เครือข่ายต้านเหล้าออกแถลงการณ์เตือนสภากาชาด จัดงานสวนอัมพรปลอดน้ำเมา ระบุเป็นสถานที่ราชการต้องเคารพกฎหมาย เตรียมลงพื้นที่เก็บข้อมูล
วันนี้ (19 มี.ค.) ที่โรงแรมเอเชีย สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) จัดสัมมนา “ทิศทางการรณรงค์ด้านการควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” โดยมีภาคีเครือข่ายงดเหล้าจากทั่วประเทศ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อเฝ้าระวังปัญหาแอลกอฮอล์ เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ เครือข่ายเฝ้าระวังแอลกอฮอล์กรุงเทพ เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ มูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา มูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน และมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กว่า 100 รายเข้าร่วม
ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า การหารือร่วมกันในวันนี้ มีการพูดคุยประเด็นการจัดงานกาชาด ซึ่งที่ผ่านมาพื้นที่ต่างจังหวัดให้ความร่วมมือที่ดี ไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงาน โดยเฉพาะสถานที่ราชการ ซึ่งเป็นสถานที่ห้ามขายห้ามดื่ม ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 27 และ 31 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ที่น่าเป็นห่วงและสร้างความไม่สบายใจกับเครือข่ายฯ เป็นอย่างมาก คือพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะการจัดงานกาชาดเมื่อปีที่ผ่านมา จัดในสถานที่ราชการและเป็นพื้นที่เมืองหลวงของประเทศ มีการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดเจน และไม่มีการบังคับใช้กฎหมายกลายเป็นการเลือกปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“หากปล่อยให้มีการขายเหล้าในงานกาชาดสวนอัมพร ที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-7 เม.ย.นี้ จะเป็นการตอกย้ำ กลายเป็นการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนเห็นการขายและดื่มเหล้าเป็นเรื่องปกติ เพราะส่วนใหญ่คนที่เข้ามาเที่ยวเป็นเด็กและเยาวชน หรือมากันเป็นครอบครัว ซึ่งสุดท้ายแล้วจะทำให้งานกาชาดกลายเป็นการทำร้ายครอบครัว ทำร้ายเศรษฐกิจและสังคม เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ อาชญากรรม ซึ่งเป็นด้านที่ตรงกันข้ามกับการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ซึ่งเป็นอุดมการณ์ของสภากาชาดสากลโดยสิ้นเชิง” ภก.สงกรานต์กล่าว
ภก.สงกรานต์ กล่าวอีกว่า เพื่อให้สอดรับกับเจตนารมณ์ขององค์กรที่ช่วยเหลื่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ รวมทั้งให้เป็นงานกาชาดเป็นงานที่ปลอดภัย สร้างสำนึกที่ดีต่อเด็กและเยาวชนให้ห่างไกลจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครือข่ายองค์กรงดเหล้าทั่วประเทศและภาคีเครือข่าย จึงขอแสดงจุดยืนและเรียกร้อง ดังต่อไปนี้ 1. ขอให้สภากาชาดไทย ประกาศนโยบายกาชาดปลอดเหล้าทั่วประเทศให้ชัดเจน และตรวจสอบการฝ่าฝืนกฎหมายในปีที่ผ่านมา และดำเนินการมิให้มีการฝ่าฝืนกฎหมายในงานกาชาดสวนอัมพรที่จะมาถึงในเร็วๆ นี้อีก 2. ขอให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ดำเนินงานออกร้านในงานกาชาดสวนอัมพร ไม่มีการขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3. ในปีนี้เครือข่ายฯจะมีอาสาสมัครเข้าไปเฝ้าระวัง เก็บหลักฐาน และดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย เกิดบรรทัดฐานที่ถูกต้อง
ด้าน นายสุเทพ สดชื่น ผู้จัดการมูลนิธิสื่อเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ของเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ ในการจัดงานกาชาดที่สวนอัมพรเมื่อปีที่ผ่านมา พบว่ายังมีการขาย และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในงาน และประเด็นที่คาใจมากที่สุดคือ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานด้านการศึกษา กลับดำเนินกิจกรรมโดยปล่อยให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ไม่เหมาะสมในการละเมิดกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และในปีนี้เครือข่ายเยาวชนฯ จะเฝ้าระวังและจับตาเพื่อเก็บข้อมูล หากพบว่ามีการกระทำผิดภายในงานกาชาด เครือข่ายฯ จะแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีทันที
