บุรีรัมย์ - ผู้การฯ ตำรวจบุรีรัมย์ร่วม สสจ.บุรีรัมย์ ออกตรวจร้านขายยาในเขตพื้นที่ อ.นางรอง ป้องกันลักลอบนำยาแก้หวัดมีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีนมาจำหน่าย หลัง สธ.ประกาศเป็นยาต้องห้าม เผยผลตรวจ 159 แห่งยังไม่พบมีการฝ่าฝืนกระทำผิด
วันนี้ (29 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.รัฐพงษ์ ยิ้มใหญ่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สถาพร นิยะโมสถ ผกก.สภ.นางรอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) บุรีรัมย์ และสาธารณสุขอำเภอนางรอง ออกตรวจร้านขายยาในเขตพื้นที่อำเภอนางรอง เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบนำยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดมาจำหน่ายแก่ประชาชน หลังจากทางกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศให้ยาแก้หวัดทุกชนิดที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีนเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2
พร้อมทั้งให้ร้านขายยาและสถานพยาบาลที่ไม่มีใบอนุญาตทุกแห่ง เก็บยาที่ต้องห้ามดังกล่าวที่มีไว้ในความครอบครองส่งคืนแก่ผู้ผลิตทั้งหมดภายในวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งหากพบร้านขายยา หรือสถานพยาบาลใดฝ่าฝืนมีไว้ในครอบครองหรือลักลอบจำหน่าย ก็จะถูกดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายการครอบครองซูโดอีเฟดรีน คำนวณปริมาณเป็นสารบริสุทธิ์แล้วไม่เกิน 5 กรัม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท และการครอบครองซูโดอีเฟดรีน คำนวณปริมาณเป็นสารบริสุทธิ์แล้วเกิน 5 กรัม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000-400,00 บาท
ในส่วนของการพิจารณาว่าผู้ครอบครองจะมีความผิดหรือไม่ เบื้องต้นได้ข้อมูลว่า ยา 1 เม็ดจะมีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีนประมาณ 60 มิลลิกรัม ซึ่งการครอบครองเกิน 5 กรัมได้นั้นน่าจะมียาประมาณ 100 เม็ดขึ้นไป
ส่วนเภสัชกรโรงพยาบาลหนองกี่ ที่แอบอ้างชื่อโรงพยาบาลสั่งซื้อยาซูโดฯ มาจำหน่ายที่ร้านขายยาของตัวเองนั้น ยังอยู่ระหว่างการสอบเอาผิดวินัยของทางคณะกรรมการระดับจังหวัด
พล.ต.ต.รัฐพงษ์ ยิ้มใหญ่ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศให้ยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีนเป็นยาต้องห้าม ก็ได้สั่งการให้ตำรวจทั้ง 34 สภ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอ ออกตรวจร้านขายยาที่อยู่ในความรับผิดชอบทั้งจังหวัดจำนวน 159 แห่ง แต่ยังไม่พบร้านใดฝ่าฝืนกระทำผิดหรือลักลอบจำหน่ายยาที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีนแต่อย่างใด แต่ก็ได้กำชับให้ทุกพื้นที่ออกสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่อง
