xs
xsm
sm
md
lg

จับมือกองทัพผุด “สุภาพบุรุษอาชีวะ” แก้นักเรียนตีกัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผุดโครงการ “สุภาพบุรุษอาชีวะ” ล้างภาพ “นักเรียนนักเลง” ประสานกองทัพบก ส่งหัวโจก 130 คน จาก 36 วิทยาลัยกลุ่มเสี่ยงเข้าอบรมในค่าย หวังให้ทหารช่วยฝึกความมีวินัยและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ดีขึ้น ด้าน “สุชาติ” สั่งให้นักเรียน นักศึกษาอาชีวะ ใน 36 แห่งใส่เครื่องแบบปกติ แต่ไม่ต้องติดเครื่องหมาย หรือตราสัญลักษณ์ที่แสดงว่าเรียนอยู่สถาบันใด

วันนี้ (22 มิ.ย.) ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ประชุมร่วมกับ พล.ท.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รองเสนาธิการทหารบก ถึงแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียน นักศึกษาอาชีวศึกษาก่อเหตุทะเลาะวิวาท โดยมีนายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัด ศธ. นายชาญวิทย์ ทับสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน พร้อมด้วยผู้บริหารสถานศึกษาในกลุ่มเฝ้าระวังเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 36 แห่ง แบ่งเป็น สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จำนวน 19 แห่งและสังกัดสำนักงานคณะกรรมส่งเสริมการศึกษาเอกชน จำนวน 17 แห่ง

ศ.ดร.สุชาติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ว่า ปัญหาเด็กนักเรียนตีกันที่เกิดขึ้นเกิดเพราะเด็กหัวโจกเพียงไม่กี่คน ดังนั้น จำเป็นจะต้องแยกเด็กหัวโจกออกมาจากเด็กนักเรียนทั่วไป ดังนั้น ศธ.ได้ประสานขอความร่วมมือจากทางกองทัพบกเพื่อจัดทำโครงการ “สุภาพบุรุษอาชีวะ” และนำเด็กหัวโจกจากวิทยาลัยกลุ่มเสี่ยงทั้ง 36 แห่งนี้ ซึ่งมีนักเรียนหัวโจกอยู่ 130 คน แบ่งเด็กหัวโจกที่อยู่วิทยาลัยสังกัด สอศ.จำนวน 50 คน และสังกัด สช.จำนวน 80 คน มาเข้าโครงการและส่งไปฝึกอบรมในค่ายทหาร ให้ถือเป็นกลุ่มแกนนำรุ่นแรก ซึ่งทาง พล.ท.สุรศักดิ์ ก็ตอบรับว่า ทางกองทัพบกยินดีที่จะให้ความร่วมมือ สำหรับสาเหตุที่ให้อบรมในค่ายทหาร เนื่องจากว่าอยากให้นักศึกษานั้นได้รับการฝึกระเบียบวินัยและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ได้ขอความสนับสนุนให้ทางกองทัพบกส่งทหารมาเป็นครูสอนให้แก่นักเรียนคนอื่นๆ ในวิทยาลัยด้วยเช่นกัน โดยโครงการนี้จะเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป

เหตุปัญหาที่เด็กตีกัน เพราะเด็กหัวโจก และยังมีพวกผีสิงที่เป็นรุ่นพี่เก่าๆ ที่ออกไปมาแฝงตัวอยู่ในสถานศึกษา จึงต้องหาวิธีการแก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จดึงเด็กหัวโจก 130 คน ออกมาอบรมฝึกความเป็นสุภาพบุรุษ ฝึกความเสียสละ และยังให้ไปรับการอบรมธรรมะด้วย ขณะเดียวกัน ก็ไม่ได้ทิ้งด้านวิชาสามัญ เพราะให้จัดส่งครูเข้าไปสอนนักเรียนเหล่านี้ด้วย ส่วนพวกผีสิงก็หาวิธีการจัดการเอาออกไป สำหรับนักเรียนคนอื่นๆ ที่เป็นเด็กดีซึ่งมีจำนวน 4 หมื่นคน ก็จะขอให้ทหารมาช่วยสอนด้วยและลงทุนสนับสนุนการเรียน เช่น ด้านการเรียนภาษาอังกฤษ ด้านวิชาช่างจัดหาเครื่องมือที่ดีที่เหมาะสมกับการเรียนเพื่อพัฒนานักเรียนที่ดีๆ เหล่านี้ได้เรียนเต็มตามศักยภาพ ซึ่งตรงนี้โรงเรียนหรือวิทยาลัยอาชีวศึกษาจะเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ เป็นเหมือนโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัยต่างๆ ผู้ปกครองที่หวาดกลัวว่าลูกจะได้รับอันตรายหากเรียนอาชีวะจะได้เบาใจและส่งลูกเรียนในสายอาชีพ” ศ.ดร.สุชาติ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้เรื่องนี้เกิดผลโดยเร็วที่สุด อย่างน้อยภายในสัปดาห์หน้าต้องเริ่มดำเนินการที่จะวางแผนแนวทางที่ชัดเจน เพื่อการทำงานให้เกิดผลในระยะยาว สำหรับระยะสั้นนั้น ตนจะสั่งการให้โรงเรียนกลุ่มเสี่ยงทั้ง 36 แห่งนั้นนักเรียน นักศึกษา ให้ใส่เครื่องแบบปกติแต่ไม่ต้องติดเครื่องหมาย หรือตราสัญลักษณ์ที่แสดงให้รู้ว่าเป็นนักเรียน นักศึกษาจากสถาบันใดโดยให้เริ่มทำได้ในทันที

ด้านนายชัยพฤกษ์ กล่าวว่า จากนี้จะไปประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมการวางแผนจัดการส่งนักเรียนหัวโจกเข้าอบรมในค่ายทหาร ขณะเดียวกันต้องประสานขอความร่วมมือและชี้แจงจุดประสงค์ของการนำนักเรียนเข้าค่ายให้กับผู้ปกครองเด็กเหล่านี้ได้ทราบด้วย ส่วนกรณีที่ รมว.ศึกษาธิการ มีนโยบายว่าขอให้ทหารมาช่วยสอนในวิทยาลัยนั้น คาดว่า จะเริ่มได้ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555

น.ส.ศศิธารา กล่าวว่า เป้าหมายของการฝึกอบรมเพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้ เรื่องความมีระเบียบวินัยจากทหาร ได้เห็นตัวอย่างที่ดีเพื่อนำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่ง รมว.ศึกษาธิการ มีความตั้งใจจะให้นักเรียนกลุ่มนี้ไปใช้ชีวิตแบบกินนอนที่ค่ายทหาร และให้อาจารย์เข้าไปสอนเสริมวิชาพื้นฐาน โดยวางกรอบดำเนินการไว้ 3 เดือนเริ่มตั้งกรกฎาคม ถึงกันยายนนี้ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ต้องมาหารือเพื่อทำแผนร่วมกันต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น