xs
xsm
sm
md
lg

กวีซีไรต์ค้านเปลี่ยนสุภาษิต ชี้ “รักวัวให้ผูก รักลูกให้กอด” ไม่ใช่การสั่งสอนลูก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กวีซีไรต์ค้านเปลี่ยนสุภาษิต “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี” เป็น “รักวัวให้ผูก รักลูกให้กอด” ชี้ การกอดเป็นสัญชาตญาณ ไม่ใช่การอบรมบ่มนิสัย

วันนี้ (29 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไพวรินทร์ ขาวงาม กวีซีไรต์ประจำปี 2538 ได้โพสต์เฟซบุ๊กในชื่อ “ไพวรินทร์ ขาวงาม” เพื่อแสดงความเห็นไม่เห็นด้วยกรณีที่ที่ประชุมคณะกรรมการการศึกษาปฐมวัยแห่งชาติ มีมติเห็นชอบเปลี่ยนสุภาษิตที่ว่า “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี” เป็น “รักวัวให้ผูก รักลูกให้กอด” เพื่อหวังเปลี่ยนค่านิยมสร้างความอบอุ่น และเพื่อใช้เป็นนโยบายยุทธศาสตร์การศึกษาปฐมวัยและดำเนินการตั้งแต่ปีการศึกษา 2556 โดยจะมีการเสนอขอความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วๆ นี้ โดยมีใจความว่า “รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี” นั้น ตรรกะคำเก่าเขาลงตัวดีแล้วเนื่องจาก “ผูก” กับ “ตี” เป็นคำเข้ากลุ่มกัน ถ้าไม่ชอบคำนี้ เพราะเห็นว่าล้าสมัย ก็ไม่ต้องนำมาใช้ ยกคำ หรือการกระทำเช่นนี้ให้ตกสมัยไป และให้คิดคำใหม่ให้ทันสมัยแทน
ภาพประกอบข่าวจากอินเทอร์เน็ต
รักวัวให้ผูก รักลูกให้กอด คำว่า ผูกกับกอดมันผิดฝาผิดตัวชอบกล คนเราเลี้ยงลูก ก็ต้องอุ้มลูกกอดลูกอยู่แล้ว นั่นมิใช่การการอบรมบ่มนิสัยในวันวัยที่เปลี่ยนไป คำว่า ตี มิใช่การเฆี่ยนตีด้วยไม้เรียวอย่างเดียว หากยังหมายถึงการขนาบให้รู้กฎกติกามารยาท อบรมสั่งสอนว่ากล่าวตักเตือนในบาปบุญคุณโทษ การลงโทษเมื่อเขาทำผิด การให้อภัย การยกย่องเมื่อเขาทำดี คำพูดของพ่อแม่ก็อาจเป็นไม้เรียวชนิดหนึ่ง ที่อาจทั้งมีไว้ตี และมีวางไว้ในบ้านให้ลูกรู้ความเอาเอง วันนี้ แม้ผมไม่คิดจะตีลูกด้วยไม้เรียว แต่ก็ต้องขนาบตีลูกด้วยวิธีการของผม การกอดนั้น ต้องกอดอยู่แล้วด้วยสัญชาตญาณความรัก รักมาก กอดมากๆ เขาผลักออกอีกต่างหาก เพราะเขาเริ่มรำคาญเป็น

นายไพวรินทร์ ยังโพสต์ด้วยว่า ในวัยเด็กตนเองเคยโดนไม้เรียวพ่อ เคยโดนพ่อดุ โตมาแล้วพ่อแม่ก็ภูมิใจในตัวลูก และลูกก็ยังรักและคิดถึงพ่อแม่ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งเสมอ
กำลังโหลดความคิดเห็น