นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงผลประชุมอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ อ.ก.พ. ต่อกรณีการสอบสวนวินัยกับข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการหายไปของยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน
ที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับข้าราชการ 10 คน ใน 8 จังหวัด แบ่งเป็นผู้อำนวยการและเภสัชกร โรงพยาบาลทองแสงขัน จ.อุตรดิตถ์ ส่วนอีก 8 คนเป็นเภสัชกรและเจ้าหน้าที่งานเภสัชกรรมในโรงพยาบาล 7 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลอุดรธานี โรงพยาบาลกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ โรงพยาบาลฮอด และโรงพยาบาลดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ โรงพยาบาลภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และโรงพยาบาลหนองกี่ จ.บุรีรัมย์
นอกจากนั้นยังมีการสอบวินัยไม่ร้ายแรงกับผู้อำนวยการโรงพยาบาล 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลกมลาไสย โรงพยาบาลฮอด และโรงพยาบาลภูสิงห์ รวมถึงเภสัชกรอีก 3 คน ที่โรงพยาบาลกมลาไสย
ด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หากผู้ถูกกล่าวหาปฏิเสธ มีสิทธิ์นำหลักฐานมาชี้แจงได้ภายใน 30 วัน พร้อมกับเอาผิดทางแพ่งกับข้าราชการที่กระทำความผิด ส่วนผลทางอาญาเป็นหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ รวมแล้วยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน หายไปจากระบบ 9 ล้านเม็ด
นอกจากนั้น ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ย้ำว่า ปัญหาทุจริตยาซูโดอีเฟดรีน เกิดขึ้นใน 8 โรงพยาบาล จากทั้งหมด 845 แห่ง คิดแล้วไม่ถึง 1% จึงไม่อยากให้ประชาชนกังวลใจมากนัก
ที่ จ.กาฬสินธุ์ พนักงานสอบสวน เข้ารับทราบความคืบหน้าคดียาแก้หวัดหายไปจากโรงพยาบาลกมลาไสย กว่า 350,000 เม็ด เพื่อตรวจสอบความเชื่อมโยงกับโรงพยาบาลที่มีปัญหาบัญชียา
ด้านสาธารณสุข จ.บุรีรัมย์ ตรวจสอบพบว่า นายสมพงษ์ ตรีรถะ เภสัชกรปฏิบัติการโรงพยาบาลหนองกี่ มีพฤติกรรมแอบอ้างชื่อโรงพยาบาลสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีน ไปจำหน่ายในร้านขายยา จึงมีคำสั่งย้ายไปช่วยราชการที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์
ที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงกับข้าราชการ 10 คน ใน 8 จังหวัด แบ่งเป็นผู้อำนวยการและเภสัชกร โรงพยาบาลทองแสงขัน จ.อุตรดิตถ์ ส่วนอีก 8 คนเป็นเภสัชกรและเจ้าหน้าที่งานเภสัชกรรมในโรงพยาบาล 7 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลอุดรธานี โรงพยาบาลกมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ โรงพยาบาลฮอด และโรงพยาบาลดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ โรงพยาบาลภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และโรงพยาบาลหนองกี่ จ.บุรีรัมย์
นอกจากนั้นยังมีการสอบวินัยไม่ร้ายแรงกับผู้อำนวยการโรงพยาบาล 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลกมลาไสย โรงพยาบาลฮอด และโรงพยาบาลภูสิงห์ รวมถึงเภสัชกรอีก 3 คน ที่โรงพยาบาลกมลาไสย
ด้านนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หากผู้ถูกกล่าวหาปฏิเสธ มีสิทธิ์นำหลักฐานมาชี้แจงได้ภายใน 30 วัน พร้อมกับเอาผิดทางแพ่งกับข้าราชการที่กระทำความผิด ส่วนผลทางอาญาเป็นหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ รวมแล้วยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน หายไปจากระบบ 9 ล้านเม็ด
นอกจากนั้น ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ย้ำว่า ปัญหาทุจริตยาซูโดอีเฟดรีน เกิดขึ้นใน 8 โรงพยาบาล จากทั้งหมด 845 แห่ง คิดแล้วไม่ถึง 1% จึงไม่อยากให้ประชาชนกังวลใจมากนัก
ที่ จ.กาฬสินธุ์ พนักงานสอบสวน เข้ารับทราบความคืบหน้าคดียาแก้หวัดหายไปจากโรงพยาบาลกมลาไสย กว่า 350,000 เม็ด เพื่อตรวจสอบความเชื่อมโยงกับโรงพยาบาลที่มีปัญหาบัญชียา
ด้านสาธารณสุข จ.บุรีรัมย์ ตรวจสอบพบว่า นายสมพงษ์ ตรีรถะ เภสัชกรปฏิบัติการโรงพยาบาลหนองกี่ มีพฤติกรรมแอบอ้างชื่อโรงพยาบาลสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีน ไปจำหน่ายในร้านขายยา จึงมีคำสั่งย้ายไปช่วยราชการที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์
