ผู้จัดการ สคล.โอด การทำงานของ คกก.คุมเหล้า ยังเงียบ กรณีการออกประกาศ “ใบอนุญาต” ขายเหล้ารอบสถานศึกษา หวั่นธุรกิจโตขึ้นสร้างนักดื่มหน้าใหม่-สร้างภาระสังคม ชี้ ปลื้มประชุมนโยบายเหล้าโลก ตรงวันเกิด 4 ขวบ พ.ร.บ.เหล้าฯ วอนเดินหน้าทั้งภาคปฏิบัติ-วิชาการ
วันนี้ (14 ก.พ.) นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ให้สัมภาษณ์ในงานประชุมนโยบายแอลกอฮอล์ระดับโลก (Global Alcohol Policy Conference: GAPC) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-15 ก.พ.2555 ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานีว่า การประชุมครั้งนี้ตรงกับวันครบรอบ 4 ปี พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล พ.ศ.2551 พอดี แม้ในเชิงวิชาการจะมีการร่วมมือระดับโลกในด้านการประชุมความร่วมมือในเรื่องยุทธศาสตร์หลายอย่าง แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ประเทศไทยยังมีข้อบกพร่องในเรื่องของการเดินหน้านโยบายอยู่ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ การเร่งออกประกาศเพิ่มเติมในเรื่องการออกใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รอบสถานศึกษา โดยหลักการสำคัญ คือ หากร้านจำหน่ายใดทำผิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น จำหน่ายให้เยาวชนต่ำกว่า 18 ปี หรือจำหน่ายเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ก็จะยึดใบอนุญาต ทันที และไม่มีการออกใบอนุญาตซ้ำแก่ร้านเดิมเพื่อเป็นการเดินหน้ากฎหมายด้านการควบคุมที่เคร่งครัด
หลังจากที่การสำรวจจากเครือข่าย ของ สคล.เมื่อปีที่ผ่านมา พบว่า มีร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เติบโตขึ้นมากถึง 10% ซึ่งหากไม่มีการควบคุมอย่างเหมาะสม นักดื่มหน้าใหม่ก็จะเกิดขึ้นเรื่อยๆ และสุดท้ายปัญหาทางสังคมจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า ซึ่งที่ผ่านมาเป็นที่ทราบกันดีว่า ปัญหาส่วนมากในสังคมไทย เช่น อาชญากรรม การทะเลาะวิวาท การตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์ ฯลฯ มีสาเหตุมาจากเครื่องดื่มแอลกฮอล์ถึง 50% ดังนั้น คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ จึงไม่ควรนิ่งเฉย ซึ่งที่ผ่านมาทางภาคประชาชนมีการยื่นหนังสือถึง รัฐมนตรีสาธารณสุข (สธ.) และสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้มีการสนับสนุนเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องแต่จนบัดนี้ เรื่องก็ยังเงียบ
“อาจจะมีการขับเคลื่อนอีกครั้งในเร็วๆ นี้ ซึ่งขณะเดียวกัน ก็จะมีการผลักดันในเรื่องการมีส่วนแบ่งค่าปรับแก่เจ้าหน้าที่และเจ้าพนักงานที่สามารถบังคับใช้กฎหมายในการกระทำผิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้วย เช่น ค่าปรับ 1,000 บาท ก็อาจแบ่งค่าปรับแก่ผู้ที่บังคับใช้กฎหมายประมาณ 200 บาท รวมทั้งการเดินหน้ามาตรการมอบอำนาจแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ให้เป็นคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับภูมิภาคด้วย เพื่อจะได้เฝ้าระวังการกระทำผิด พ.ร.บ.และป้องกันการจัดคอนเสิร์ต พ่วงการจำหน่ายเหล้า เบียร์ได้ง่ายขึ้น” นายธีระกล่าว