“ธีระชน” ชี้ เพื่อไทย ดูถูก ส.ก.พรรคเดียวกัน ผ่านกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้เคที มั่นใจในการตรวจสอบของทุกองค์กร ย้ำชัดๆ ทำเพื่อประโยชน์ของคนกรุงเทพฯ
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบ กทม.เรื่องมอบให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) ลงนามต่อสัญญาจ้างบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี เดินรถไฟฟ้าระยะเวลา 30 ปี ว่า เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นทางการเมืองเหมือนกรณีกล้องซีซีทีวี ทั้งที่การบริหารงานของ กทม.เมื่อเทียบกับรัฐบาลก็ไม่ต่างกัน เพราะ กทม.จ้างเคทีในกรณีพิเศษ ก็เหมือนรัฐบาลที่ดูแลหน่วยงานอื่นด้วยกรณีพิเศษเช่นกัน อาทิ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นอกจากนี้ ยังมีข้อบัญญัติทั้งหมดที่ออกมารองรับก็ผ่านการเห็นชอบจากสภา กทม. ซึ่งก็มีสมาชิกที่อยู่พรรคเพื่อไทย พิจารณาความเห็นชอบอยู่ด้วย เพราะหากไม่ออกข้อบัญญัติรองรับ กทม.ก็ถือว่าทำผิด ส่วนที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาชี้ว่า กทม.กำหนดข้อบัญญัติเพื่อเอื้อประโยชน์ให้เคทีนั้น ถือว่ากำลังดูถูก ส.ก.พรรคเพื่อไทย ด้วยกัน ที่ทำเพื่อประโยชน์ของคนกรุงเทพฯ
นายธีระชน กล่าวด้วยว่า กรณีที่ไม่เปิดให้เอกชนรายอื่นประมูลเดินรถนั้น เพราะเกรงว่าติดปัญหาอู่ซ่อมบำรุง ซึ่งเอกชนรายอื่นอาจสร้างไม่ทัน ทำให้การเดินรถสะดุด ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้ทางเคทีช่วยชี้แจง อย่างไรก็ตาม กทม.เตรียมสมุดปกขาวที่จะจัดทำชี้แจงกรณีดังกล่าว ประมาณ 1 แสนเล่ม โดยเนื้อหาจะมีข้อชี้แจงทุกคำถาม และข้อกฎหมายทั้งหมด แต่ต้องผ่านการพิจารณาจากผู้ว่าฯ กทม.ก่อน ซึ่งจะสามารถแจกจ่ายให้ทุกฝ่ายภายในเดือน พ.ค.นี้แน่นอน อย่างไรก็ตาม กทม.มีความมั่นใจในองค์กรตรวจสอบ ทุกอย่างที่ทำไป และขอยืนยันว่า ดำเนินการอยู่บนผลประโยชน์ของคนกรุงเทพฯ ถ้าไม่มั่นใจก็คงไม่เดินหน้า เหมือนเรื่องกล้องซีซีทีวี ที่หลายฝ่ายออกมาโจมตี สุดท้ายก็ไม่ได้เข้าข่ายความ
นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบ กทม.เรื่องมอบให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) ลงนามต่อสัญญาจ้างบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี เดินรถไฟฟ้าระยะเวลา 30 ปี ว่า เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นทางการเมืองเหมือนกรณีกล้องซีซีทีวี ทั้งที่การบริหารงานของ กทม.เมื่อเทียบกับรัฐบาลก็ไม่ต่างกัน เพราะ กทม.จ้างเคทีในกรณีพิเศษ ก็เหมือนรัฐบาลที่ดูแลหน่วยงานอื่นด้วยกรณีพิเศษเช่นกัน อาทิ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นอกจากนี้ ยังมีข้อบัญญัติทั้งหมดที่ออกมารองรับก็ผ่านการเห็นชอบจากสภา กทม. ซึ่งก็มีสมาชิกที่อยู่พรรคเพื่อไทย พิจารณาความเห็นชอบอยู่ด้วย เพราะหากไม่ออกข้อบัญญัติรองรับ กทม.ก็ถือว่าทำผิด ส่วนที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ออกมาชี้ว่า กทม.กำหนดข้อบัญญัติเพื่อเอื้อประโยชน์ให้เคทีนั้น ถือว่ากำลังดูถูก ส.ก.พรรคเพื่อไทย ด้วยกัน ที่ทำเพื่อประโยชน์ของคนกรุงเทพฯ
นายธีระชน กล่าวด้วยว่า กรณีที่ไม่เปิดให้เอกชนรายอื่นประมูลเดินรถนั้น เพราะเกรงว่าติดปัญหาอู่ซ่อมบำรุง ซึ่งเอกชนรายอื่นอาจสร้างไม่ทัน ทำให้การเดินรถสะดุด ซึ่งเรื่องนี้ต้องให้ทางเคทีช่วยชี้แจง อย่างไรก็ตาม กทม.เตรียมสมุดปกขาวที่จะจัดทำชี้แจงกรณีดังกล่าว ประมาณ 1 แสนเล่ม โดยเนื้อหาจะมีข้อชี้แจงทุกคำถาม และข้อกฎหมายทั้งหมด แต่ต้องผ่านการพิจารณาจากผู้ว่าฯ กทม.ก่อน ซึ่งจะสามารถแจกจ่ายให้ทุกฝ่ายภายในเดือน พ.ค.นี้แน่นอน อย่างไรก็ตาม กทม.มีความมั่นใจในองค์กรตรวจสอบ ทุกอย่างที่ทำไป และขอยืนยันว่า ดำเนินการอยู่บนผลประโยชน์ของคนกรุงเทพฯ ถ้าไม่มั่นใจก็คงไม่เดินหน้า เหมือนเรื่องกล้องซีซีทีวี ที่หลายฝ่ายออกมาโจมตี สุดท้ายก็ไม่ได้เข้าข่ายความ
