บุรีรัมย์ - ดีเอสไอเรียก ผอ.รพ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ และ ผอ.รพ.อีก 10 แห่ง รวม 11 แห่ง ที่มีปัญหายาซูโดอีเฟดรีนหายออกจากระบบ และแอบอ้างชื่อโรงพยาบาลสั่งซื้อ เข้ามาให้ปากคำและส่งข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมพรุ่งนี้ (18 เม.ย.)
วันนี้ (17 เม.ย.) นายสมชาย ม้าหาญศึก พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (18 เม.ย.) ทางอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ 52/2555 กรณีทุจริตนำยาซูโดอีเฟดรีนออกไปจากระบบโรงพยาบาล ซึ่งอาจถูกนำไปเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด ได้ทำหนังสือเรียกผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองกี่ จ.บุรีรัมย์มาสอบสวน กรณีที่เภสัชกรของโรงพยาบาลได้มีการแอบอ้างชื่อของโรงพยาบาลสั่งชื้อยาซูโดอีเฟดรีนมาจำหน่ายในร้านขายยาของตัวเอง ที่เกินกว่าโรงพยาบาลสั่งซื้อกว่า 90,000 เม็ด
พร้อมกันนี้ ยังเตรียมเรียกผู้อำนวยการโรงพยาบาลอีก 10 แห่ง รวมเป็น 11 แห่ง ทั่วประเทศที่มีปัญหาเกี่ยวเนื่องกับการจัดซื้อยาซูโดอีเฟดรีน และกรณียาที่หายไปจากระบบของโรงพยาบาล มาชี้แจงให้ปากคำเพิ่มเติม
พร้อมได้นำข้อมูล พยาน เอกสาร หลักฐานการจัดซื้อยามามอบให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อพิจารณาวินิจฉัย ซึ่งอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดในแต่ละแห่งแตกต่างกันไป หากตามข้อมูลพยานหลักฐาน ผู้ใดไม่เกี่ยวข้องก็จะไม่ถูกบรรจุเข้าไปเป็นคดีพิเศษของดีเอสไอต่อไป
นายสมชายกล่าวอีกว่า ส่วนที่จังหวัดบุรีรัมย์ หลังจากการเรียกสอบผู้อำนวยการโรงพยาบาลหนองกี่แล้ว ทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอก็ได้กำหนดวันที่จะเข้าไปสอบเภสัชกรของโรงพยาบาลอีกครั้ง หากพบมีการกระทำผิด และผู้ใดเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะถูกดำเนินการตามกฎหมายทันที
อย่างไรก็ตาม ที่จังหวัดบุรีรัมย์เบื้องต้นตรวจสอบตามข้อมูลทั้งพยานหลังฐาน ยังไม่พบว่าผู้อำนวยการโรงพยาบาลเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเข้าไปพัวพันในการจัดซื้อยาซูโดอีเฟดรีน แต่อย่างใด แต่ต้องรอผลการตรวจสอบอีกครั้ง
