xs
xsm
sm
md
lg

ศวส.อ้อน งานกาชาดปลอดเหล้าเบียร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โพลล์ชี้ชาวอยุธยาไม่อยากเห็นเหล้าเบียร์ในงานกาชาด นักท่องเที่ยวไทยเทศบอกไม่มีเหล้าเบียร์ทำให้น่าเที่ยวขึ้น ชี้ไม่ได้มาอยุธยาเพื่อดื่ม ร้องผู้ว่าฯจัดการไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ขณะที่ “ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา” แนะสธ.จับตางานกาชาดสวนอัมพร 30มี.ค.-7 เม.ย.นี้

วันนี้ (18 มี.ค.) นายวิทยา วิสูตรเรืองเดช อาจารย์คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 2-4 มี.ค.ที่ผ่านมา ทางมหาวิทยาลัยได้ร่วมกับศูนย์วิจัยปัญหาสุรา(ศวส.) สำรวจความคิดเห็นของประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 792 ราย และ นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ 200 ราย ต่อการห้ามจำหน่ายและดื่มเหล้าเบียร์ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการมีกรณีการขายเหล้าเบียร์ในงานอยุธยามรดกโลกและงานกาชาด ที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาในเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาซึ่งเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551

ผลการสำรวจพบว่า ประชาชนชาวอยุธยา 83 % เห็นว่าการขายและดื่มเหล้าเบียร์ในงานทำให้ก่อปัญหาความวุ่นวาย อุบัติเหตุ ทะเลาะวิวาท และปัญหาสิ่งแวดล้อม 87% เห็นว่าการขายและดื่มเหล้าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และ 82% สนับสนุนมาตรการการห้ามขายและห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงาน นอกจากนั้นกว่า 2ใน3ของประชาชนในจังหวัดไม่เห็นด้วยกับการที่อุตสาหกรรมสุราเข้ามาเป็นเจ้าภาพร่วมในงานของจังหวัด โดยผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นบุคคลมี่กลุ่มตัวอย่างนึกถึงมากที่สุดในการควบคุมปัญหาการขายเหล้าเบียร์ในงาน และในส่วนของนักท่องเที่ยวนั้น ยังพบว่า นักท่องเที่ยวชาวไทย 93% เห็นว่าห้ามการขายการดื่มในเขตจะทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินมากขึ้น และนักท่องเที่ยวต่างชาติ76% คิดว่า การขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานทำให้เกิดความวุ่นวายและบดบังทัศนียภาพของแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติประมาณ 80 % สนับสนุนการห้ามขายห้ามดื่ม และเกือบทั้งหมดยืนยันว่า ไม่ได้มาเที่ยวอยุธยาเพราะต้องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ด้าน น.ส. วีรนุช ว่องวรรธนะกุล นักวิจัยศูนย์วิจัยปัญหาสุรา(ศวส.) กล่าวเสริมว่า ผลสำรวจดังกล่าวช่วยย้ำให้เห็นว่าทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยว ต่างกังวลต่อปัญหาแอลกอฮอล์ในงานที่เป็นหน้าตาของจังหวัดและประเทศ ดังนั้น กรณีอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มาเพื่อชื่นชมศิลปวัฒนธรรม ซึ่งต่างจากนักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวพัทยา หรือพัฒน์พงศ์แน่นอน จึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะให้น้ำเมามาสร้างปัญหา และลดคุณค่ามรดกโลกแห่งนี้ ขณะเดียวกันยังมีงานวิจัยจากต่างประเทศที่บ่งชี้ว่า การบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย จะส่งผลดีต่อความยั่งยืนของแหล่งท่องเที่ยว และอาจเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวที่คุณภาพดีให้กับแหล่งท่องเที่ยวได้ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องควรถือปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

“ศูนย์วิจัยปัญหาสุรามีความเป็นห่วงพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะระหว่างวันที่ 30 มี.ค. ถึง วันที่ 7 เม.ย. 2555 จะมีการจัดงานกาชาดประจำปี 2555 ขึ้นที่บริเวณสวนอัมพร จึงเป็นไปได้สูงที่ผู้ประกอบการจะนำเหล้า เบียร์มาจำหน่ายในงาน ซึ่งเป็นสถานที่ราชการ และขัดแย้งกับวัตถุประสงค์ของกาชาดสากล โดยเฉพาะส่วนกลางควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้ทุกจังหวัด และป้องกันปัญหาจะเกิดขึ้นตามมามากมาย ดังนั้นจึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งทำความเข้าใจกฎหมายกับหน่วยงานที่จัด โดยเฉพาะสภากาชาดไทย ควรให้นโยบายการจัดงานกาชาดปลอดน้ำเมาที่ชัดเจน และขอให้กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจสอบการกระทำผิดกฎหมาย ตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ภายในงานนี้ด้วย เพื่อไม่ให้เกิดการเลือกปฏิบัติระหว่างพื้นที่ กทม. และต่างจังหวัด” น.ส.วีรนุช กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น