xs
xsm
sm
md
lg

พท.-ปชป.บรรเลงศึกในพรรค ก่อนห้ำหั่นชิง “พ่อเมืองกทม.”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**ช่วงต้นเดือนม.ค.ปีหน้า ตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ก็จะครบวาระ และคาดว่าจะมีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ ไม่เกินเดือน มี.ค.56 แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ ปี่กลองศึกชิงประมุขเสาชิงช้า ได้เริ่มขึ้นอย่างไม่เป็นทางการแล้ว
ไม่ทันไร “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส” อดีต ผบ.ตร. ก็ประกาศเปิดตัว เป็นแคนดิเดตของร่วมวงชิงชัยเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. อย่างเป็น ทางการถือเป็น “บิ๊กเนม” คนแรก ที่เปิดตัวก่อนใครเพื่อน
อย่างไรก็ตาม ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ก็คงหนีไม่พ้นการห้ำหั่นชิงอีกหนของ 2 พรรคการเมืองใหญ่ ระหว่าง “พรรคเพื่อไทย” กับ “พรรคประชาธิปัตย์” แต่ก่อนจะระเบิดศึกกับ “คนนอกพรรค” กลุ่มก้อนต่างๆของแต่ละพรรค ก็ต้องทำ “ศึกภายใน” กันเสียก่อน
**ตามข่าวมีการขับเคี่ยว-ขบเหลี่ยม-วัดเล่ห์กล กันอย่างเข้มข้นพอตัว
ฝั่ง“ค่ายสีฟ้า” มีตัวยืนอย่าง “หม่อมสุขุมพันธุ์” เจ้าของตำแหน่งเดิม ที่ชิงออกมาประกาศตัวตั้งแต่ต้นว่า พร้อมลงรักษา “แชมป์” อีกหนึ่งสมัย แต่ก็ไม่วายมีการโยนชื่อทางเลือกอื่นออกมา ที่พูดถึงมากที่สุดเห็นจะเป็น “กรณ์ จาติกวณิช” รองหัวหน้า และ ส.ส.กทม. ของพรรค ที่ได้รับแรงหนุนจากส.ส.กทม.บางส่วน
แม้ชื่อของ “คุณชายสุขุมพันธุ์” ยังมาแรง และน่าจะเข้าวินเป็นตัวแทนของพรรคลงทำศึก แต่ฟาก “กรณ์” ก็ไม่ได้ปฏิเสธว่าสนใจ และคิดจะเอาจริงกับตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. ดังนั้นจึงก็ไม่อาจประมาทได้ ที่สำคัญวงประชุมพรรคล่าสุดก็มีการโยนชื่อ “หล่อโย่ง” เข้าสู่ที่ประชุมพรรคมาแล้ว
อย่าลืมว่า “กรณ์” ถือเป็นคนสนิท ของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรค อีกอย่างชื่อเสียงของ “แก๊งไอติม” ในประชาธิปัตย์ ก็สร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้กับคนเก่าแก่ของพรรคมานักต่อนัก หากลงท้ายจะหนุนใคร เรียกได้ว่าการันตีให้คนในพรรคเห็นด้วยได้ไม่ยาก
**หวยจะออกที่ “ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์” หรือ “กรณ์” ต้องลุ้นกันนิดๆ
ตรงกันข้ามกับฝั่ง “ค่ายสีแดง” ที่ต้องสู้รบปรบมือกันหนักเป็นพิเศษ เนื่องจากมี “แคนดิเดต” หลายคน ซึ่งเท่าที่มีการเปิดเผยรายชื่อออกมา มีทั้ง “คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” หัวหน้าทีมกทม. “ปลอดประสพ สุรัสวดี” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง “ประภัสร์ จงสงวน” อดีตผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ที่ลงในนามพรรคและพ่ายสนามนี้มาแล้ว
สุดท้าย “พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่กำลังจะเกษียณราชการ ถูกโยนออกมาเป็นชื่อล่าสุด
ล็อกเป้าโฟกัสไปที่ความเคลื่อนไหวของ “เจ๊หน่อย” โดยในการประชุมสมาชิกพรรคเพื่อไทย บรรดา “เด็กในสังกัด” ชิงเสนอชื่อ “เจ๊หน่อย” ให้ที่ประชุมพรรคพิจารณา แต่กลับโดนสกัดตั้งแต่ไก่โห่ เพราะบรรดาลิ่วล้ออ้างว่า “นายใหญ่” และ “เจ๊ ด.” ไม่ปลื้ม เนื่องจากผลการเลือกตั้งส.ส.กทม. ไม่เข้าเป้า แพ้ให้กับคู่แข่งในหลายเขต สะท้อนให้เห็นว่า “บารมี” ของ “เจ๊หน่อย” ไม่แกร่งกล้าเหมือนก่อน และทำให้พลังต่อรองของเจ๊หน่อย ลดน้อยถอยลงไปด้วย
