อาชีวะขาดครู! เล็งขอแปรญัตติงบ 56 หาเงินช่วยวิทยาลัยนำไปใช้จ้างครู คาด ต้องใช้งบกว่า 1.6 พันล้าน จะเพียงพอจ้างครู 8,936 คน ชี้ที่ผ่านมา วท.ต้องเจียดจ่ายเงินรายหัวเด็กมาใช้เพื่อจ้างครูทั้งที่เงินส่วนนี้ควรจะไปซื้ออุปกรณ์เครื่องมือเพื่อการเรียนการสอน เผยอีก 7-8 ปีข้างหน้า สอศ.จะขาดครูหนักเตรียมทำแผนพัฒนาครูรองรับ พร้อมเล็งหางบประมาณไว้ช่วย นศ.ยากจนที่ไม่มีเงินพอซื้ออุปกรณ์ช่างประจำตัวด้วย เพื่อไม่ให้เด็กต้องยืมเพื่อนเรียน หรือตัดสินใจลาออกกลางคัน
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) เปิดเผยว่า เร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จะเสนอขอแปรญัตติงบประมาณ 2556 เพื่อของบประมาณเพิ่มเติมให้วิทยาลัยสังกัด สอศ.นำไปใช้ในการจ้างครูจ้างสอนนักเรียน นักศึกษาในสังกัด รวมทั้งจะขอกรอบอัตรากำลังครูในสายอาชีวศึกษาเพิ่มเติมด้วย เพราะที่ผ่านมา สอศ.ประสบปัญหาขาดแคลนครูที่มีความเชี่ยวชาญในสายวิชาชีพอยู่พอสมควร และจะขอแปรญัตติเพื่อของบประมาณเพื่อจัดอบรมครูเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันครูบางคนยังไม่เข้าถึงเรื่องเทคโนโลยีซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเรียนการสอนในสายอาชีพ เช่น ครูอาชีวะจำนวนมากสอนเรื่องไฟฟ้าไม่ได้ ขณะที่ครูในสายอิเล็กทรอนิกส์หลายคนยังสอนเรื่องการซ่อมแซม หรือบำรุงรักษาทีวีจอแบนไม่ได้ ทั้งที่เป็นเทคโนโลยีที่ใช้มากในปัจจุบัน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในภาพรวม พบว่า วิทยาลัยสังกัด สอศ.ทั้งหมด 415 แห่ง ทั้งประเภทวิทยาลัยสารพัดช่าง, วิทยาลัยการอาชีพ, วิทยาลัยเทคโนโลยี ต้องจ้างครูจ้างสอน ทั้งหมดประมาณ 8,936 คน ซึ่งต้องใช้งบประมาณ 1,608,480,000 บาทจึงจะเพียงต่อการจ้างครู ทั้งนี้ ที่ผ่านมา วิทยาลัยอาชีวะต่างๆ ได้พยายามแก้ปัญหาขาดแคลนครูด้วยการใช้ครูจ้างสอน โดยเจียดจ่ายงบประมาณจากเงินรายหัวเด็กมาใช้เพื่อจ้างครู ทั้งที่ถูกต้องงบประมาณดังกล่าวควรจะต้องนำไปใช้ในการจัดซื้อวัสดุ เครื่องมือ อุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให้คุ้มค่า แต่กลับต้องไปนำไปใช้จ้างครูแทน จึงเป็นเหตุผลให้หลายวิทยาลัยไม่มีวัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัย นอกจากนั้น ยังพบว่า เด็กอาชีวะส่วนใหญ่เป็นเด็กยากจน และมาจากโรงเรียนขยายโอกาส ซึ่งแม้ สอศ.จะได้งบประมาณของเงินรายหัวมากกว่าสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยเหลือได้มากพอ เพราะเมื่อเด็กเข้าเรียนไปแล้วก็จะต้องซื้ออุปกรณ์เครื่องมือช่างประจำตัวเอง ตกคนละประมาณ 2,000 บาทซึ่งบางคนไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อทำให้เด็กจำนวนหนึ่งต้องออกกลางคัน ดังนั้น ตนจะเสนอขอแปรญัตติเพื่อของบประมาณให้เด็กไว้ใช้ซื้ออุปกรณ์ช่างประจำตัวด้วย
“ที่ผ่านมา สอศ.เคยของบประมาณปี 2556 เพื่อสนับสนุนเรื่องการจ้างครูและงบจัดซื้ออุปกรณ์ช่างประจำตัวให้กับวิทยาลัยอาชีวะแต่ไม่ได้รับการอนุมัติ ดังนั้น จึงจะขอแปรญัตติใหม่อีกครั้ง เพราะเห็นว่า ทั้ง 2 เรื่องเป็นปัญหาใหญ่จริง โดยเรื่องครูถ้าไม่ได้รับการแก้ไขก็จะกระทบการจัดการเรียนการสอนที่อาจจะไม่ได้คุณภาพเท่าที่ควร เพราะวิทยาลัยต้องดึงเงินรายหัวเด็กมาใช้ ขณะเดียวกัน ถ้าเด็กไม่มีอุปกรณ์ประจำตัวช่าง ก็จะไม่มีอุปกรณ์ใช้ หรือต้องไปยืมเพื่อนเรียนทำให้เรียนได้ไม่เต็มที่ บางคนอาจจะตัดสินใจออกกลางคัน”เลขาธิการ กอศ. กล่าวและว่า นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ปี 2558 สอศ.กำลังอยู่ระหว่างจัดทำแผนกรอบพัฒนาอัตรากำลังคนซึ่งจะมีแผนการพัฒนากำลังครูอาชีวศึกษาในภาพรวมอยู่ด้วยเนื่องจากในอีก 7-8 ปีข้างหน้า สอศ.เองจะเกิดปัญหาขาดแคลนครูอย่างหนักไม่น้อยไปกว่า สพฐ.เช่นกัน
นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (เลขาธิการ กอศ.) เปิดเผยว่า เร็ว ๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จะเสนอขอแปรญัตติงบประมาณ 2556 เพื่อของบประมาณเพิ่มเติมให้วิทยาลัยสังกัด สอศ.นำไปใช้ในการจ้างครูจ้างสอนนักเรียน นักศึกษาในสังกัด รวมทั้งจะขอกรอบอัตรากำลังครูในสายอาชีวศึกษาเพิ่มเติมด้วย เพราะที่ผ่านมา สอศ.ประสบปัญหาขาดแคลนครูที่มีความเชี่ยวชาญในสายวิชาชีพอยู่พอสมควร และจะขอแปรญัตติเพื่อของบประมาณเพื่อจัดอบรมครูเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันครูบางคนยังไม่เข้าถึงเรื่องเทคโนโลยีซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเรียนการสอนในสายอาชีพ เช่น ครูอาชีวะจำนวนมากสอนเรื่องไฟฟ้าไม่ได้ ขณะที่ครูในสายอิเล็กทรอนิกส์หลายคนยังสอนเรื่องการซ่อมแซม หรือบำรุงรักษาทีวีจอแบนไม่ได้ ทั้งที่เป็นเทคโนโลยีที่ใช้มากในปัจจุบัน เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในภาพรวม พบว่า วิทยาลัยสังกัด สอศ.ทั้งหมด 415 แห่ง ทั้งประเภทวิทยาลัยสารพัดช่าง, วิทยาลัยการอาชีพ, วิทยาลัยเทคโนโลยี ต้องจ้างครูจ้างสอน ทั้งหมดประมาณ 8,936 คน ซึ่งต้องใช้งบประมาณ 1,608,480,000 บาทจึงจะเพียงต่อการจ้างครู ทั้งนี้ ที่ผ่านมา วิทยาลัยอาชีวะต่างๆ ได้พยายามแก้ปัญหาขาดแคลนครูด้วยการใช้ครูจ้างสอน โดยเจียดจ่ายงบประมาณจากเงินรายหัวเด็กมาใช้เพื่อจ้างครู ทั้งที่ถูกต้องงบประมาณดังกล่าวควรจะต้องนำไปใช้ในการจัดซื้อวัสดุ เครื่องมือ อุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให้คุ้มค่า แต่กลับต้องไปนำไปใช้จ้างครูแทน จึงเป็นเหตุผลให้หลายวิทยาลัยไม่มีวัสดุอุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัย นอกจากนั้น ยังพบว่า เด็กอาชีวะส่วนใหญ่เป็นเด็กยากจน และมาจากโรงเรียนขยายโอกาส ซึ่งแม้ สอศ.จะได้งบประมาณของเงินรายหัวมากกว่าสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยเหลือได้มากพอ เพราะเมื่อเด็กเข้าเรียนไปแล้วก็จะต้องซื้ออุปกรณ์เครื่องมือช่างประจำตัวเอง ตกคนละประมาณ 2,000 บาทซึ่งบางคนไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อทำให้เด็กจำนวนหนึ่งต้องออกกลางคัน ดังนั้น ตนจะเสนอขอแปรญัตติเพื่อของบประมาณให้เด็กไว้ใช้ซื้ออุปกรณ์ช่างประจำตัวด้วย
“ที่ผ่านมา สอศ.เคยของบประมาณปี 2556 เพื่อสนับสนุนเรื่องการจ้างครูและงบจัดซื้ออุปกรณ์ช่างประจำตัวให้กับวิทยาลัยอาชีวะแต่ไม่ได้รับการอนุมัติ ดังนั้น จึงจะขอแปรญัตติใหม่อีกครั้ง เพราะเห็นว่า ทั้ง 2 เรื่องเป็นปัญหาใหญ่จริง โดยเรื่องครูถ้าไม่ได้รับการแก้ไขก็จะกระทบการจัดการเรียนการสอนที่อาจจะไม่ได้คุณภาพเท่าที่ควร เพราะวิทยาลัยต้องดึงเงินรายหัวเด็กมาใช้ ขณะเดียวกัน ถ้าเด็กไม่มีอุปกรณ์ประจำตัวช่าง ก็จะไม่มีอุปกรณ์ใช้ หรือต้องไปยืมเพื่อนเรียนทำให้เรียนได้ไม่เต็มที่ บางคนอาจจะตัดสินใจออกกลางคัน”เลขาธิการ กอศ. กล่าวและว่า นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ปี 2558 สอศ.กำลังอยู่ระหว่างจัดทำแผนกรอบพัฒนาอัตรากำลังคนซึ่งจะมีแผนการพัฒนากำลังครูอาชีวศึกษาในภาพรวมอยู่ด้วยเนื่องจากในอีก 7-8 ปีข้างหน้า สอศ.เองจะเกิดปัญหาขาดแคลนครูอย่างหนักไม่น้อยไปกว่า สพฐ.เช่นกัน
