เริ่มแล้ว! สสค.เดินหน้า “549 ทุนครูสอนดี” ช่วยปิดรูรั่ว-ต่อท่อแห่งโอกาสทางการศึกษาช่วยเด็กด้อยโอกาสทั่วประเทศ
วันนี้ (17 ส.ค.) ที่ ห้องประชุมวังธารา โรงแรมอมรินทร์ลากูน จ.พิษณุโลก สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาข้อเสนอโครงการขั้นตอนสุดท้ายและปฐมนิเทศโครงการทุนครูสอนดี ภาคเหนือจำนวน 21 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทองพิษณุโลก สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ โดยมีครูผู้ได้รับทุนเข้าร่วมประชุมจำนวน 117 คน
นายนคร ตังคะพิภพที่ปรึกษาคณะกรรมการส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.)กล่าวว่า จากข้อมูลศึกษาของดร.อมรวิชช์ นาครทรรพที่ปรึกษา สสค.ได้เปรียบเทียบการหลุดออกจากระบบการศึกษาของเด็กไทยในช่วงภาคการศึกษาบังคับ 9 ปี และพื้นฐาน 12 ปี ในช่วงปี 2540-2551 จากข้อมูลสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาและสำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา พบว่า อัตราเด็กไทยร่วม 50% ที่เข้าเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ในปี 2540 จำนวน 1.1 ล้านคน แต่สามารถจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือระดับอาชีวศึกษาได้เพียงครึ่งเดียว หรือประมาณ5.8 แสนคน โดยตกหล่นในช่วงมัธยมศึกษาปีที่ 1 เหลือ 9 แสนคน และลดลงในช่วงมัธยมศึกษาปีที่ 4 เหลือ 7.3 แสนคน และสามารถจบการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยได้เพียง 2.7 แสนคนเท่านั้น ครูสอนดีที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศจึงสามารถช่วยประสานปิดรูรั่ว ต่อท่อและเปิดก๊อกวาวแห่งโอกาสให้แก่เด็กด้อยโอกาส ซึ่งมีสาเหตุปัจจัยหลายด้านอาทิ ครอบครัว ความยากจน สุขภาพร่างกาย มีความบกพร่องทางการเรียนรู้และสภาพแวดล้อมทางสังคม ให้ได้รับความเท่าเทียม
ครูผู้ได้รับทุนครูสอนดี จึงเปรียบได้กับผู้เข้ามาช่วยปิดรูรั่วให้เด็กกลุ่มนี้ได้เดินต่อ ซึ่งถือเป็นภาระยิ่งใหญ่และมีคุณค่า เพราะเรากำลังจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่โดยการทำตัวอย่างให้เห็นในพื้นที่ประเทศไทย ในท้องถิ่นที่เราอยู่จนถึงระดับประเทศ เรื่องของทุนครูสอนดีที่ให้นั้นเด็กกลุ่มที่ท่านช่วยเหลือ แม้จะเป็นกลุ่มไม่มากแต่ได้ทำตามรูปแบบที่เหมาะสมตามความต้องการของครูทุกท่านก็จะเกิดการขยายผลทำงานให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไป โดย สสค.จะมีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาข้อเสนอโครงการขั้นตอนสุดท้ายและปฐมนิเทศโครงการทุนครูสอนดีต่อเนื่องในภาคใต้ที่ จ.นครศรีธรรมราช (23-25 ส.ค.) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จ.ขอนแก่น (26-28 ส.ค.) และปิดท้ายภาคกลาง ที่กรุงเทพฯ (31 ส.ค.-2 ก.ย.) ต่อไป
