ศูนย์วิจัยปัญหาสุราสะท้อนข้อมูลรับวันเด็กแห่งชาติ เผยวัยโจ๋ต่ำกว่า 20 ปี หาซื้อเหล้าได้สำเร็จเกือบ 100% ชี้ทั้งร้านชำ-ร้านสะดวกซื้อ ห้างใหญ่ ไม่สนกฎหมาย ปล่อยเด็กซื้อได้ตามสบาย อึ้งโดนตรวจบัตรไม่ถึง 1% ขณะที่ร้านค้าระบุรู้ว่าผิดแต่ก็ยังขายเพราะไม่มีการบังคับใช้กฎหมาย
วันนี้ (9 ม.ค.) นางอารีกุล พวงสุวรรณ นักวิจัยศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) เปิดเผยผลการสำรวจเพื่อสะท้อนข้อมูลต้อนรับวันเด็กแห่งชาติประจำปี2555 ในการศึกษา “โครงการการปฏิบัติตามกฎหมายของร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกี่ยวกับข้อจำกัดด้านอายุของผู้ซื้อ” ซึ่งทำการทดลองในช่วงปลายปี 2554 ที่ผ่านมาโดยให้เยาวชนอายุต่ำกว่าเกณฑ์ที่ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 2551 กำหนด (อายุต่ำกว่า 20 ปี) ทั้งเพศชายและหญิง ที่มีหน้าตาสมวัยและการแต่งกายเป็นวัยรุ่น เข้าไปขอซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากร้านที่จำหน่ายสุราใน 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ สุรินทร์ สงขลา และนครสวรรค์ จำนวนรวม 417 ร้าน ทำการซื้อร้านละ 2 ครั้ง โดยเปลี่ยนเวลาและเพศของผู้เข้าขอซื้อ และผลการศึกษาพบว่า เด็กมีโอกาสซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้สำเร็จถึง 98.7% ทั้งในร้านขายของชำ โชวห่วย ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ดิสเคานต์สโตร์ และ 94% ไม่พบอุปสรรคใดๆในการซื้อ ทั้งเรื่องสอบถามอายุ หรือการสอบถามเหตุผลของการซื้อ โดยโอกาสถูกสอบถามอายุและโอกาสถูกตรวจบัตรประชาชน มีน้อยกว่า 1% นอกจากนี้ยังพบว่าร้านค้าประมาณ 1 ใน 3 เท่านั้นที่มีการติดประกาศว่าจะไม่ขายสุราให้แก่เด็ก หรือจะไม่ขายนอกเวลาที่กำหนด
“จากข้อมูลที่พบทำให้ทราบว่า เด็กไทยหาซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ง่ายมาก ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน ซึ่งโอกาสซื้อได้สำเร็จไม่แตกต่างกัน และง่ายในการซื้อจากร้านค้าสุราทุกประเภท รวมถึงร้านสะดวกซื้อและห้างใหญ่ๆ ซึ่งหลายฝ่ายเคยเข้าใจว่าปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้การติดประกาศคำเตือนแทบไม่มีผลอะไร ต่อการซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเด็ก เพราะเกือบทั้งหมดของร้านค้าที่มีการติดประกาศ เมื่อเด็กเข้าไปซื้อจะไม่มีการสอบถามอายุ และตรวจบัตรประชาชน ดังนั้น ผลสำรวจในครั้งนี้จึงแสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอในการบังคับใช้กฎหมายจำกัดอายุ ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยอื่นๆ ที่พบว่า นักดื่มที่เป็นเด็กสามารถซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ด้วยตนเองได้ไม่ยาก และร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกือบทั้งหมดทราบดีว่าการขายให้กับเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี เป็นความผิดทางกฎหมาย แต่ร้านค้าส่วนใหญ่กลับตัดสินใจขายให้กับเด็กเพราะรู้ว่ามีโอกาสน้อยที่จะถูกดำเนินคดี จึงอยากเรียกร้องให้ผู้ปกครอง และสังคมช่วยกันเป็นหูเป็นตา และแจ้งเจ้าหน้าที่ด้วย เพื่ออนาคตลูกหลานของเรา” นางอารีกุลกล่าว
ด้าน นพ.ทักษพล ธรรมรังสี ผู้อำนวยการ ศวส.กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อมูลที่น่าตกใจจากการศึกษานี้ตอกย้ำให้เห็นถึงความจำเป็นที่หน่วยงานผู้บังคับใช้กฎหมายจะจริงจังกับการบังคับใช้ ทั้งกรมสรรพสามิต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงสาธารณสุข ในการปกป้องเด็กไทยซึ่งเป็นอนาคตของชาติ มาตรการการจำกัดอายุผู้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่สำคัญที่สุดในการป้องกันการดื่มของเยาวชนและปัญหาสังคมในระยะยาว ดังนั้น กฎหมายที่มีอยู่จะไม่มีผลอะไรเลย หากไม่มีการนำไปบังคับใช้ อาจจะต้องถึงเวลาที่กำหนดกลไกในการบังคับใช้กฎหมาย เช่นในต่างประเทศมีแผนการล่อซื้ออย่างจริงจัง หรือการให้ผู้ขายต้องร่วมรับผิดหากลูกค้าที่เป็นเด็กไปก่อเหตุเกิดความเสียหายหลังดื่มสุรา นอกจากนี้ การควบคุมปัญหาจากการดื่มของเยาวชน จะเป็นประเด็นหลักในการประชุมวิชาการนโยบายแอลกอฮอล์ระดับโลก หรือ Global Alcohol Policy Conference ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในวันที่ 13-15 กุมภาพันธ์นี้