รมว.กลาโหม ระบุน้ำท่วมเป็นเรื่องธรรมชาติ มาแล้วก็ไป บล็อกไว้เหมือนปีที่แล้วไม่ถูกต้อง ยันวิธีแก้มาถูกทางแล้ว เชื่อไม่เหมือนปีที่แล้ว “ประยุทธ์” ยัน ทบ.ส่งทหารช่วยเหลือประชาชนเต็มที่ แนะประชาชนรับมือมรสุมเข้าไทย 13-17 ก.ย.นี้
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการรับมือสถานการณ์น้ำท่วมว่า ในส่วนพื้นที่ต้นน้ำ จังหวัดสุโขทัย ทางกองทัพได้ร่วมมือกับรัฐบาล โดยกองทัพภาคที่ 3 ได้ลงพื้นที่ทำงาน โดยศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้รายงานความคืบหน้าการทำงานมาโดยตลอด โดยพนังกั้นน้ำที่รั่ว เราได้ใช้หินแกเบรียลอุดรอยรั่วแล้ว ส่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ ทางหน่วยทหารได้เตรียมความพร้อมในการรับมือแล้ว
ส่วนที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) บอกว่า คำว่าน้ำไม่ท่วม หมายถึงน้ำจะไม่ท่วมเหมือนปีที่แล้ว แต่พื้นที่ที่น้ำท่วมเพราะเป็นพื้นที่ต่ำ ซึ่งเป็นแบบนี้มาหลายสิบปีแล้ว ไม่ใช่จะไม่ท่วมเลย มันเป็นไปไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องธรรมชาติของน้ำ หากไปบล็อกน้ำที่เข้ามาท่วมแบบเดิมทุกๆ ปีนั้น ตนว่ามันไม่ถูกเท่าไร
“ที่มันท่วมอยู่แล้วก็ให้ท่วมไปตามธรรมชาติ แต่ที่ไม่ควรจะท่วมก็ไม่ควรท่วม ซึ่งทางรัฐบาลโดย กบอ.ได้ดำเนินการไปเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว โดยเฉพาะนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งในเวลา 1 ปีมีความคืบหน้าขนาดนี้ ถือว่าเร็วและใช้ได้ ซึ่งเอกชนมีความตื่นตัวกว่าเราเยอะ เพราะเขากลัวน้ำท่วมในพื้นที่เขา แต่จากสถิติทั้งหลายในปีนี้ น้ำคงไม่ท่วม อาจจะมีน้ำเอ่อบ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ทางทหารมีความพร้อม เพราะเรารู้และเตรียมการมากกว่าปีที่แล้ว คิดว่าสถานการณ์น้ำจะไม่หนักหนาเหมือนปีที่แล้ว เพราะเรามีการเตรียมตัวดีกว่าปีที่แล้ว เพราะปีที่แล้วเราไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ปีนี้เราเตรียมการดี รัฐบาลก็มั่นใจว่าน้ำคงไม่ท่วม ซึ่งการทุ่มงบประมาณ 1.2 แสนล้านบาท เป็นงบประมาณที่นำมาแก้ไขเฉพาะหน้า เพราะการจะแก้ปัญหาต้องแก้ทั้งระบบ จะต้องไม่แก้ที่น้ำอย่างเดียว ในหน้าแล้งต้องมีน้ำเก็บไว้ใช้ด้วย ดังนั้นระบบน้ำจึงต้องดำเนินควบคู่กันไป ซึ่งรัฐบาลเดินมาถูกทางแล้วต้องให้กำลังใจกัน”
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยว่า ทหารได้แบ่งพื้นที่ดำเนินการหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่สั่งการมายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยดูแลผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยทางภาคเหนือมีกองทัพภาคที่ 3 ทำหน้าที่ดูแล ส่วนทางภาคกลางและภาคตะวันออกมีกองทัพภาคที่ 1 ทำหน้าที่ดูแล ซึ่งได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มมีมรสุมลูกแรกตกลงมาทำให้ปริมาณน้ำสูงขึ้น
