โดยมีตัวละครสำคัญอย่างประชาชนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ รับบทเป็น “ตัวประกัน”