**ลำพังโควตา 1 รัฐมนตรี 1 ประธานวิปรัฐบาล ก็ถูกคนในพรรควิพากษ์วิจารณ์กันว่า “เยอะไปแล้ว”
ดูกระแสส่วนใหญ่ในพรรคแล้ว งานนี้เปอร์เซ็นต์ที่ “เจ๊หน่อย” ต้องรับประทานแห้วค่อนข้างสูง ทั้งที่ตั้งความหวังไว้เยอะ ถึงขนาดไปใช้สิทธิเลือกตั้งคูหาเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อปี 2554 ทั้งที่ไม่มีสิทธิทางการเมือง เพื่อหวังแจ้งความรักษาสิทธิลงสมัคร “ผู้ว่าฯกทม.” เอาไว้ก่อน
ขณะที่ “ปลอดประสพ” รับบทหนักในฐานะ “ประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ และอุทกภัย” (กบอ.) คอยบริหารจัดการน้ำท่วม ทั้งต่างจังหวัด และกทม. และที่ผ่านมา แม้จะไม่ค่อยเวิร์ก ชาวบ้านยังต้องกระเสือกกระสนเอาตัวรอดกันเองอยู่ แต่ก็ถือว่า “ปลอดประสพ” สามารถแบ่งเบาภาระ “ยิ่งลักษณ์” ได้พอสมควร
ว่ากันว่าชื่อปลอดประสพ เป็นชื่อที่ “นายใหญ่” ค่อนข้างโอเค และอยากให้ลงสมัครผู้ว่าฯกทม. เพราะเชื่อใจว่า “ปลอดประสพ” พร้อมทำตามคำบัญชา ไม่มีอิดออด แต่ใจหนึ่งก็ห่วงว่าจะไม่มีคนสู้รบกับปัญหา “น้ำ” และรับหน้าแทน “น้องสาว” อีกทั้งเจ้าตัวเอง ก็คงไม่อยากสละเก้าอี้ “รัฐมนตรี” มาทำศึกชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. เพราะยังไม่ชัวร์ว่าได้หรือไม่ อีกต่างหาก
สำหรับ “เดอะโต้ง - กิตติรัตน์” ชื่อเริ่มมาแรง ตั้งแต่มีปัญหากรณี “โกหกสีขาว” ซึ่งเป็นช่องโหว่ของรัฐบาลให้ “ฝ่ายค้าน” โจมตีได้แทบทุกวัน อีกทั้งยังเป็นเป้าให้เล่นงานโครงการสำคัญๆ ตามนโยบายของรัฐบาล ที่อยู่ในความดูแลอีกเป็นหางว่าว จนตำแหน่ง “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” ใกล้จะหลุดอยู่รอมร่อ
ทั้งหมดเป็นตัวเพิ่มแรงเหวี่ยง กดดันให้เขี่ย “กิตติรัตน์” ออกจากตำแหน่งไปลงสมัครผู้ว่าฯกทม. แทน
ขณะที่ “ประภัสร์” ที่เคยลงสมัครแบบจำยอม และพ่ายแพ้ในเวทีนี้มาก่อนนั้น ถือว่าหมดราคา ไร้จุดขายสำหรับคนเมืองกรุงไปแล้ว ที่สำคัญยังไร้แรงสนับสนุนจาก “คนในพรรค” โอกาสจะรีเทิร์นมาแก้มือ จึงริบหรี่
ท้ายที่สุด “พล.ต.อ.เพรียวพันธ์” ชื่อนี้การันตี “เส้นใหญ่” ไม่ว่าจะขอตำแหน่งอะไร ก็จะได้อย่างนั้น อยู่ที่ว่า “บิ๊กอ๊อบ” จะเอาด้วยหรือเปล่า เพราะเส้นทางหลังเกษียณของ ผบ.ตร. คนปัจจุบันนั้นมีพรมแดงปูรอให้เข้ามานั่งเสวยสุขใน ครม.แบบชัวร์ๆ อยู่แล้ว ข่าวลือ “เพรียวพันธ์” จะลงสมัครผู้ว่าฯกทม. จึงเป็นที่รู้กันว่า “ใครบางคน” ต้องการปล่อยข่าว ออกมาเพื่อให้ “ตัวเอง” ไม่ถูกถีบออกจาก ครม. เพื่อให้ “พี่เขยนายใหญ่” เข้ามาเสียบแทนเท่านั้น
หรือเผื่อฟลุกๆ “นายใหญ่” เอาด้วย ก็ยังอาศัยเป็นมุกสูบน้ำเลี้ยงมาเชียร์ “เพรียวพันธุ์” ได้อีกต่างหาก
**ทั้งหมดคือ “แคนดิเดต” ของพรรคแกนนำรัฐบาล ที่ต้องขับเคี่ยวกันอย่างหนักเช่นกัน
แต่ระหว่างศึกของเหล่า “แคนดิเดต” ระวัง “ตาอยู่” ให้ดีๆ เพราะแว่วมาว่า “นายใหญ่-บ้านจันทร์ส่องหล้า” โอเค-เซย์เยส กับ “ตาอยู่” ไปแล้ว เหลือแค่แทงชื่อเข้าไปยังที่ประชุมพรรค ให้เพื่อลงมติ “เซย์เยส” ตามเท่านั้น
ระหว่างรอชื่อตอนนี้ ก็เริ่มเดิมเกมให้ตุน “คะแนนเสียง” เป็นทุนประเดิมไว้ก่อน ล่าสุดมีข่าวจาก “แกนนำ” สั่งการให้แต่ละเขตในกทม. หาคนสนับสนุนพรรคเพิ่มขึ้นให้ได้อีกเขตละ 10,000 คน เพื่อทำแต้มขยับหนีประชาธิปัตย์
ศึกช้างชนช้างชิงผู้ว่าฯกทม. ครั้งนี้ทั้งสองพรรคเดิมพันสูง พรรคประชาธิปัตย์ก็หมายมั่นรักษาแชมป์ เพราะเป็นที่มั่นเดียวที่จะใช้ทัดทานอำนาจทางการเมืองของรัฐบาล ส่วนพรรคเพื่อไทยในฐานะกุมเสียงข้างมากเบ็ดเสร็จ ก็ต้อง “แพ้ไม่ได้” เพื่อประกาศศักดาว่า นี่คือพรรคการเมือง “เบอร์หนึ่ง” ของคนไทย เสริมฐานของพรรคให้มั่นคงเข้าไปอีก
**ศึกครั้งนี้ “คู่รัก-คู่แค้น” ต้องงัดไม้เด็ดมาต่อสู้กันอย่างมันส์หยดแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น