วันนี้ (19 มี.ค.) ที่โรงแรมเอเชีย สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) จัดสัมมนา “ทิศทางการรณรงค์ด้านการควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” โดยมีภาคีเครือข่ายงดเหล้าจากทั่วประเทศ เครือข่ายนักวิชาการเพื่อเฝ้าระวังปัญหาแอลกอฮอล์ เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ เครือข่ายเฝ้าระวังแอลกอฮอล์กรุงเทพ เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ มูลนิธิเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา มูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน และมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กว่า 100 รายเข้าร่วม
ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า การหารือร่วมกันในวันนี้ มีการพูดคุยประเด็นการจัดงานกาชาด ซึ่งที่ผ่านมาพื้นที่ต่างจังหวัดให้ความร่วมมือที่ดี ไม่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงาน โดยเฉพาะสถานที่ราชการ ซึ่งเป็นสถานที่ห้ามขายห้ามดื่ม ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 27 และ 31 มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ที่น่าเป็นห่วงและสร้างความไม่สบายใจกับเครือข่ายฯ เป็นอย่างมาก คือพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะการจัดงานกาชาดเมื่อปีที่ผ่านมา จัดในสถานที่ราชการและเป็นพื้นที่เมืองหลวงของประเทศ มีการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดเจน และไม่มีการบังคับใช้กฎหมายกลายเป็นการเลือกปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
“หากปล่อยให้มีการขายเหล้าในงานกาชาดสวนอัมพร ที่กำลังจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-7 เม.ย.นี้ จะเป็นการตอกย้ำ กลายเป็นการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนเห็นการขายและดื่มเหล้าเป็นเรื่องปกติ เพราะส่วนใหญ่คนที่เข้ามาเที่ยวเป็นเด็กและเยาวชน หรือมากันเป็นครอบครัว ซึ่งสุดท้ายแล้วจะทำให้งานกาชาดกลายเป็นการทำร้ายครอบครัว ทำร้ายเศรษฐกิจและสังคม เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ อาชญากรรม ซึ่งเป็นด้านที่ตรงกันข้ามกับการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ซึ่งเป็นอุดมการณ์ของสภากาชาดสากลโดยสิ้นเชิง” ภก.สงกรานต์กล่าว
ภก.สงกรานต์ กล่าวอีกว่า เพื่อให้สอดรับกับเจตนารมณ์ขององค์กรที่ช่วยเหลื่อชีวิตเพื่อนมนุษย์ รวมทั้งให้เป็นงานกาชาดเป็นงานที่ปลอดภัย สร้างสำนึกที่ดีต่อเด็กและเยาวชนให้ห่างไกลจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครือข่ายองค์กรงดเหล้าทั่วประเทศและภาคีเครือข่าย จึงขอแสดงจุดยืนและเรียกร้อง ดังต่อไปนี้ 1. ขอให้สภากาชาดไทย ประกาศนโยบายกาชาดปลอดเหล้าทั่วประเทศให้ชัดเจน และตรวจสอบการฝ่าฝืนกฎหมายในปีที่ผ่านมา และดำเนินการมิให้มีการฝ่าฝืนกฎหมายในงานกาชาดสวนอัมพรที่จะมาถึงในเร็วๆ นี้อีก 2. ขอให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่ดำเนินงานออกร้านในงานกาชาดสวนอัมพร ไม่มีการขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 3. ในปีนี้เครือข่ายฯจะมีอาสาสมัครเข้าไปเฝ้าระวัง เก็บหลักฐาน และดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย เกิดบรรทัดฐานที่ถูกต้อง
ด้าน นายสุเทพ สดชื่น ผู้จัดการมูลนิธิสื่อเพื่อนเยาวชนเพื่อการพัฒนา กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ของเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ ในการจัดงานกาชาดที่สวนอัมพรเมื่อปีที่ผ่านมา พบว่ายังมีการขาย และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในงาน และประเด็นที่คาใจมากที่สุดคือ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานด้านการศึกษา กลับดำเนินกิจกรรมโดยปล่อยให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นแบบอย่างที่ไม่เหมาะสมในการละเมิดกฎหมาย พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และในปีนี้เครือข่ายเยาวชนฯ จะเฝ้าระวังและจับตาเพื่อเก็บข้อมูล หากพบว่ามีการกระทำผิดภายในงานกาชาด เครือข่ายฯ จะแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีทันที
