“เครือข่ายงดเหล้า” ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง มท.1 หนุนมาตรการคุมน้ำเมา ลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ แนะผู้ว่าฯทั่วประเทศเข้ม พ.ร.บ.สุรา จี้งดออกใบอนุญาตขายเหล้าชั่วคราว พร้อมจับตาเฝ้าระวังงานกาชาดปลอดเหล้า
วันนี้ (11 ธ.ค.) นายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) กล่าวว่า ทางเครือข่ายฯได้ทำจดหมายเปิดผนึกไปยัง นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เพื่อสนับสนุนมติของ ศปถ.ที่ออกมาตรการพิเศษในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ใกล้เข้ามาถึงนี้ โดยเฉพาะมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะมีการบังคับใช้ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และพ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 อย่างเข้มงวด รวมไปถึงการจัดงานกาชาด และงานประจำปีที่ส่วนราชการและท้องถิ่นเป็นผู้จัด
นายธีระกล่าวว่า ทั้งนี้เพื่อให้มาตรการดังกล่าวเชื่อมโยงกันและเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เครือข่ายงดเหล้าทั่วประเทศ ขอเสนอมาตรการเพิ่มเติมเพื่อควบคุมปัญหาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และลดอุบัติเหตุทางถนน ในเทศกาลปีใหม่ 2555 ดังนี้ 1.การจัดงานกาชาดช่วงปีใหม่ จะมีทั้งหมด 14 จังหวัด ซึ่งเครือข่ายฯ พร้อมที่จะดำเนินการเก็บข้อมูลการกระทำผิดและเฝ้าระวังปัญหาที่เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อเสนอกระทรวงมหาดไทยต่อไป 2.ขอให้กระทรวงมหาดไทยกำชับทุกจังหวัดให้เข้มงวดการจัดงานกาชาดปลอดเหล้า ซึ่งในปีที่ผ่านมาพบว่ามีมากกว่า 44 จังหวัดที่ให้ความร่วมมือโดยประกาศการจัดงานกาชาดปลอดเหล้า รวมถึงปฏิเสธที่จะไม่รับการสนับสนุนจากธุรกิจแอลกอฮอล์ เนื่องจากปัญหาผลกระทบต่างๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน ในขณะเดียวกัน ภาพลักษณ์งานกาชาดก็มีแนวโน้มที่ดีขึ้น อีกทั้งยังสอดคล้องกับหลักการกาชาดสากลอีกด้วย
ผู้จัดการ สคล.กล่าวอีกว่า สำหรับข้อ 3.กรณีการจัดงานงานเคาท์ดาวน์ (Countdown 2011) ซึ่งท้องถิ่น หรือภาคเอกชนเป็นเจ้าภาพจัดงาน ขณะนี้มี 2 แห่งที่ประกาศจัดงานไร้แอลกอฮอล์ คือ จังหวัดสงขลา และจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งนับว่าเป็นพื้นที่ตัวอย่างที่ ศปถ. และกระทรวงมหาดไทยจะได้ใช้ในการขยายผลต่อไป และ 4.สั่งการไปยังผู้ว่าราชการทุกจังหวัดพิจารณาบังคับใช้ พ.ร.บ.สุรา พ.ศ. 2493 อย่างเข้มงวด หรือสั่งการไม่ให้มีการออกใบอนุญาตขายสุราแบบชั่วคราวไม่เกิน 10 วัน ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เนื่องจากผลของการออกใบอนุญาตดังกล่าวเป็นการเพิ่มจำนวนสถานที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากเดิมที่มีจำนวนมากอยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็นการขายที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และยากต่อการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากเป็นการขายแบบชั่วคราว ทำให้เพิ่มภาระและเสี่ยงต่อปัญหาต่างๆ ที่จะตามมา
“เครือข่ายฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อเสนอเพิ่มเติมดังกล่าว จะได้รับการพิจารณา และในโอกาสนี้ต้องขอขอบคุณ ศปถ. และกระทรวงมหาดไทย ที่ได้ให้ความสำคัญกับการใช้มาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นมาตรการพิเศษ อย่างไรก็ตาม เครือข่ายฯ จะร่วมเฝ้าระวังและติดตามนโยบายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ และการและการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานกาชาดต่างๆ เพื่อให้นโยบายดังกล่าวมีผลในทางปฏิบัติและเกิดประโยชน์ในการแก้ปัญหาอย่างแท้จริง” นายธีระ กล่าว
