xs
xsm
sm
md
lg

รวบโจ๋อาชีวะยิง2ศพ โพลจี้ปิด-ยุบรวมร.ร.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-บช.น.แถลงผลรวบตัว 8 โจ๋อาชีวะมือยิง นร.ไทยวิจิตรศิลป์ดับพร้อมผู้โดยสาร บนรถเมล์สาย 59 ระบุเคยถูกสถาบันคู่อริรุมทำร้ายจนเกิดความแค้นฝังใจ จนต้องพกอาวุธติดตัวเป็นประจำ เบื้องต้น ตร.แจ้ง 4 ข้อหาฉกรรจ์ ด้านโพลสะท้อนความเห็น ปชช. เชื่อปัญหาเด็กอาชีวะตีกันแก้ไม่ได้ เสนอทางออก ปิดหรือยุบรวม ร.ร.

วานนี้ (17 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ พล.ต.ต.พิสิฏฐ์ พิสุทธิ์ศักดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สน.ดอนเมือง พ.ต.อ.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน ผกก.สส.บก.น.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดกก.สส.บก.น.2 แถลงจับกุมตัวนายแมน (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นักเรียนโรงเรียนวิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง ชั้นปีที่ 1 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัวกลางที่ จ.124/2555 ลงวันที่ 15 มิ.ย. 2555 พร้อมของกลางอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ลูกซองสั้น ขนาดเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก และเสื้อคลุมสีดำ ที่ใส่วันเกิดเหตุ จำนวน 1 ตัว โดยจับกุมได้ที่ถนนพหลโยธินขาเข้า เยื้องกับร้านอาหารบ้านสวน ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

พล.ต.ต.คำรณวิทย์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.38 น. ได้มีกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนยิงคู่อริบนรถโดยสารประจำทาง สาย 59 ทำให้นายวันชัย หรือเจ๊ก ทองสองแก้ว อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 โรงเรียนไทยวิจิตรศิลป์ และนางยุพา พลายงาม อายุ 48 ปี ผู้โดยสาร ถึงแก่ความตาย นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย คือ นายธนสิทธิ์ ท้ายเมือง อายุ 21 ปี และ น.ส.กานต์สินี เจียมกิจรุ่ง อายุ 18 ปี ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่ป้ายรถประจำทางฝั่งตรงข้ามอาคารช่างบริษัทการบินไทย ถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาออก แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กทม. เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าว และสอบปากคำพยานผู้อยู่ในเหตุการณ์ จนกระทั่งทราบว่านายแมนคือผู้ก่อเหตุ จึงขอศาลออกหมายจับ จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. เวลาประมาณ 22.30 น.

จากการสอบสวนนายแมน ให้การรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุได้ยืนรอรถโดยสารประทำทางที่ป้ายดังกล่าวเพื่อกลับบ้านย่านสะพานใหม่ตามปกติ ร่วมกับเพื่อนสถาบันเดียวกันเป็นกลุ่มจำนวน9 คน ขณะนั้นมีรถประจำทางสาย 59 วิ่งมาจอดเพื่อรับผู้โดยสารที่ป้าย ตนเห็นกลุ่มนักเรียนสถาบันไทยวิจิตรศิลป์คู่อริบนรถประจำทาง ซึ่งทำท่าจะชักอาวุธมีด ตนจึงได้ใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นที่พกติดตัวมาด้วย ยิงขึ้นไปบนรถตรงประตูขณะที่รถขับเคลื่อนตัวออกไป ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บ 2 คน

นายแมนยอมรับว่าอาวุธปืนนั้นตนซื้อมาจากเพื่อนในราคา 2,000 บาท ซึ่งก็ไม่ได้พกติดตัวทุกวัน ส่วนใหญ่จะพกอาวุธมีดมากกว่า เพราะเมื่อมีเหตุทะเลาะกันจะใช้อาวุธมีดไม่ค่อยใช้ปืน ทั้งนี้ยอมรับว่าตนไม่ได้รู้จักกับผู้ตาย แต่เห็นว่าเป็นกลุ่มสถาบันคู่อริ จึงก่อเหตุดังกล่าว แต่ไม่คิดว่าจะมีผู้เสียชีวิต ส่วนสาเหตุที่ทำลงไป เพราะตนเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับกลุ่มนักเรียนไทยวิจิตรศิลป์ ซึ่งใช้อาวุธมีดฟันทำร้ายตนที่ย่านดอนเมืองและสายไหมจึงเกิดความแค้นฝังใจ ส่วนผู้โดยสารที่โดนลูกหลงเสียชีวิตตนขอโทษและเสียใจที่ทำลงไป

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายแมน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น,ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น,ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธฯ” โดยจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลศาลเยาวชนและครอบครัวกลางภายในวันนี้

พล.ต.ต.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ต้องหารายอื่น ๆอีก 8 คน นั้นได้เข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่หมดแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) ส่วนนายแมนทางเจ้าหน้าที่จะไม่นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะยังเป็นเยาวชนอยู่ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาไป 3 ราย ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น,ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น,ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธฯ” เพราะให้การสัมพันธ์กันบางอย่างเข้าข่ายตามข้อหาดังกล่าว สำหรับอีก 5 รายนั้นต้องทำการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อสามารถแจ้งข้อหาได้

