“ปลอด” เตรียมกำหนดจุดเสี่ยงภัย ตั้งวอร์รูมจนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย พร้อมนัดถกเคาะสเปคบริษัทรับงานแก้น้ำท่วม 3 แสนล้าน 12 ก.ย.นี้ ยันยังไม่มีใบสั่ง ด้าน “ยงยุทธ” ระบุสั่งทุกหน่วยลงพื้นที่แล้ว เชื่อเคลียร์เรียบร้อยก่อนนายกฯ ลงพื้นที่ 13 ก.ย. เผย “ปู” ไม่พอใจแก้น้ำท่วม เฉ่ง กบอ.ไม่รายงานน้ำท่วมเหนือ
แหล่งข่าวที่ประชุม ครม.เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ได้สรุปสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสุโขทัยและจังหวัดพื้นที่ภาคเหนือว่า เนื่องจากน้ำไหลทะลุกำแพงด้านล่างที่เกิดจากก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน ไม่ใช่ความผิดของใคร แต่อุปสรรคเกิดจากก่อสร้าง วัสดุ ซึ่งได้สั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทำการตรวจสอบผนังกั้นน้ำ หากพบว่ามีปัญหาให้เร่งซ่อมแซมเป็นการเร่งด่วนเพื่อป้องกันปัญหาน้ำทะลัก ขณะที่ปริมาณน้ำในเขื่อนพบว่ายังไม่มีปัญหา เนื่องจากปริมาณฝนน้อยกว่าปีที่แล้วถึง 20 เปอร์เซ็นต์
โดยในวันที่ 12 ก.ย.นี้จะมีการประชุมกำหนดจุดเสี่ยงภัย ระหว่างกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ศูนย์เตือนภัย กรมอุตุนิยมวิทยา และกรมชลประทาน และจากนี้ไปประมาณ 1 เดือนครึ่ง ทาง ปภ.และจังหวัดจะต้องตั้งหน่วยล่วงหน้าในสถานการณ์ที่เสี่ยงภัย และยืนยันว่าวันนี้ยังไม่มีการนำน้ำเข้าไปในทุ่งเพราะไม่มีความจำเป็น โดยจะใช้ลำน้ำหลักในการระบายน้ำอย่างเดียว ทั้งนี้ ยืนยันว่าสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้เนื่องจากเกิดน้ำหลากและฝนตกชุก
ขณะที่ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวในที่ประชุมว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่จังหวัดสุโขทัยแล้ว ทันทีที่นายยงยุทธพูดจบ บรรดารัฐมนตรีต่างพากันหัวเราะ ขณะที่นายกฯ ได้เพียงแต่ยิ้มๆ นายยงยุทธยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้ได้สั่งการให้กองทัพ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กบอ.จังหวัด ทุกหน่วยงานระดมกำลังลงไปในพื้นที่น้ำท่วมแล้ว เชื่อว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยก่อนที่นายกฯ จะลงไปในพื้นที่วันที่ 13 ก.ย. จังหวัดพิษณุโลก สุโขทัย ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือติดขัดอะไร เมื่อน้ำลดลงการช่วยเหลือน่าจะเรียบร้อย ขณะที่นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลต้องแสดงความห่วงใยประชาชนในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ในการประชุม กบอ.เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา นายกฯ ได้แสดงความไม่พอใจถึงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ถึงกับกล่าวกลางที่ประชุม กบอ.ว่า “ทำไมไม่มีรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือตอนบนและตอนล่าง ภาพที่สื่อนำออกมาเผยแพร่สถานการณ์หนักมากแล้ว เหมือนจะท่วมทั้งประเทศแล้ว ทำไมยังไม่รายงานเรื่องนี้เลย”
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันเดียวกันนี้ นายปลอดประสพเปิดเผยภายหลังการประชุมว่า กบอ.ได้ข้อสรุปที่จะมีการประกาศรายชื่อบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกโครงการบริการจัดการน้ำมูลค่า 3 แสนล้านในวันที่ 22 ก.ย.นี้ ซึ่งตามกำหนดเดิมจะมีการประกาศภายในวันที่ 24 ก.ย. แต่ที่เลื่อนประกาศก่อน 2 วันเพื่อเปิดโอกาสให้บริษัทต่างๆที่ไม่ผ่านการคัดเลือกสามารถยื่นอุทรณ์ได้ และต้องการให้ความเป็นธรรมกับทุกบริษัท
ทั้งนี้ ในวันที่ 12 ก.ย.ได้นัดหมายประชุม กบอ.อีกครั้ง เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการให้คะแนนที่ชัดเจนก่อนนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า โดยยืนยันว่าการเซ็นสัญญาบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกจะทันกำหนดภายใน พ.ร.ก.เงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท
นายปลอดประสพยืนยันด้วยว่า ยังไม่ทราบว่ามีบริษัทใดอยู่ในเกณฑ์ที่จะผ่านการคัดเลือกบ้าง แต่บริษัทที่ได้รับงานต้องมีความเชี่ยวชาญและให้ความสำคัญทางด้านเทคโนโลยีและการเชื่อมต่อลุ่มน้ำทั้งระบบ
นอกจากนี้ นายปลอดประสพเปิดเผยว่า ในวันที่ 12 นี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์เตือนภัย กรมอุตุนิยมวิทยา และกรมชลประทาน จะมีการหารือร่วมกันเพื่อกำหนดจุดเสี่ยงที่อาจจะเกิดอุทกภัย ซึ่งนายปลอดประสพได้ยกตัวอย่างพื้นที่เสี่ยงที่ต้องจับตา เช่น พื้นที่ในแถบแม่น้ำสะแกกรัง
และหลังจากประกาศพื้นที่เสี่ยงแล้วจะมอบให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทำงานร่วมกับทางจังหวัดที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่เสี่ยง ไปตั้งศูนย์ส่วนหน้าเพื่อเตรียมการให้ความช่วยเหลือประชาชนภายในเวลา 45 วัน และตั้งแต่วันพรุ่งนี้จะมีตัวแทนจากทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบงานในคณะกรรมการ กบอ. มานั่งทำงานในศูนย์นี้ทุกวันจนกว่าสถานการณ์น้ำท่วมจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
