ส.ว.อุดรธานี ร้องทุกข์แทนตำรวจ แฉผู้รับเหมาสร้าง สน.ไม่คืบ ทำข้าราชการไร้ที่ทำงาน ฝาก “ยิ่งลักษณ์-เฉลิม” ทบทวนแก้ไขสัญญา ด้าน ส.ว.สุราษฎร์ฯ ปูดภูธรภาค 8 มีทิ้งงานด้วย วอนเร่งหาทางแก้ ทางฝั่ง “ส.ว.ตวง” ชี้นักเรียนตีกันชูรัฐล้มเหลว แนะใช้แผน 40 ซามูไรแก้
วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่รัฐสภา การประชุมวุฒิสภา ที่มี พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา เป็นประธาน โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม พล.ต.ท.พิชัย สุนทรสัจบูลย์ ส.ว.อุดรธานี และประธานที่ปรึกษากรรมาธิการ (กมธ.) ยุติธรรม และการตำรวจ กล่าวว่า ตนมีเรื่องความทุกข์ยากของข้าราชการตำรวจเกี่ยวกับการก่อสร้างที่ทำการหรือสถานีตำรวจและแฟลตตำรวจ ทั้ง 2 โครงการนี้เป็นโครงการในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติเป็นงบผูกพันไว้ตั้งแต่ปี 2552 ซึ่งก็ได้ดำเนินการตลอดมา แต่ปรากฏว่าผู้รับเหมาที่มีเพียงบริษัทเดียว คือ พีพีซี ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด มีสำนักงานที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเป็นการประมูลครั้งเดียวแล้วก่อสร้างพร้อมกันทั่วประเทศ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหา กมธ.ได้ติดตามทวงถามไปหลายครั้ง แต่การก่อสร้างก็ไม่คืบหน้า ซึ่งขณะนี้ข้าราชการตำรวจก็ไม่มีสถานที่ทำงานเป็นเวลานาน 3-4 ปี แต่รัฐบาลก็ไม่สนใจและเร่งดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ซึ่งดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ไปลองทบทวนว่าจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญาได้อย่างไรบ้าง เพราะตนแน่ใจว่าขณะนี้ไม่สามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จ เนื่องจากมีการขยายเวลามาครั้งหนึ่งแล้ว
ด้าน พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ ส.ว.สุราษฎร์ธานี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการยุติธรรม และการตำรวจ (กมธ.) วุฒิสภา ได้หารือถึงการก่อสร้างสถานีตำรวจทั่วประเทศว่า ทาง กมธ.ได้รับการร้องทุกข์ในเรื่องการก่อสร้างสถานีตำรวจเกือบทั่วประเทศโดยเฉพาะพื้นทีตำรวจภูธรภาค 8 ว่าหลังจากมีการทำสัญญาการก่อสร้าง และเบิกเง่นล่วงหน้า 15 เปอร์เซ็นต์แล้วพร้อมตั้งไซต์งานแล้วได้ละทิ้งงาน ซึ่งจากการลงดูในพื้นที่ก่อสร้างหลายแห่งพบว่าตำรวจจะไม่มีที่ทำการประมาณ 2 ปี บางแห่งก็ใช้โรงรถ ซึ่งประชาชนก็ไม่รู้ติดต่อตำรวจได้อย่างไร ผู้ต้องหาก็ไม่มีห้องขังแต่ใช้ตู้คอนเทรนเนอร์เจาะรู เวลาเข้าห้องน้ำก็ล่ามโซ่ตรวนไป อย่างไรก็ตาม สัญญาครบกำหนดการก่อสร้างในวันที่ 17 มิ.ย. 25555 แต่เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมได้มีการต่อสัญญาไปอีก 180 วัน โดยจะครบกำหนดในวันที่ 24 ธ.ค. 2555 ซึ่งดูแล้วไม่น่าจะทำได้ทันกำหนด ซึ่งที่ผ่านมาตัวแทนจาก สตช.ก็ได้เข้ามาชี้แจงต่อ กมธ.การยุติธรรมฯและรับจะไปแก้ไขแต่ก็ไม่เห็นความคืบหน้า ดังนั้นจึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้เร่งรัดหาหนทางแก้ไข
ขณะที่ นายตวง อันทะไชย ส.ว.สรรหา ได้หารือว่า ปัญหานักเรียนตีกันคือตัวอย่างของความเป็นรัฐล้มเหลว รัฐไม่ใช่รัฐ กฎหมายไม่ใช่กฎหมาย ทำทุกอย่างตามที่ตัวเองเชื่อ พอยิงเสร็จก็อ้างว่ายิงผิดตัว มีการแก้แค้นกันเพราะอยู่กันคนละสถาบัน แต่สิ่งที่ต้องพึงระวังคือกรณีที่ทางภาครัฐประกาศถนนบางสาย ให้เป็นเส้นทางพึงระวังในการเดินทาง จึงสงสารประชาชนที่ต้องเดือดร้อน ปัจจัยการแก้ปัญหาเรื่องนี้ คือ นายกรัฐมนตรีและ รมว.ศึกษาธิการ นายกฯ จะบัญชา รมว.ศึกษาธิการเฉยๆไม่ได้ รัฐบาลต้องเจียดเงินจากโครงการจัดซื้อแท็บเล็ตซัก 100 ล้านบาทมาทำเรื่องนี้ เพราะช่วง 3-4 เดือนจากนี้จะมีเหตุนักเรียนตีกันทุกวัน อยากให้รัฐบาลถอดบทเรียนกรณีแก๊งซามูไร 40 จ.เชียงราย ชื่อกลุ่มเอ็นดีอาร์ ที่ทางกลุ่มบริษัทบ้านปูให้เงินแก่คนกลุ่มนี้ไปพัฒนา จนเปลี่ยนจากพลังรบเป็นพลังบวก จากพลังทำลายเป็นพลังสร้างสรรค์ จนวันนี้ไม่มีเหตุแล้ว เด็กเหล่านี้ต้องได้คิดว่าเขาเป็นทางออก เป็นคนที่จะแก้ปัญหานี้เอง รัฐต้องไปถอดบทเรียนเหล่านั้นมาเป็นแนวทางแก้ปัญหา และควรสนับสนุนด้านงบ
ประมาณ