“ทั้งนี้ สำหรับมาตรการป้องกันเหตุนักเรียนตีกันนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นแค่เพียงการป้องกันปลายเหตุ เมื่อมีเหตุก็ต้องติดตามจับกุมตามกฎหมาย ซึ่งทางแก้ที่ถูกต้องจะต้องแก้ที่ต้นเหตุ จะต้องเชิญสถาบันที่นักเรียนเกิดความขัดแย้งและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาพูดคุยกัน เพื่อหามาตรการป้องกันเหตุทะเลาะวิวาทของนักเรียนสถาบันต่างๆไม่ให้เกิดขึ้นอีก” พล.ต.ต.คำรณวิทย์ กล่าว

***โพลแนะยุบรวมเป็นสถาบันเดียวกัน

ด้านสวนดุสิตโพล สะท้อนความเห็นประชาชนเชื่อ ปัญหาเด็กอาชีวะตีกันแก้ปัญหาไม่ได้ โดยจากแบบสอบถามมีรายละเอียดดังนี้ 1. ประชาชนคิดอย่างไร? กรณี "นักเรียนยกพวกทำร้ายกัน" จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

อันดับ 1. เป็นเรื่องของความขัดแย้ง ไม่ถูกกันระหว่างสถาบัน เป็นพฤติกรรมตกทอดกันมาที่แก้ไม่หาย 35.87 % อันดับ 2. รู้สึกหดหู่ใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเสียใจกับประชาชนที่ไม่รู้เรื่องต้องมาบาดเจ็บและเสียชีวิต 28.62 % อันดับ 3. มาจากพื้นฐานครอบครัว สภาพแวดล้อมและการคบเพื่อนฝูงของวัยรุ่นเป็นสิ่งสำคัญ 18.84 % อันดับ 4. สังคมเสื่อมถอยส่งผลให้วัยรุ่นในปัจจุบันมีพฤติกรรมที่น่าเป็นห่วง /เลียนแบบจากตัวอย่างที่ไม่ดี 9.78 % อันดับ 5. ไม่อยากให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ทำให้สถาบันต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง /พ่อแม่เป็นทุกข์ 6.89 %

2. ประชาชนคิดว่า "สาเหตุสำคัญ" ของการทะเลาะวิวาทมาจากเรื่องใด ?

อันดับ 1. เรื่องของศักดิ์ศรีระหว่างสถาบัน ค่านิยมที่ผิดๆจากรุ่นพี่สู่รุ่นน้อง /เครื่องแบบที่สวมใส่ 49.49% อันดับ 2. ความคึกคะนอง อารมณ์ร้อน ขาดสติ ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ /อยากเด่นอยากดัง เท่ห์ 32.54% อันดับ 3. สังคมในปัจจุบันมีแต่การทะเลาะเบาะแว้ง ใช้กำลังในการแก้ปัญหา /มีตัวอย่างที่ไม่ดีให้เด็กเห็น 7.80% อันดับ 4. กระทรวงศึกษาธิการ สถาบันการศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่มีมาตรการที่เด็ดขาดหรือเอาจริง เอาจังมากพอ /มีแต่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าในแต่ละครั้งเท่านั้น ไม่มีการแก้ปัญหาแบบถาวร 6.10% อันดับ 5. น่าจะมาจากหลายๆสาเหตุรวมกัน เช่น เรื่องส่วนตัว ปัญหาชู้สาว ยาเสพติด ฯลฯ 4.07%

3. ทางออก / วิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดในขณะนี้ คือ

อันดับ 1. ปิดโรงเรียน หรือ ยุบรวมไว้ด้วยกันเป็นสถาบันเดียวกันทั้งหมด 39.71% อันดับ 2. เร่งติดตามและนำตัวผู้ที่กระทำผิดมาลงโทษขั้นเด็ดขาด /ส่งเข้าสถานพินิจ ขังคุกควบคุมความประพฤติ ละลายพฤติกรรมเพื่อไม่ให้มีคนเอาเยี่ยงอย่าง 37.55% อันดับ 3. กระทรวงศึกษาธิการต้องเร่งแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ให้เป็นปัญหาเรื้อรังขอความร่วมมือไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตั้งแต่พ่อแม่ ผู้ปกครอง สถาบันการศึกษา สอศ. และจนท.ตำรวจ 8.67% อันดับ 4. ภายในสถานศึกษาต้องมีการควบคุมดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด มีการตรวจค้นเพื่อป้องกันการพกอาวุธ/มีการจัดตั้งอาสาสมัครคอยสอดส่องดูแล แจ้งข่าว /แต่งตั้งอาจารย์ที่รับผิดชอบดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ 7.21% อันดับ 5. ควรมีการพูดคุยกันระหว่างสถาบันเพื่อหาแนวทางหรือทางออกที่ดีที่สุด/ส่งตัวแทนนักเรียนของแต่ละสถาบันมาพูดคุยกันเพื่อหาข้อตกลงที่น่าพอใจสำหรับทุกฝ่าย 6.86%.
กำลังโหลดความคิดเห็น