อุบลราชธานี-การค้าชายแดนเมืองอุบลฯ เริ่มคึกคักรับบรรยากาศเทศกาลปีใหม่ โดยชายแดนด้านกัมพูชาเปิดเป็นจุดผ่อนปรนค้าขายยาวตลอดสัปดาห์ แทนการเปิดสัปดาห์ละ 2 วัน นักท่องเที่ยวเริ่มสนใจพากันไปท่องเที่ยวดูบรรยากาศ เพราะไม่มีความตึงเครียดของทหารทั้งสองฝ่าย ส่วนชายแดนด้านลาวสุดคึกคัก นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติแห่ข้ามแดน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองต้องเพิ่มกำลังอำนวยความสะดวก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ บรรยากาศการค้าขายที่พรมแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องอานม้า บ้านน้ำยืน ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กับบ้านสะเตียลกวาง อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร กัมพูชา เริ่มมีนักท่องเที่ยวแวะเข้าไปเที่ยวพร้อมทั้งซื้อสินค้าหนาตามากขึ้น โดยสินค้าที่พ่อค้าแม่ค้าไทยนำไปขายอยู่ในกลุ่มสิ่งของเครื่องใช้ประจำวัน และอาหาร ส่วนฝั่งกัมพูชาเป็นของใช้ฟุ่มเฟือย เช่น น้ำหอม บุหรี่ และอาหารที่ได้จากเนื้อสัตว์ป่า ซึ่งต้องทำกินในฝั่งประเทศกัมพูชา ไม่สามารถนำเข้ามาในประเทศไทยได้
อย่างไรก็ตาม มูลค่าการค้าบริเวณด่านพรมแดนด้านนี้ ยังมีจำนวนน้อย เนื่องจากในอดีตเมื่อมีการเปิดเป็นจุดผ่อนปรนค้าขายชายแดนในปี 2539 กำหนดเปิดเฉพาะวันอังคารและพฤหัสบดี และเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา นายอัม มาลา ผู้ว่าราชการจังหวัดพระวิหาร ได้พบหารือกับนายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ตกลงเพิ่มจำนวนการเปิดจุดผ่านแดนช่องอานม้าเต็มตลอดสัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าทั้งสองฝ่าย รวมทั้งนักท่องเที่ยวยังไม่ทราบข้อมูล มูลค่าการค้าจึงยังไม่มากนัก เฉลี่ยวันละไม่ถึง 10,000 บาท แต่เชื่อว่าแนวโน้มสถานการณ์การค้าที่ช่องอานม้า หากไม่มีอุปสรรคด้านการปะทะของทั้ง 2 ฝ่าย น่าจะพัฒนาการค้าให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น เพราะที่จุดผ่านแดนแห่งนี้ ไม่มีภาพการเผชิญหน้าของทหารทั้ง 2 ฝ่าย
ขณะเดียวกันที่ด่านผ่านแดนสากลไทย-ลาว ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี พ.ต.ท.อนุสรณ์ นุชนนท์ สารวัตรสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค. ที่ผ่านมาได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เดินทางผ่านแดนไปท่องเที่ยวจากเดิมวันละ 1,600-1,700 คน เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว โดยทั้งหมดเดินทางเป็นกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่ และเป็นครอบครัวเดินทางด้วยรถยนต์
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจึงเปิดช่องทางตรวจเอกสารให้นักท่องเที่ยวจากปกติวันละ 2 ช่องเป็น 4 ช่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักเดินทางไม่ต้องรอคิวตรวจเอกสารผ่านแดนเป็นเวลานาน สำหรับช่วงฉลองส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่นี้ ทางสำนักงานฯ จะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกอีกเท่าตัว
