อย.เดินหน้าสนองนโยบายปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจเข้มร้านขายยาในจังหวัดพื้นที่ภาคใต้ ป้องกันการนำยาแก้ไอน้ำเชื่อมไปใช้ไม่เหมาะสม พร้อมสั่งการ สสจ.คุมเข้มการใช้ยาผิดวัตถุประสงค์
นพ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า หลังจากที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกประกาศ เรื่อง การควบคุมการจำหน่ายยาน้ำแก้ไอที่มีไดเฟนไฮดรามีน หรือ โปรเมทาซีน หรือ เดกซ์โตรเมธอร์แฟน เป็นส่วนประกอบ โดยจำกัดปริมาณการจำหน่ายจากผู้ผลิตไปยังร้านขายยาไม่เกิน 300 ขวดต่อแห่งต่อเดือน และจำกัดการขายไม่ควรจ่ายยาเกินครั้งละ 3 ขวด เพื่อป้องกันการนำยาดังกล่าวไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์นั้น อย. ได้ดำเนินการติดตามผล โดยส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดำเนินการตรวจสอบร้านขายยาในจังหวัดทางภาคใต้ ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการขายยาแก้ไอน้ำเชื่อม จากการตรวจสอบ พบว่า มีร้านขายยาบางแห่งกระทำผิดซ้ำ จำหน่ายยาแก้ไอน้ำเชื่อมจำนวนมาก ขณะที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ และไม่ได้จัดทำบัญชีการซื้อยาและบัญชีการขายยาฯ นอกจากนี้ ยังพบยาที่ไม่มีฉลากใดๆ ระบุ, ยาแคปซูลสีเหลือง-เขียว มีอักษร CR50 ที่ไม่มีฉลากใดๆ ระบุว่าเป็นยาอะไร และยาที่ใช้สำหรับสถานพยาบาล ในร้านขายยาที่ดำเนินการตรวจสอบดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดยา และดำเนินคดีทางกฎหมาย รวมทั้งนำเสนอความผิดของร้านขายยาดังกล่าวเพื่อพิจารณาในคณะกรรมการยาในการดำเนินการสั่งพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตขายยาแผนปัจจุบันต่อไป
“อย.ขอเตือนร้านขายยาทุกแห่ง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ขอให้ระมัดระวังในการจำหน่ายยาน้ำแก้ไอให้กับประชาชน เพื่อช่วยกันลดปัญหาการนำยาไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่ง อย.ได้มีการติดตามสถานการณ์การขายยาแก้ไออย่างใกล้ชิด และพร้อมส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบในพื้นที่ที่มีปัญหารุนแรง และถ้าตรวจพบว่ามีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายจะดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืนทุกรายถึงขั้นพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตขายยา และส่งเรื่องให้สภาเภสัชกรรมพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องจรรยาบรรณของผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการในร้านขายยาที่มีปัญหาทุกแห่ง รวมทั้งรายที่เจ้าของร้านเองเป็นเภสัชกร และมีการขายยาแก้ไอน้ำเชื่อมเป็นจำนวนมาก โดยไม่สนใจต่อสังคม อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้บริโภคช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นการนำยาไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ขอให้ร้องเรียนมายัง สายด่วน อย.1556 เพื่อ อย.จะได้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป”รองเลขาธิการ อย.กล่าว
นพ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า หลังจากที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกประกาศ เรื่อง การควบคุมการจำหน่ายยาน้ำแก้ไอที่มีไดเฟนไฮดรามีน หรือ โปรเมทาซีน หรือ เดกซ์โตรเมธอร์แฟน เป็นส่วนประกอบ โดยจำกัดปริมาณการจำหน่ายจากผู้ผลิตไปยังร้านขายยาไม่เกิน 300 ขวดต่อแห่งต่อเดือน และจำกัดการขายไม่ควรจ่ายยาเกินครั้งละ 3 ขวด เพื่อป้องกันการนำยาดังกล่าวไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์นั้น อย. ได้ดำเนินการติดตามผล โดยส่งทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ดำเนินการตรวจสอบร้านขายยาในจังหวัดทางภาคใต้ ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการขายยาแก้ไอน้ำเชื่อม จากการตรวจสอบ พบว่า มีร้านขายยาบางแห่งกระทำผิดซ้ำ จำหน่ายยาแก้ไอน้ำเชื่อมจำนวนมาก ขณะที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ และไม่ได้จัดทำบัญชีการซื้อยาและบัญชีการขายยาฯ นอกจากนี้ ยังพบยาที่ไม่มีฉลากใดๆ ระบุ, ยาแคปซูลสีเหลือง-เขียว มีอักษร CR50 ที่ไม่มีฉลากใดๆ ระบุว่าเป็นยาอะไร และยาที่ใช้สำหรับสถานพยาบาล ในร้านขายยาที่ดำเนินการตรวจสอบดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดยา และดำเนินคดีทางกฎหมาย รวมทั้งนำเสนอความผิดของร้านขายยาดังกล่าวเพื่อพิจารณาในคณะกรรมการยาในการดำเนินการสั่งพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตขายยาแผนปัจจุบันต่อไป
“อย.ขอเตือนร้านขายยาทุกแห่ง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ขอให้ระมัดระวังในการจำหน่ายยาน้ำแก้ไอให้กับประชาชน เพื่อช่วยกันลดปัญหาการนำยาไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่ง อย.ได้มีการติดตามสถานการณ์การขายยาแก้ไออย่างใกล้ชิด และพร้อมส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบในพื้นที่ที่มีปัญหารุนแรง และถ้าตรวจพบว่ามีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายจะดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืนทุกรายถึงขั้นพักใช้ หรือเพิกถอนใบอนุญาตขายยา และส่งเรื่องให้สภาเภสัชกรรมพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องจรรยาบรรณของผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการในร้านขายยาที่มีปัญหาทุกแห่ง รวมทั้งรายที่เจ้าของร้านเองเป็นเภสัชกร และมีการขายยาแก้ไอน้ำเชื่อมเป็นจำนวนมาก โดยไม่สนใจต่อสังคม อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้บริโภคช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นการนำยาไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ขอให้ร้องเรียนมายัง สายด่วน อย.1556 เพื่อ อย.จะได้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป”รองเลขาธิการ อย.กล่าว