ในส่วนของ จ.สุโขัย กำลังดำเนินการอยู่ เนื่องจากมีน้ำเข้ามาในเขตเมืองจึงใช้กำลังทหารร่วมกับทางจังหวัดช่วยกันดูแล ส่วนคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ของรัฐบาลก็ได้เข้าไปแก้ไขปัญหามาหลายวันแล้ว ขณะนี้การสกัดกั้นน้ำไม่ให้เข้าสู่ตัวเมืองทำได้ 100% แล้ว เหลืออย่างเดียวว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ระดับน้ำสูงขึ้น และระบายน้ำออกจากเขตเมืองได้โดยเร็ว ตนคิดว่าหากปริมาณฝนไม่ตกผิดปกติในไม่กี่วันนี้ ระดับน้ำจะลดลงไปอีกอย่างต่อเนื่อง เพราะขณะนี้ลดไปกว่า 20 ซม. ส่วน จ.ปราจีนบุรี ขณะนี้น้ำได้ลดลงจนเข้าสู่เกณฑ์ปกติแล้ว
สำหรับพื้นที่ภาคกลาง ส่วนใหญ่น้ำจะไปเพิ่มในพื้นที่ลุ่ม เช่น บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ริมแม่น้ำน้อย จ. อ่างทอง สิงห์บุรี และ จ.ชัยนาทนั้นปกติน้ำจะท่วมทุกปีหลังจากที่มีฝนตกมากๆ และมีการระบายน้ำจากเหนือลงล่าง ทำให้ระดับปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยสูงขึ้น
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทั้งนี้จะต้องมีการติดตามสถานการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาในระหว่างวันที่13-17 ก.ย. ที่จะมีมรสุมเข้ามา โดยจะแจ้งเตือนให้หน่วยระมัดระวัง พร้อมรับมือแจ้งเตือนประชาชนและช่วยขนของขึ้นที่สูง รวมถึงเตรียมการในสิ่งที่ขาดเหลือต่างๆ ไปช่วยเหลือประชาชนร่วมกับ กบอ.และหน่วยงานจังหวัด โดยทหารมีความพร้อมทั้งทหารช่าง และกองร้อยช่วยเหลือประชาชนกว่า 100 กองร้อย หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นทหารก็จะเคลื่อนที่ไปโดยทันที ทั้งนี้ทางรัฐบาลและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำว่าขอร้อง ให้ทหารเข้าไปช่วยเหลือก่อน เพราะมีความพร้อมเรื่องคน ยานพาหนะและอุปกรณ์ต่างๆ จึงคิดว่าไม่น่ามีปัญหา
“กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่าจะมีฝนตกในระหว่างวันที่ 13-17 ก.ย.นี้ ช่วงนี้ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะเป็นเหตุการณ์ธรรมชาติที่ระบายจากน้ำเหนือที่ทยอยลงมาข้างล่าง จะเห็นได้ว่าน้ำท่วมตั้งแต่ จ.เชียงราย แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน สุโขทัย และกำลังลงมาในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคกลาง โดยลงแม่น้ำเจ้าพระยา และทะเล วันนี้รัฐบาลคาดว่าระบายน้ำได้ไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งไม่ได้ผิดปกติ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ด้วย ที่ผ่านเราได้มีการขุดลอกคูคลองแต่ไม่ใช่ขุดแล้วน้ำไม่ท่วม เมื่อฝนตกมากๆ น้ำก็ต้องท่วมเป็นธรรมชาติ แต่จะท่วมลดลงและระบายน้ำลงทะเลได้เร็วขึ้น หากจะมาบอกว่าใครผิดใครบกพร่อง ขอให้ไปโทษมันทุกรัฐบาลโน่น ผมพูดในฐานะประชาชน วันนี้เริ่มแก้ไขกันไปเรื่อยๆ ปัญหารู้อยู่แล้วว่า ไม่มีเขื่อน ไม่มีที่กั้นก็ไปสร้างอะไรกั้นไว้ ไปทำอะไรก็ไม่รู้หรอก เพราะผมไม่ใช่กรมชลประทาน”