ส่วนบรรยากาศการค้าขายที่ตลาดพรมแดนไทย-ลาว ช่องเม็ก ซึ่งเคยซบเซาก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยพ่อค้าแม่ค้าฝั่งไทยกล่าวว่า สินค้าที่ขายดีคือ กลุ่มเสื้อผ้าใช้สวมใส่กันหนาว เนื่องจากพื้นที่ทั้งสองประเทศมีอากาศเย็นถึงหนาว คนลาวพาครอบครัวข้ามแดนมาซื้อ ทำให้ยอดการค้าจากเดิมวันละ 4,000-5,000 บาทเป็นวันละกว่า 10,000 บาทต่อราย และวันหยุดจะมีลูกค้าชาวลาวเข้ามาอุดหนุนหนาแน่นกว่าปกติ ทำให้มีเงินสะพัดผ่านชายแดนด้านนี้วันละกว่า 3 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังพ้นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวปีใหม่ไปแล้ว บรรยากาศการค้าที่ชายแดนไทย-ลาวช่องเม็ก อาจจะไม่คึกคักมากนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ บรรยากาศการค้าขายที่พรมแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องอานม้า บ้านน้ำยืน ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กับบ้านสะเตียลกวาง อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร กัมพูชา เริ่มมีนักท่องเที่ยวแวะเข้าไปเที่ยวพร้อมทั้งซื้อสินค้าหนาตามากขึ้น โดยสินค้าที่พ่อค้าแม่ค้าไทยนำไปขายอยู่ในกลุ่มสิ่งของเครื่องใช้ประจำวัน และอาหาร ส่วนฝั่งกัมพูชาเป็นของใช้ฟุ่มเฟือย เช่น น้ำหอม บุหรี่ และอาหารที่ได้จากเนื้อสัตว์ป่า ซึ่งต้องทำกินในฝั่งประเทศกัมพูชา ไม่สามารถนำเข้ามาในประเทศไทยได้
อย่างไรก็ตาม มูลค่าการค้าบริเวณด่านพรมแดนด้านนี้ ยังมีจำนวนน้อย เนื่องจากในอดีตเมื่อมีการเปิดเป็นจุดผ่อนปรนค้าขายชายแดนในปี 2539 กำหนดเปิดเฉพาะวันอังคารและพฤหัสบดี และเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา นายอัม มาลา ผู้ว่าราชการจังหวัดพระวิหาร ได้พบหารือกับนายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ตกลงเพิ่มจำนวนการเปิดจุดผ่านแดนช่องอานม้าเต็มตลอดสัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าทั้งสองฝ่าย รวมทั้งนักท่องเที่ยวยังไม่ทราบข้อมูล มูลค่าการค้าจึงยังไม่มากนัก เฉลี่ยวันละไม่ถึง 10,000 บาท แต่เชื่อว่าแนวโน้มสถานการณ์การค้าที่ช่องอานม้า หากไม่มีอุปสรรคด้านการปะทะของทั้ง 2 ฝ่าย น่าจะพัฒนาการค้าให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น เพราะที่จุดผ่านแดนแห่งนี้ ไม่มีภาพการเผชิญหน้าของทหารทั้ง 2 ฝ่าย
ขณะเดียวกันที่ด่านผ่านแดนสากลไทย-ลาว ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี พ.ต.ท.อนุสรณ์ นุชนนท์ สารวัตรสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นเดือนธ.ค. ที่ผ่านมาได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เดินทางผ่านแดนไปท่องเที่ยวจากเดิมวันละ 1,600-1,700 คน เพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว โดยทั้งหมดเดินทางเป็นกรุ๊ปทัวร์ขนาดใหญ่ และเป็นครอบครัวเดินทางด้วยรถยนต์
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจึงเปิดช่องทางตรวจเอกสารให้นักท่องเที่ยวจากปกติวันละ 2 ช่องเป็น 4 ช่อง เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักเดินทางไม่ต้องรอคิวตรวจเอกสารผ่านแดนเป็นเวลานาน สำหรับช่วงฉลองส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่นี้ ทางสำนักงานฯ จะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกอีกเท่าตัว
ส่วนบรรยากาศการค้าขายที่ตลาดพรมแดนไทย-ลาว ช่องเม็ก ซึ่งเคยซบเซาก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยพ่อค้าแม่ค้าฝั่งไทยกล่าวว่า สินค้าที่ขายดีคือ กลุ่มเสื้อผ้าใช้สวมใส่กันหนาว เนื่องจากพื้นที่ทั้งสองประเทศมีอากาศเย็นถึงหนาว คนลาวพาครอบครัวข้ามแดนมาซื้อ ทำให้ยอดการค้าจากเดิมวันละ 4,000-5,000 บาทเป็นวันละกว่า 10,000 บาทต่อราย และวันหยุดจะมีลูกค้าชาวลาวเข้ามาอุดหนุนหนาแน่นกว่าปกติ ทำให้มีเงินสะพัดผ่านชายแดนด้านนี้วันละกว่า 3 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังพ้นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวปีใหม่ไปแล้ว บรรยากาศการค้าที่ชายแดนไทย-ลาวช่องเม็ก อาจจะไม่คึกคักมากนัก
