สปส.เดินหน้าปรับร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคมฉบับใหม่ เล็งเพิ่มสิทธิ์จ้างงาน ช่วยแรงงานประสบภัยพิบัติในอนาคต ลดเงินสมทบเฉพาะพื้นที่ประสบภัย
นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า ตามที่ร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคม ฉบับที่.... ซึ่งผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรชุดที่แล้ว แต่ไม่ผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาจนร่าง พ.ร.บ.นี้ตกไป เนื่องจากเปลี่ยนรัฐบาล ดังนั้น กระทรวงแรงงานจะนำร่าง พ.ร.บ.ฉบับเดิมมาปรับปรุงและเพิ่มเติมเนื้อหาบางส่วน โดยเฉพาะในประเด็นการเพิ่มสิทธิประโยชน์ ให้ผู้ประกันตนมากขึ้น เช่น การให้มีกองทุนประกันการจ้างงาน ควบคู่ไปกับกองทุนประกันว่างงานที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน
นพ.สมเกียรติ กล่าวว่า เนื่องจากมองว่า กองทุนว่างงานเดิมยังไม่ครอบคลุมการช่วยเหลือผู้ประกันตนอย่างครบวงจร เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ หากจะแก้ปัญหาทั้งระบบควรจะเพิ่มสิทธิประโยชน์ในเรื่องประกันการจ้างงานเข้าไปด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้ประกันตนมีงานทำทั้งในช่วงภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน เช่น การเกิดอุทกภัย หรือภัยพิบัติต่างๆ อย่างไรก็ตาม ในประเด็นดังกล่าวยังจะต้องให้มีการตกผลึกมากกว่านี้ ทั้งนี้ ต้องเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาทำประชาพิจารณ์ เพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง
“จากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นและมีผู้ประกันตนได้รับความเดือดร้อน แต่ สปส.ไม่สามารถนำเงินกองทุนประกันว่างงานมาช่วยเหลือได้อย่างเต็มที่ เพราะมีเงื่อนไขว่าเงินก้อนนี้ซึ่งมีอยู่ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท จะนำมาใช้ได้ก็ต่อเมื่อแรงงานต้องตกงานเท่านั้น ส่วนกรณีที่หยุดงานชั่วคราวไม่สามารถนำเงินออกมาช่วยเหลือได้ แต่หากเพิ่มสิทธิประโยชน์ประกันการจ้างงานเข้าไป สปส.ก็จะสามารถนำเงินไปช่วยเหลือแรงงานในกรณีหยุดงานชั่วคราวในยามฉุกเฉินได้” ปลัดแรงงาน กล่าว
ด้านนายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการ สปส.กล่าวว่า ขณะนี้ สปส.ร่าง พ.ร.บ.ที่ค้างอยู่ที่สภาผู้แทนราษฎร 2 ฉบับ คือ ร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคม ฉบับที่....และร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินทดแทน ซึ่งได้หารือกับผู้บริหารประกันสังคมก็ได้ข้อสรุปว่า ควรจะต้องมีการปรับเนื้อหาเน้นให้ผู้ประกันตนเข้าถึงสิทธิได้มากขึ้น โดยเฉพาะกรณีการปรับลดเงินสมทบให้สามารถเลือกเฉพาะพื้นที่ประสบอุทกภัย หรือเกิดภัยพิบัติได้ ไม่จำเป็นต้องลดทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งจะไม่ให้กระทบกับเงินในกองทุนมากนัก
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีข้อร้องเรียนของผู้ประกันตนจำนวนมาก ที่ระบุว่า สายด่วน 1506 ของสปส.ไม่ตอบสนองในเรื่องข้อมูล และติดต่อยากไม่มีเจ้าหน้าที่รับสาย นพ.สมเกียรติ กล่าวว่า กรณีสายด่วน 1506 ของ สปส.เป็นการให้บริษัทเอกชนมารับเหมาไปดำเนินการ ซึ่งในสัญญาว่าจ้างได้มีการระบุไว้อย่างชัดเจนให้ทางบริษัทต้องจัดเจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ให้เพียงพอ และการให้ข้อมูลแก่ผู้ประกันตนจะต้องมีความทันสมัยอยู่เสมอ โดยสปส.จะเป็นผู้คอยป้อนข้อมูลให้แก่บริษัทเอกชน ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่าเป็นข้อบกพร่องของบริษัทเอกชน และมีการทำผิดสัญญาก็จะยกเลิกสัญญา และเปิดให้บริษัทอื่นที่มีศักยภาพมาดำเนินการแทน แต่หากพบว่ามีปัญหาเรื่องข้อมูลไม่ทันสมัย ก็ถือเป็นความบกพร่องของสปส.เอง ซึ่งจะต้องไปตักเตือนผู้ที่รับผิดชอบ
นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยว่า ตามที่ร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคม ฉบับที่.... ซึ่งผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรชุดที่แล้ว แต่ไม่ผ่านการพิจารณาของวุฒิสภาจนร่าง พ.ร.บ.นี้ตกไป เนื่องจากเปลี่ยนรัฐบาล ดังนั้น กระทรวงแรงงานจะนำร่าง พ.ร.บ.ฉบับเดิมมาปรับปรุงและเพิ่มเติมเนื้อหาบางส่วน โดยเฉพาะในประเด็นการเพิ่มสิทธิประโยชน์ ให้ผู้ประกันตนมากขึ้น เช่น การให้มีกองทุนประกันการจ้างงาน ควบคู่ไปกับกองทุนประกันว่างงานที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน
นพ.สมเกียรติ กล่าวว่า เนื่องจากมองว่า กองทุนว่างงานเดิมยังไม่ครอบคลุมการช่วยเหลือผู้ประกันตนอย่างครบวงจร เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ หากจะแก้ปัญหาทั้งระบบควรจะเพิ่มสิทธิประโยชน์ในเรื่องประกันการจ้างงานเข้าไปด้วย ซึ่งจะทำให้ผู้ประกันตนมีงานทำทั้งในช่วงภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน เช่น การเกิดอุทกภัย หรือภัยพิบัติต่างๆ อย่างไรก็ตาม ในประเด็นดังกล่าวยังจะต้องให้มีการตกผลึกมากกว่านี้ ทั้งนี้ ต้องเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาทำประชาพิจารณ์ เพื่อหาข้อสรุปอีกครั้ง
“จากปัญหาอุทกภัยที่เกิดขึ้นและมีผู้ประกันตนได้รับความเดือดร้อน แต่ สปส.ไม่สามารถนำเงินกองทุนประกันว่างงานมาช่วยเหลือได้อย่างเต็มที่ เพราะมีเงื่อนไขว่าเงินก้อนนี้ซึ่งมีอยู่ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท จะนำมาใช้ได้ก็ต่อเมื่อแรงงานต้องตกงานเท่านั้น ส่วนกรณีที่หยุดงานชั่วคราวไม่สามารถนำเงินออกมาช่วยเหลือได้ แต่หากเพิ่มสิทธิประโยชน์ประกันการจ้างงานเข้าไป สปส.ก็จะสามารถนำเงินไปช่วยเหลือแรงงานในกรณีหยุดงานชั่วคราวในยามฉุกเฉินได้” ปลัดแรงงาน กล่าว
ด้านนายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการ สปส.กล่าวว่า ขณะนี้ สปส.ร่าง พ.ร.บ.ที่ค้างอยู่ที่สภาผู้แทนราษฎร 2 ฉบับ คือ ร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคม ฉบับที่....และร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินทดแทน ซึ่งได้หารือกับผู้บริหารประกันสังคมก็ได้ข้อสรุปว่า ควรจะต้องมีการปรับเนื้อหาเน้นให้ผู้ประกันตนเข้าถึงสิทธิได้มากขึ้น โดยเฉพาะกรณีการปรับลดเงินสมทบให้สามารถเลือกเฉพาะพื้นที่ประสบอุทกภัย หรือเกิดภัยพิบัติได้ ไม่จำเป็นต้องลดทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งจะไม่ให้กระทบกับเงินในกองทุนมากนัก
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีข้อร้องเรียนของผู้ประกันตนจำนวนมาก ที่ระบุว่า สายด่วน 1506 ของสปส.ไม่ตอบสนองในเรื่องข้อมูล และติดต่อยากไม่มีเจ้าหน้าที่รับสาย นพ.สมเกียรติ กล่าวว่า กรณีสายด่วน 1506 ของ สปส.เป็นการให้บริษัทเอกชนมารับเหมาไปดำเนินการ ซึ่งในสัญญาว่าจ้างได้มีการระบุไว้อย่างชัดเจนให้ทางบริษัทต้องจัดเจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ให้เพียงพอ และการให้ข้อมูลแก่ผู้ประกันตนจะต้องมีความทันสมัยอยู่เสมอ โดยสปส.จะเป็นผู้คอยป้อนข้อมูลให้แก่บริษัทเอกชน ทั้งนี้ หากตรวจสอบพบว่าเป็นข้อบกพร่องของบริษัทเอกชน และมีการทำผิดสัญญาก็จะยกเลิกสัญญา และเปิดให้บริษัทอื่นที่มีศักยภาพมาดำเนินการแทน แต่หากพบว่ามีปัญหาเรื่องข้อมูลไม่ทันสมัย ก็ถือเป็นความบกพร่องของสปส.เอง ซึ่งจะต้องไปตักเตือนผู้ที่รับผิดชอบ
