xs
xsm
sm
md
lg

สสค.เร่งศึกษาบัญชีรายจ่ายทางการศึกษา หวังใช้จับทุจริต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผุดบัญชีรายจ่ายทางการศึกษาจับทุจริต สสค.เดินหน้าศึกษาใช้หลักการเดียวกับระบบบัญชียาของ สปสช.ที่กำหนดเพดานขั้นต่ำการจัดซื้อยา และรู้ทันทีหากมี รพ.ใดซื้อแพงกว่ากำหนด “อมรวิชช์” รับระบบบัญชีรายจ่ายทางการศึกษาเป็นเรื่องใหญ่ต้องใช้เวลานานอาจจะถึง 10 ปี มั่นใจหากทำสำเร็จจะเป็นกลไกสำคัญทำให้การศึกษามีคุณภาพ เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์จะใช้เพื่อการเรียนรู้ของเด็กมากที่สุด

นายอมรวิชช์ นาครทรรพ ที่ปรึกษาวิชาการ สำนักงานส่งเสริมแห่งการเรียนรู้และพัฒนาคุณภาพเยาวชน (สสค.) เปิดเผยว่า ตามที่ ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีนโยบายให้ช่วยกันดูแลไม่ให้การทุจริตคอรัปชั่นเกิดขึ้นในระบบการศึกษา สสค.จึงได้จัดทำงานวิจัยที่จะปูรากฐานไปสู่การปราบปรามในระยะยาว โดยการจัดทำบัญชีรายจ่ายทางการศึกษาแห่งชาติ เพื่อตรวจสอบรายจ่ายที่ไม่โปร่งใส ซึ่งบัญชีนี้จะทำให้ทราบว่าการใช้จ่ายทางการศึกษา 1 บาท จะลงถึงเด็กเท่าไหร่ การซื้อครุภัณฑ์จะต้องไม่เกินราคาเท่าไหร่ และมีการใช้เงินผิดประเภทหรือไม่ โดยบัญชีนี้จะดำเนินการในลักษณะเดียวกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่ดูแลระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งมีการกำหนดเพดานขั้นต่ำในการจัดซื้อยาของแต่ละโรงพยาบาลว่าจะต้องไม่ เกินราคาเท่าไหร่ โดยเมื่อโรงพยาบาลแห่งใดซื้อยาแพงกว่าที่กำหนดก็จะทราบทันที
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
“ขณะนี้อยู่ระหว่างการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบว่า รายจ่ายทางการศึกษาเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็น ค่าครุภัณฑ์ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการพัฒนาครู หลังจากนั้นจะนำมาเปรียบเทียบว่าค่าใช้จ่ายที่โรงเรียนใช้อยู่เป็นอย่างไร และที่ควรใช้ควรเป็นอย่างไร และมีความแตกต่างกันอย่างไร ซึ่งก่อนหน้านี้เคยคิดว่าเงินต้องมาลงที่การเรียนการสอนอย่างน้อย 50% แต่เมื่อไปศึกษาวิจัยในพื้นที่จริงจากกลุ่มตัวอย่างกลับพบว่ามีเงินไปลงที่ การเรียนการสอนเพียง 10% เท่านั้น ดังนั้น หลังจากนี้ เมื่อได้ข้อสรุปทั้งหมดแล้ว จะต้องมาตั้งเกณฑ์กันใหม่ว่าควรจะจัดสรรการใช้จ่ายเงินทางด้านการศึกษาอย่างไร โดยในต่างประเทศหากโรงเรียนใดใช้เงินผิดไปจากเกณฑ์ที่กำหนด จะถูกตัดงบประมาณทันที เช่น งบการบริหารจัดการ ซึ่งเป็นงบเงินเดือน สวัสดิการครู จะต้องไม่เกิน 28% แต่หากโรงเรียนใดเกินก็จะถูกตัด ซึ่งก็ได้ผลเพราะโรงเรียนจะถูกบังคับกลายๆ ว่า การใช้จ่ายเงินจะต้องลงไปที่การเรียนรู้ของเด็กให้มากที่สุด” นายอมรวิชช์ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม การดำเนินการจัดทำบัญชีรายจ่ายทางการศึกษาแห่งชาติ ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควร คงจะไม่แล้วเสร็จใน 1-2 ปีนี้ อาจจะอีก 5-6 ปี หรือ 10 ปี แต่สุดท้ายเมื่อสำเร็จออกมาก็จะเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยประกันการศึกษาที่มี คุณภาพให้เด็กไทยทุกคนได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน

ที่ปรึกษาวิชาการ สสค.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ การดำเนินการจะสำเร็จหรือไม่คงต้องขึ้นอยู่กับฐานะของ สสค. หากได้เป็นนิติบุคคลก็จะทำให้การทำงานเรื่องนี้ง่ายและเร็วขึ้น อีกทั้งต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลแต่ละชุดด้วยว่าจะเข้าใจระบบการศึกษา มากน้อยเพียงใด เพราะจะปล่อยให้ระบบการศึกษาหย่อนประสิทธิภาพแบบนี้ไม่ได้แล้ว และจะปล่อยให้เกิดรูรั่วในการคอรัปชั่นไม่ได้ เนื่องจากจะทำให้เกิดความหายนะ โดยเด็กจะไม่ได้ในสิ่งที่ควรได้ เพราะมีการทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง มีการผูกขาดโดยคนหน้าเดิมๆ กลายเป็นว่าคนที่มีคุณภาพจริงจะเข้ามาในวงการไม่ได้ ซึ่งเหล่านี้จะทำลายความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะยาวด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น