บุรีรัมย์ - สสจ.บุรีรัมย์เผยเภสัชกร รพ.หนองกี่ยอมรับแอบอ้างชื่อโรงพยาบาลซื้อยาซูโดอีเฟดรีนมาจำหน่ายร้านขายยาตัวเองจริง อ้างซื้อผ่านชื่อโรงพยาบาลราคาถูกมีกำไรมากกว่า ขณะ สสจ.ชงเรื่องให้ผู้ว่าฯ ตั้งกรรมการสอบเอาผิดวินัย พบซื้อเกินจำนวนถึง 8 ครั้ง คาดแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ ด้านผู้ว่าฯ ย้ำหากผลสอบทำผิดจริงให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
วันนี้ (24 เม.ย.) นพ.สมพงษ์ จรุงจิตตานุสนธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) บุรีรัมย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่มีการตรวจพบ นายสมพงษ์ ตีรถะ เภสัชกรปฏิบัติการ โรงพยาบาลหนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ แอบอ้างชื่อโรงพยาบาลสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีน ซึ่งใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด มาจำหน่ายที่ร้านขายยาของตัวเอง จนถูกสั่งย้ายเข้ามาช่วยราชการที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์นั้น
จากผลสอบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงระดับจังหวัด นายสมพงษ์ เภสัชกร ยอมรับว่าได้แอบอ้างชื่อโรงพยาบาลสั่งซื้อยาซูโดอีเฟดรีนจริง เนื่องจากการซื้อยาผ่านชื่อของโรงพยาบาลมีราคาถูกกว่าสั่งซื้อด้วยตัวเอง ทำให้ได้กำไรมากกว่า พร้อมยืนยันว่า การสั่งซื้อยาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่หรือทางโรงพยาบาลแต่อย่างใด ได้ดำเนินการด้วยตัวเองเพียงลำพัง
นพ.สมพงษ์กล่าวต่อว่า ล่าสุดทางคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงได้สรุปผลการสอบสวนแล้วเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกชุดหนึ่งเพื่อดำเนินการสอบสวนเอาผิดทางวินัยต่อนายสมพงษ์ ตีรถะ เภสัชกรปฏิบัติการ โรงพยาบาลหนองกี่ ที่พบว่ามีการแอบอ้างใช้ชื่อโรงพยาบาลในการสั่งซื้อยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนเกินจำนวนที่โรงพยาบาลสั่งซื้อถึง 8 ครั้ง รวมเป็นยาชนิดเม็ดทั้งสิ้น 90,000 เม็ด และชนิดน้ำอีก 1,500 ขวด
หากผลการสอบสวนทางวินัยของคณะกรรมการฯ เสร็จสิ้นออกมาเป็นประการใด ก็จะนำผลการสอบเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อจะได้พิจารณา หรือหากเภสัชกรดังกล่าวมีการกระทำผิดวินัยจริง ก็จะถูกดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาดทันที
ด้านนายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หากผลสอบพบว่ามีการกระทำผิด หรือมีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับขบวนการยาเสพติด ก็ให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลรับผิดชอบตามแนวชายแดนได้เพิ่มมาตรการคุมเข้มป้องกันการลักลอบนำยาดังกล่าวเข้ามาในพื้นที่อย่างเข้มงวดด้วย